"...ทันทีที่ทราบว่ามีการตกค้างของคนไทยในสหรัฐฯ และรับทราบเกี่ยวกับหนังสือเสนอข้อเรียกร้อง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน (สอท.) และ สถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) ทั้ง 3 แห่งของสหรัฐฯ (ลอสแอนเจลิส ชิคาโก และนิวยอร์ก) ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการดูแลคนไทยเสมอ จึงมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศไทยและในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลและให้ความช่วยเหลือคนไทยในสหรัฐฯ เป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทุกฝ่ายจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ลำบากที่ไม่เคยประสบมาก่อน..."
"อยากจะฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่กงสุลทั้ง 3 แห่ง คือกงสุลใหญ่ที่วอชิงตัน ดีซี กงสุลที่แอลเอ และกงสุลที่ชิคาโกที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกตั้งแต่เรื่องเอกสาร การลงทะเบียนนับแต่ขั้นตอนการขอกลับมา การจองตั๋วเครื่องบิน การไปดูแลที่สนามบิน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย ที่ดูแลดีมากตั้งแต่ลงเครื่องเมื่อมาถึงประเทศไทยกระทั่งสู่สถานที่กักตัว"
คือ ประโยคบอกเล่าของ น้องนานา (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) นักศึกษา MBA จาก Concordia University Chicago หนึ่งในนักเรียนนักศึกษาไทย 120 ราย ที่ตกค้างอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันเดินทางกลับถึงประเทศไทย และเข้ารับการกักตัวป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เป็นเวลา 14 วัน ตามนโยบายของรัฐบาล ในรายงานเรื่อง ปิดฉากภารกิจช่วย 'นร.-นศ.' 120 ราย ตกค้างสหรัฐฯ กลับถึงไทย-เข้ากักตัว 14 วันแล้ว ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำมาเสนอให้รับทราบไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ภายใต้ภารกิจให้ความช่วยเหลือ นักเรียนนักศึกษาไทย ที่ตกค้างในสหรัฐฯ จำนวนนับร้อยคนให้เดินทางกลับประเทศไทย ครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจ้าหน้าที่กงสุลทั้ง 3 แห่ง คือกงสุลใหญ่ที่วอชิงตัน ดีซี กงสุลที่แอลเอ และกงสุลที่ชิคาโก มีบทบาทสำคัญอย่างมาก
เพื่อให้สาธารณชน รับทราบข้อมูลขั้นตอนปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือ นักเรียนนักศึกษาไทย ที่ตกค้างในสหรัฐฯ เดินทางกลับประเทศไทย ครั้งนี้ มากขึ้น
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เพื่อขอทราบรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ว่า ทันทีที่ทราบว่ามีการตกค้างของคนไทยในสหรัฐฯ และรับทราบเกี่ยวกับหนังสือเสนอข้อเรียกร้อง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน (สอท.) และ สถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) ทั้ง 3 แห่งของสหรัฐฯ (ลอสแอนเจลิส ชิคาโก และนิวยอร์ก) ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการดูแลคนไทยเสมอ จึงมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศไทยและในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลและให้ความช่วยเหลือคนไทยในสหรัฐฯ เป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทุกฝ่ายจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ลำบากที่ไม่เคยประสบมาก่อน
โดยได้ผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ดังนี้
- ได้รับความร่วมมือจากแพทย์ไทยในสหรัฐฯ ในการอำนวยความสะดวกออกใบรับรองแพทย์ Fit to Fly ให้กับคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ทั้งที่รับการตรวจ ณ สถานพยาบาล และคณะแพทย์อาสาที่ช่วยตรวจสุขภาพให้แก่คนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยโดยเที่ยวบินพิเศษ ที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ช่วยออกใบรับรองแพทย์ให้กับคนไทยที่เดินทางกลับเที่ยวบินพิเศษที่ท่าอากาศยาน Dallas Fort Worth International Airport นครดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 63ซึ่งช่วยให้คนไทยสามารถขอรับใบรับรองแพทย์ฯ ได้ทันเวลาและมีความอบอุ่นใจที่ได้พบกับแพทย์ไทย
@ นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นำทีมสถานกงสุลใหญ่ฯ อำนวยความสะดวกพร้อมมอบหน้ากากอนามัย แผ่นแอลกอฮอล์ทำความสะอาด และชุดอาหาร ก่อนส่งนักเรียนไทยและคนไทย 30 คน ออกจากท่าอากาศยานนครลอสแอนเจลิส ไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโซลเพื่อกลับประเทศไทย
- ได้รับความร่วมมือจากสมาคมนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาในการรวบรวมรายชื่อแพทย์และสถานพยาบาลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาที่เคยออกใบรับรองแพทย์ Fit to Fly ให้กับคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งช่วยลดเวลาการหาสถานพยาบาลที่สามารถออกใบรับรองแพทย์ฯ ดังกล่าวได้
- ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากสมาคม/ชุมชนไทยในสหรัฐฯ ในการสื่อสารกับคนไทยในชุมชนเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตนในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตลอดจนได้รับความร่วมมืออย่างดีในการร่วมจัดกิจกรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในสหรัฐฯ ในแต่ละพื้นที่ เช่น การจัดทำหน้ากากผ้า นอกจากนี้ ในภารกิจการส่งคนไทยเดินทางกลับประเทศไทยยังได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่ง โดยมีตัวอย่างความร่วมมือในการส่งคนไทยกลับประเทศไทยด้วยเครื่องบินพิเศษที่กองทัพบกให้การสนับสนุน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 63 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนไทยในนครชิคาโกในการประสานแพทย์ในนครดัลลัส และชุมชนไทยในนครดัลลัสที่ได้สนับสนุนอาสาสมัครในการอำนวยความสะดวก จัดคิว ตรวจสอบเอกสารและแจกอาหารให้แก่ผู้เดินทางกลับประเทศไทย โดยผู้แทนชุมชนไทยยังได้ช่วยจัดหาที่พักให้แก่เยาวชนที่เดินทางมารอการขี้นเครื่องบินพิเศษและประสบปัญหาเรื่องการจัดหาที่พักด้วย
- ได้เชิญชวนชุมชนไทยมีส่วนร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้งสามแห่ง ในการแนะนำที่พักราคาย่อมเยา สะอาดและปลอดภัย สำหรับคนไทยจำนวนหนึ่งประสบปัญหาในการหาที่พักระหว่างรอการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รวบรวมเป็นทางเลือกให้กับคนไทยไว้ที่ https://thaiembdc.org/recommendaccom/
@ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ร่วมกันจัดทำ “ถุงอุ่นใจ” สำหรับการเดินทาง ประกอบด้วยหน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู แผ่นแอลกอฮอล์ทำความสะอาด และขนมขบเคี้ยว เพื่อแจกนักเรียนไทยและคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทยจากท่าอากาศยานเมืองดัลลัส
@ นายพันธ์สัคค์ ศรีเพ็ญ นายกสมาคมไทยเท็กซัสตอนเหนือ และชุมชนไทยในรัฐเท็กซัสช่วยแจก “ถุงอุ่นใจ” สำหรับการเดินทาง ให้นักเรียนไทยและคนไทยกว่า 160 คนที่ออกจากท่าอากาศยานเมืองดัลลัสกลับประเทศไทย โดยเครื่องบินพิเศษที่กองทัพบกให้การสนับสนุน (เครดิตรูป: คุณประพันธ์ โพธิ์ดำ เมืองดัลลัส)
การจัดสรรโควต้าเดินทางกลับไทย -ปัจจุบันคนลงทะเบียน 6,000 คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ระบุว่าปัจจุบัน มีคนมาลงทะเบียนกว่า6,000คน โดยในจำนวนนี้ ยังมีกลุ่มที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทยภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ประมาณ 3,500 คน (อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเกือบ 900 คน รัฐฟลอริดาเกือบ 500 คน รัฐนิวยอร์กเกือบ 350 คน ส่วนรัฐที่เหลือรัฐละไม่ถึง 200 คน)
ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้งสามแห่ง ได้รับการจัดสรรโควต้าจากรัฐบาลให้ส่งคนไทยกลับบ้านไปแล้วสองช่วง คือ ช่วง 17-19 เม.ย. และ 10-19 พ.ค. รวมเกือบ 1,250 คน ทั้งผ่านความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยกับสหรัฐฯ สายการบิน Korean Air สายการบิน Asiana และการบินไทย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่อยู่ระหว่างการอำนวยความสะดวกคนไทยกลับบ้านเพิ่มเติมช่วงปลายเดือน พ.ค. ศกนี้ อีกประมาณ 300คน ทั้งนี้ คนกลุ่มแรกสุดประมาณ 400 คนที่เดินทางกลับถึงไทยแล้ว (ช่วง 17 – 19 เม.ย. 2563) โดยกว่าร้อยละ 90 เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ที่เดินทางมาศึกษาเล่าเรียนในสหรัฐฯ ตามโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ในประมาณ 11 โครงการ (AFS/CETUSA/InterExchange/iStudy/MPLC/OEG/Rotary/Youth Exchange/ YFU/Education First/YES Thailand/IEE Thailand และ Engenius (AFS ประมาณ 150คน)
อีกร้อยละ 10 เป็นผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและได้รับการพิจารณาจากเหตุผลทางมนุษยธรรม อาทิ ผู้ประสบปัญหาสุขภาพ ทั้งตนเองหรือพ่อแม่/ญาติใกล้ชิดที่ประเทศไทย วีซ่าหมดอายุ (สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้งสามแห่งได้ให้ข้อแนะนำช่องทางและแนวทางการแจ้งขออนุญาตขยายเวลาจากทางการสหรัฐฯ ด้วยแล้ว) และไม่มีเงิน/ไม่มีที่พักเพียงพอที่จะพำนักต่อในสหรัฐฯ ได้
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค.2563 ทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ได้รับโควต้าเพิ่มเติมให้จัด repatriation flightอีก 3 เที่ยวบิน ดังนี้
22 พ.ค. 2563 จำนวน 100 คน
28 พ.ค. 2563 จำนวน 100 คน
30 พ.ค. 2563 จำนวน 100 คน
การติดตามข้อมูลข่าวสาร
สถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดโอกาสให้คนไทยในสหรัฐฯ ที่มีแผนการเดินทางกลับประเทศไทยในปีนี้และประสงค์จะรับทราบข้อมูลข่าวสารในภาวะฉุกเฉินจาก สอท. ทางอีเมล สามารถลงทะเบียนและแจ้งแผนการเดินทาง พร้อมเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน (หากมี) ได้ผ่านเว็บไซต์ของ สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ www.thaiembdc.org/emergencyregเพื่อเป็นข้อมูลให้ส่วนราชการไทยที่เกี่ยวข้องพิจารณาความจำเป็นที่จะให้มีการบินรับส่งบุคคลกลับไทย (repatriation flight) ตามข้อยกเว้นของ กพท. และเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการการเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพตามโควต้าที่ได้รับจัดสรร ซึ่งต้องแบ่งกับคนหลายหมื่นคนไทยจากทั่วโลกที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย
- จากการออกหนังสือรับรองกว่า 3,000 ฉบับของสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้งสามแห่งในสหรัฐฯ ก่อนประกาศ กพท. ห้ามทำการบินเข้าประเทศไทยชั่วคราวฉบับแรกเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2563 ทำให้ทราบว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางมาสหรัฐฯ ชั่วคราว ทั้งนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่มาทำงานตามสัญญาจ้าง จำนวนมากได้ทยอยกลับประเทศไทยแล้วขณะเดียวกันก็ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้บุคคลกลุ่มนี้ที่ยังคงอยู่ในสหรัฐฯ ทราบอย่างต่อเนื่องว่า หากประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ขอให้รีบเดินทางเพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เกณฑ์การคัดเลือกและการดำเนินการกับผู้ตกค้างต่อไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ระบุว่าการดำเนินการเป็นไปตามนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิภาพของคนไทยในต่างประเทศ โดยให้ความสำคัญอันดับต้นแก่กลุ่มเยาวชนและนักเรียนตลอดจนผู้ประสบปัญหากลุ่มต่าง ๆ ที่ตกค้างให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย รายละเอียดดังนี้
- กลุ่มคนไทยติดค้างก่อนประกาศห้ามสายการบินพาณิชย์บินเข้าไทยเมื่อ 3 เม.ย. 63
- เรียงตามอันดับการลงทะเบียนใน www.thaiembdc.org/emergencyreg โดยขณะนี้ ติดต่อผู้ที่ลงทะเบียนไปประมาณ 3,200 คน
- กลุ่มเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 10 ปี (ระหว่าง 0-17 ปี) (พร้อมครอบครัว สำหรับเด็กเล็ก)
- กลุ่มผู้ที่มีปัญหาความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงปัญหาสุขภาพของผู้ปกครองที่ประเทศไทย ซึ่งจำเป็นต้องการให้กลับไปดูแลโดยด่วน อาทิ ปัญหาสุขภาพพ่อแม่หรือญาติใกล้ชิดที่จำเป็นต้องกลับไปดูแลปัญหาสุขภาพของตนเองที่จำเป็นต้องกลับไปรักษาในประเทศไทย และ/หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ ปัญหาวีซ่าหมดอายุและไม่สามารถต่อได้ ไม่มีเงิน/ไม่มีที่พักและไม่สามารถขอความช่วยเหลือชุมชนไทยในพื้นที่ได้โดยเป็นข้อมูลที่ได้รับจากการลงทะเบียน และการโทรศัพท์เข้ามาขอรับการช่วยเหลือผ่านสาย Hotlines ของสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้งสามแห่ง
@ นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมด้วย พอ. (พิเศษ) สยามรัฐ รุ่งสังข์ ผู้ช่วยทูตทหารบก นำทีมสถานเอกอัครราชทูตฯ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ เมืองดัลลัส และชุมชนไทยในรัฐเท็กซัส อำนวยความสะดวกพร้อมมอบ “ถุงอุ่นใจ” สำหรับการเดินทาง ก่อนส่งนักเรียนไทยและคนไทยกว่า 160 คน ออกจากท่าอากาศยานเมืองดัลลัสกลับประเทศไทย โดยเครื่องบินพิเศษที่กองทัพบกให้การสนับสนุน (เครดิตรูป: คุณประพันธ์ โพธิ์ดำ เมืองดัลลัส)
@ นายอรรณพ ศูนย์จันทร์ รองกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก นำทีมสถานกงสุลใหญ่ฯ อำนวยความสะดวกคนไทยในนครนิวยอร์กและรัฐใกล้เคียงในการเดินทางกลับประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคเนดี นครนิวยอร์ก
ทั้งหมดนี้ คือ เบื้องหลังการทำงานของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก และหน่วยงาน องค์กร กลุ่มบุคล เจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่ล้วนมีส่วนร่วมช่วยให้ภารกิจส่งคนไทยที่ตกค้างในสหรัฐฯ
ท่ามกลางความทุ่มเท พยายามอย่างหนักของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนปัญหาทั้งหมดคลี่คลายลงไปได้ด้วยดี
ควรค่าแก่การบันทึกไว้จดจำ ว่าคนไทยไม่ทิ้งกัน!
อ่านเรื่องประกอบ :
เปิดใจข้ามโลก! ชะตากรรม นร.-นศ.120 ราย ตกค้างสหรัฐฯ วอนรบ.ไทย ช่วยพากลับบ้าน
ตกค้างสหรัฐฯ120 ราย! นร.-นศ. ไทยเดือนร้อนหนักวอน รบ.ส่งเครื่องบินรับกลับบ้าน-พร้อมกักตัว
อัพเดตชีวิต 'นร.-นศ.' 120 ราย ตกค้างสหรัฐฯ "หนูได้วันเดินทางกลับแล้วค่ะ.. ดีใจจังเลย
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage