พลิกปูม ‘วัฒนา เมืองสุข’ ธุรกิจ-ทรัพย์สิน-ความเป็นมาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร โยงปมหัวคิว 82 ล. ก่อนศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 99 ปี พร้อมเสี่ยเปี๋ยง อริสมันต์ กับพวก
.....................................
24 ก.ย. 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร (2) จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 99 ปี ตามกฎหมายให้จำคุกได้สูงสุด 50 ปี ,จำคุกนายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร อดีตนักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 66 ปี ให้จำคุกได้สูงสุด 50 ปี ,จำคุก น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 20 ปี , น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 44 ปี จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี ปรับจำเลยที่ 8 2 แสนกว่าบาท และจำคุกนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 4 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 2, 3, 9, 11-14 คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : 'วัฒนา'ยื่น 10 ล.! ศาลให้ประกันตัว-อุทธรณ์สู้ต่อหลังโดนคุก 99 ปีคดีบ้านเอื้ออาทร
ย้อนดูปูมประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับนายวัฒนา เป็นเครื่องเคียง
@คน จ.ปราจีนฯ
ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่กำกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) มี 3 คน คือนายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายประชา มาลีนนท์ และนายวัฒนา เมืองสุข ซึ่งเข้ามาดูแลเป็นคนสุดท้าย
‘วัฒนา’ เกิดในครอบครัวยากจน พ่อแม่มีอาชีพทำสวนอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี เรียนจบประถมการศึกษาปีที่ 7 จากสถานศึกษาในปราจีนฯบ้านเกิด แม่อยากให้มาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เลยตามใจแม่ มาสอบเข้าศึกษาต่อ ม.ศ. 1 ที่ สวนกุหลาบวิทยาลัย ขณะเรียนอาศัยวัดนอนขอข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิต เพื่อนร่วมรุ่น เนวิน ชิดชอบ นที ขลิบทอง ทรงศักดิ์ ทองศรี พอจบ ม.ศ. 5 สอบเข้าคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ มีเพื่อน ชื่อ ดร.กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ดร.ปานปรีย์ มหิธานุกร จรณชัย ศัลยพงศ์ ฯลฯ
@ กก. ธุรกิจ 3 แห่ง เลิกหมดแล้ว
ในทางธุรกิจเคยเป็นกรรมการ บริษัท 3 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ทิฟฟี่ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 3 ตุลาคม 2528 ทุน 4 ล้านบาท ขายอาหาร ที่ตั้งเลขที่ 168/1-3 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิตกรุงเทพฯ เป็นกรรมการร่วมกับนายศิริศักดิ์ ศิระโรจนกุล นายวิวัฒน์ ตระกูลฮุน และนายกมล เอกประชาสิน
2. บริษัท ปรารถนา แลนด์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 11 มิถุนายน 2528 ทุน 1 ล้านบาท ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 49/23 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เป็นกรรมการร่วมกับ นายมานัส วงศ์พิวัฒน์ นางวนิดา วงศ์พิวัฒน์ และนายวิวัฒน์ ตระกูลฮุน
3. บริษัท เพลินพฤกษา จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 17 กันยายน 2530 ทุน3 ล้านบาท รับเหมาก่อสร้าง ที่ตั้งเลขที่ 8/46 ซอยรุ่งทิวา ถนนลาดพร้าว แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพฯ เป็นกรรมการร่วมกับ นายเกษม จิ๋วประดิษฐกุล นายอุดมสิน ละอองสุวรรณ และนายไกรสร ทิพยรังสฤษฏ์
เลิกกิจการหมดแล้ว
ขณะรับตำแหน่ง นายวัฒนาแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลายครั้ง
วันที่ 4 ตุลาคม 2545 ขณะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 21,839,409 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 2 บัญชี 524,159 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท สิ่งปลูกสร้างอื่น 1 หลัง 3,000,000 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 2,365,562 บาท รวมหนี้สิน 2,365,562 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 19,473,846 บาท ภรรยานามสกุลเจียรวนนท์ ไม่จดทะเบียนสมรส
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 702,268 บาท
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2546 กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนามีทรัพย์สิน 23,022,662 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 2 บัญชี 1,707,412 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท สิ่งปลูกสร้างอื่น 1 หลัง 3,000,000 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 771,467 บาท รวมหนี้สิน 771,467 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 22,251,195 บาท
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,303,864 บาท
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2546 กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินจำนวนเดียวกับพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2547 กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครบ 1 ปี นายวัฒนามีทรัพย์สิน 24,421,202 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 6,105,952 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 1,339,683 บาท
วันที่ 14 มีนาคม 2548 กรณี พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนา มีทรัพย์สิน 24,507,827 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 6,192,577 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,345,882 บาท
วันที่ 14 มีนาคม 2548 กรณีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่ามีทรัพย์สินจำนวนเดียวกับกรณี พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
วันที่ 2 สิงหาคม 2548 กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัฒนามีทรัพย์สิน 23,505,949 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 5,190,699 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,352,265 บาท
วันที่ 3 สิงหาคม 2548 กรณีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวัฒนา มีทรัพย์สิน 23,505,949 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 5,190,699 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,352,265 บาท (จำนวนเดียวกับกรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอตุสาหกรรม)
วันที่ 14 มีนาคม 2549 กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครบ 1 ปี นายวัฒนามีทรัพย์สิน 24,352,742 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 6,037,492 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,353,258 บาท
วันที่ 2 สิงหาคม 2549 กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอตุสาหกรรม ครบ 1 ปี นายวัฒนา มีทรัพย์สิน 24,879,578 บาท เงินฝาก 2 บัญชี 6,564,328 บาท ที่ดิน 4 แปลง 15,815,250 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,500,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คน มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 1,364,395 บาท
ล่าสุด วันที่ 19 กันยายน 2549 พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีทรัพย์สินรวม 24,484,570 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 2 บัญชี 6,169,320 บาท ที่ดิน 4 แปลง รวม 15,815,250 บาท รถยนต์ 1 คัน 2.5 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
บุตร 3 คนมีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 1,364,395 บาท
@เทิร์นคีย์บิ๊กลอต
ในยุคนายวัฒนาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2548-กันยายน 2549 การเคหะฯทำสัญญาร่วมดำเนินโครงการกับเอกชน (เทิร์นคีย์) ล็อตใหญ่ จำนวนมาก อาทิ กลุ่มอิตาเลี่ยนไทย จำนวน 100,000 หน่วย วงเงิน 42,000 ล้านบาท บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำนวน 40,000วงเงิน 16,800 ล้าน ,กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสจีเอ็มเอ็นเอช -เอเพ็คซ์-ลีบร้าครีท (ไทยแลนด์) จำนวน 30,000 หน่วย วงเงิน 12,600 ล้านบาท ,หจก. สามประสิทธิ์ จำนวน 30,000 หน่วย วงเงิน 12,600 ล้านบาท , กลุ่ม กลอรี่คอนสตรัคชั่น จำนวน 23,000 หน่วย วงเงิน 12,600 ล้านบาท ,บริษัทราชธานี และที่ดิน จำนวน 16,054 หน่วย วงเงิน 6,742 ล้านบาท , กิจการร่วมค้าพีซีซี 10,000 หน่วยวงเงิน 4,200 ล้านบาท , บริษัท สิทธิชัยเอนจิเนียริ่ง จำกัด 2400 หน่วย วงเงิน 1,008 ล้านบาท บริษัท ซีคอน จำกัด โครงการบ้านเอื้อ อาทรอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร วงเงิน 1,053,360,000 บาท บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด จำนวน 7,500 หน่วย
นายเอกภพ รักตพงศ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทกลอรีคอนสตรัคชั่น เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2549 ว่า เข้ามาทำโครงการบ้านเอื้ออาทรเพราะได้รับการชักชวนจากนายวัฒนาให้มาช่วยกัน
@ คำฟ้อง ปมสินบน 82 ล.
ที่มาของคดีนี้ คณะกรรมการตรวจสอบ (คตส.) ได้ส่งสำนวนการตรวจสอบไต่สวนการกระทำกรณีกล่าวหานายวัฒนา เมืองสุข ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ กับพวก ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนโดยการเคหะแห่งชาติในโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามหมายเลขดำที่ 17-3-179/2451 คดีหมายเลขแดงที่ – มายังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินคดี ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งรายงานการไต่สวนเป็นคดีหมายเลขดำที่ 17-3-179 /2451 คดีหมายเลขแดงที่ 346-3-3/2559 ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวข้างต้น โดยขอให้พิจารณารวมกับสำนวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ได้รับไว้แล้วต่อไปอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วให้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ และมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดกับผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เพื่อหาข้อยุติในการดำเนินคดี
ต่อมาอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีมีมูลพอฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิบเก้าในคดีนี้ จึงมีคำสั่งรับดำเนินคดี โดยดำเนินการฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 19 รายดังกล่าว
ในรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียห่ายแก่รัฐ (คตส.) ระบุว่า
บริษัท พาสทิญ่าไทย โดยนายฮาฮ์มัด บิน ฮารอน และนายชาฮ์นน บิน ยาขอบ กรรมการผู้จัดการ ได้ทำสัญญาร่วมดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะฯ โดยนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ผู้ว่าการฯ จำนวน 7,500 หน่วย (สัญญาฉบับเลขที่ กคช.18/2549) ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้น ขนาด 33 ตางรางเมตร การเคหะฯจ่ายค่าตอบแทนเป็นราคาเหมารวมต่อหน่วยซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุ ค่าแรงงาน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากรอื่นๆ และค่าธรรมเนียมต่างๆในราคาหน่วยละ 420,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,150 ล้านบาท
รายงานของ คตส. ระบุว่า โครงการที่บริษัทพาสทิญ่าฯรับเหมา ได้แก่
1.โครงการสวนพลูพัฒนา ตามสัญญาเลขที่ บค.3-05/2548 จำนวน 560 หน่วย 2. โครงการผดุงพันธ์ ตามสัญญาเลขที่ บค.3-34/2548 จำนวน 1,385 หน่วย 3. โครงการนนทบุรี (วัดกู้ 3) จำนวน 1,200 หน่วย 4.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 2 (วัดคู่สร้าง 1) จำนวน 1,080 หน่วย, 5.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 2 (วัดคู่สร้าง1 ) จำนวน 1,200 หน่วย 6. โครงการบ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (ลำลูกกาคลอง 2) จำนวน 2,608 หน่วย และ7.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3) จำนวน 2,160 หน่วย รวมมูลค่าโครงการ 2,500 ล้าน
รายงานของคตส.ระบุว่า บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด เบิกเงินล่วงหน้าจากการเคหะฯไปแล้วรวม 475 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 82,600,260 บาท ถูกแบ่งออกเป็น 2 ก้อน
ก้อนแรก 18,750,260 บาท บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด โดยนายชาฮ์นน บิน ยาขอบ ได้ออกเช็คธนาคารกรุงเทพ สาขารัตนธิเบศร์ เลขที่ 0567999-0568009 จำนวน 11 ฉบับ จากบัญชีเลขที่ 058-301793-4 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2549 (หลังจากทำสัญญาประมาณ 43 วัน) จ่ายให้นายสุจิตร สวนโสกเชือก คนขับรถของนายอภิชาติ จัทร์สกุลพร จากนั้นมีการเบิกเป็นเงินสดออกไปโดยไม่ทราบว่านำไปให้ใคร
ก้อนที่สอง 63,850,000 บาท ออกเป็นเช็คธนาคารกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ เลขที่ 0595573-0595608 จำนวน 34 ฉบับ จากบัญชี บริษัท พาสทิญ่าไทย เลขที่ 058-301793-4 โดยนายชาฮ์นน บิน ยาขอบ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2549 โอนไปเข้าบัญชีน.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา แม่บ้าน บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง เลขที่ 185-0-875855 ธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก- ดินแดง
ในวันเดียวกัน น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงานบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ซึ่งรับมอบฉันทะจากน.ส.รุ่งเรือง ได้เบิกถอนออกไปทั้งหมด แล้วนำไปเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง จำนวน 400,000 บาท บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาถ.ดินแดง เลขที่ 128-0-98021 จากนั้นก็เบิกถอนออกไป
อีกส่วนหนึ่ง 63,450,000 บาท น.ส.กรองทองนำไปเข้าบัญชีตนเองธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก-ดินแดง เลขที่ 185-0-821016 จากนั้น (วันเดียวกัน) โอนต่อไปเข้าบัญชี บุคคลและนิติบุคคล 5 บัญชี ได้แก่
บัญชี บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง 2 บัญชี รวม 55,404,204 บาท แบ่งเป็น บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ เลขที่ 153-0-821016 จำนวน 31,004,204.75 บาท และ บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ เลขที่ 153-3-060289 จำนวน 24,400,000 บาท
บัญชีนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร 2 บัญชี จำนวน 3,l138,215 บาท แบ่งเป็นบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก-ดินแดง เลขที่ 185-0-561265 จำนวน 2,882,900 บาท และบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก-ดินแดง เลขที่ 185-3-056834 จำนวน 255,315 บาท
และนำไปเข้าบัญชีนางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข 1 บัญชี จำนวน 3,000,000 บาท (ธนาคารกรุงเทพ สาขาอโศก-ดินแดง เลขที่ 185-0-895721)
คตส.ระบุว่าแม้เงินจำนวน 82.6 ล้านบาทไม่ได้เข้าบัญชีเงินฝากของนายวัฒนา โดยตรง แต่มีพยานซึ่งเป็นพนักงานในบริษัท พาสทิญ่าไทย ให้การว่าเป็นเงินหัวคิวบ้านเอื้ออาทรหน่วยละ 11,000 บาท
กระทั่งล่าสุดวันนี้นายวัฒนาถูกศาลฎีกาฯพิพากษา จำคุก 50 ปี พร้อม ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อริสมันต์ กับลูกน้อง
รอดูว่าจะอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาหรือไม่ และผลเป็นอย่างไร?
อ่านประกอบ:
24 ก.ย.ศาลฎีกาฯนัดฟังคำพิพากษาคดีบ้านเอื้ออาทร-ออกหมายจับ'กี้ร์-2 ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยง'
'แก้วสรร'เบิกความคดีบ้านเอื้อฯ-เส้นทางเงินพันล.พักร้านก๋วยเตี๋ยวก่อนวกเข้า บ.เสี่ยเปี๋ยง
เบื้องหลัง อัยการสั่งฟ้อง‘วัฒนา’กับพวก คดีบ้านเอื้ออาทร ปมสินบน 82 ล.
ศาลฎีกาไต่สวน 10 มิ.ย.นี้! 'วัฒนา'แจง 3 ข้อคดีบ้านเอื้ออาทร ไม่มีหลักฐานเรียกรับผล ปย.
ฉากหลัง คดีบ้านเอื้ออาทร ผล ปย.ทับซ้อน-หัวคิวหลังละหมื่น
ฉบับเต็ม! คำสั่งอายัดที่ดิน 13 แปลง ในชื่อหญิงสาว คดี‘วัฒนา’สินบนบ้านเอื้ออาทร
ปปง.อายัดทรัพย์คดีสินบนบ้านเอื้ออาทร‘วัฒนา เมืองสุข’พวก ที่ดิน 13 แปลง 51.5 ล.
ป.ป.ช.ฟันเงียบ‘วัฒนา’คดีบ้านเอื้ออาทร-อัยการยังไม่ฟ้องสำนวนไม่สมบูรณ์ตั้ง กก.ร่วม
‘อริสมันต์’โดนอีก! อสส.ฟ้องเพิ่ม5รายสนับสนุน ‘วัฒนา’คดีบ้านเอื้ออาทร-3เอกชนด้วย
เบื้องหลัง อัยการสั่งฟ้อง‘วัฒนา’กับพวก คดีบ้านเอื้ออาทร ปมสินบน 82 ล.
บิ๊กตู่ สั่งเร่งรัดคดีบ้านเอื้ออาทร -ชมอิศราทำข่าวตรวจสอบทุจริตดีหลายเรื่อง
ไขคำตอบ! 3 บริษัทโนเนม ถูกฟ้องคดี'วัฒนา'บ้านเอื้ออาทร
เปิดคำแถลงอสส.ฟ้องคดี วัฒนา-พวก 19 ราย ทุจริตบ้านเอื้ออาทร 'เสี่ยเปี๋ยง-อริสมันต์' โดนด้วย
ชำแหละคดีบ้านเอื้ออาทร‘วัฒนา’ ไฉนเพิ่งโต้ทั้งที่ถูกชี้มูลต้นปี’60-ป.ป.ช. เร่งรัดจริงหรือ?
เผยโฉม 3 นักลงทุนมาเลเซียผู้จ่าย 82 ล.นักการเมืองโยงเด็กเสี่ยเปี๋ยง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage