"สำหรับวิถีชีวิตคนในเมืองชิคาโกปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิดนั้น น้องนานา เล่าว่า ตอนนี้โดยรวมแล้วทุกคนจะไปไหนมาไหนต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่โดยรวมทุกคนใส่หน้ากากแล้ว 80% การใช้ชีวิตซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นแบบวันเวย์ ไม่ให้รถเข็นสวนทางกัน การขึ้นลิฟต์ ให้ขึ้นแค่ 2-3 คน ร้านอาหารยังไม่เปิดให้นั่งทานให้ร้าน ต้องซื้อกลับบ้าน ..ที่น่าสนใจ คือ ตลาดเอเชีย ที่เมื่อก่อนเคยคึกคักมาก ปัจจุบันอยู่ในสภาพโล่ง ไม่ค่อยมีใครมาจับจ่ายใช้สอยกันเหมือนเดิม..."
เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอข้อร้องเรียนของตัวแทนนักเรียนนักศึกษาไทย ในจำนวน 120 ราย ที่ยังตกค้างอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 ขยายเวลาห้ามเครื่องบินเข้าไทย ออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ และได้มีการร่วมลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงาน และ กงสุลไทยเข้าให้ความช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องกรอบระยะเวลาที่แน่นอนในการปิดน่านฟ้า รวมไปถึงการจัดเครื่องบินเหมาลำ เพื่อมารับเป็นกรณีพิเศษ ตามประกาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในข้อที่ (5) ที่ให้อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา พร้อมเข้ารับการกักตัวคัดกรองโรค
โดยในหนังสือเรียกร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากผลกระทบในการประกาศปิดน่านฟ้าไทยทั้ง 3 รอบ ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงกับนักเรียนนักศึกษาไทย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายค่าพักอาศัย สถานที่ทำงานปิด ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ ถูกยกเลิกสัญญาจ้างงาน ระบบสาธารณสุขไม่รองรับการรักษาและไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกัน บางรายมีการซื้อตั๋วเลื่อนไฟท์บินหลายรอบ ทำให้เครดิตเต็มวงเงิน ขณะที่การคืนเงินค่าตั๋วก็มีความที่ล่าช้าทำให้หลายคนประสบปัญหาด้านการเงิน บางคนไม่สามารถดูแล ตนเองได้ และไม่มีญาติหรือคนรู้จักอยู่ที่สหรัฐฯ (อ่านประกอบ : สถานทูตไทย กรุงวอชิงตัน นำคนไทย-นักเรียนแลกเปลี่ยน ติดค้างในสหรัฐกว่า 400 คน เดินทางกลับไทยช่วง 17-19 เม.ย. 2563, เปิดใจข้ามโลก! ชะตากรรม นร.-นศ.120 ราย ตกค้างสหรัฐฯ วอนรบ.ไทย ช่วยพากลับบ้าน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง ตัวแทนนักเรียนนักศึกษาไทยในจำนวน 120 ราย ที่ยังตกค้างอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อสอบถามความคืบหน้าความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ในการนำตัวพวกเขากลับบ้าน
ได้รับแจ้งจากว่า พวกเขา ได้รับการติดต่อให้การช่วยเหลือจากการทางไทยให้เดินทางกลับประเทศไทย รวมกับคนไทยกลุ่มอื่นในสหรัฐฯ จำนวน 580 ราย ซึ่งจะแบ่งออกเป็นรอบๆ แยกเป็น
- 10 พ.ค.2563 จำนวน 80 ราย
- 12 พ.ค.2563 จำนวน 150 ราย
- 16 พ.ค.2563 จำนวน 200 ราย
-19 พ.ค.2563 จำนวน 150 ราย
ส่วนขั้นตอนแนวทางปฏิบัติเป็นไปตามเอกสารที่ได้รับแจ้งมาจาก สถานทูตไทย ในรัฐต่างๆ (ดูเอกสารประกอบ)
ส่วน น้องนานา (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) นักศึกษา MBA จาก Concordia University Chicago ผู้ตกค้างอยู่ในชิคาโก ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา ระบุว่า ได้วันเดินทางกลับไทยแล้ว กำลังรอคุยกับสายการบินอยู่
"ล่าสุดหนูได้วันเดินทางกลับแล้วคะ ดีใจจังเลย"
สำหรับวิถีชีวิตคนในชิคาโกปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิดนั้น น้องนานา เล่าว่า "ตอนนี้โดยรวมแล้วทุกคนจะไปไหนมาไหนต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่โดยรวมทุกคนใส่หน้ากากแล้ว 80% การใช้ชีวิตซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นแบบวันเวย์ ไม่ให้รถเข็นสวนทางกัน การขึ้นลิฟต์ ให้ขึ้นแค่ 2-3 คน ร้านอาหารยังไม่เปิดให้นั่งทานให้ร้าน ต้องซื้อกลับบ้าน
ที่น่าสนใจ คือ ตลาดขายสินค้าเอเชีย ที่เมื่อก่อนเคยคึกคักมาก ปัจจุบันอยู่ในสภาพโล่ง ไม่ค่อยมีใครมาจับจ่ายใช้สอยกันเหมือนเดิม (ดูรูปประกอบท้ายเรื่อง)
ทั้งหมดนี่ เป็นความคืบหน้าล่าสุด ปฎิบัติติดตามการให้ความช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาไทย ในจำนวน 120 ราย และคนไทยจำนวนมากที่ยังตกค้างอยู่ในสหรัฐฯ กลับบ้าน ของทางการไทย
ที่ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย!
**หมายเหตุ : สำหรับนักเรียนนักศึกษาไทย รวมถึงคนไทยทุกคน ที่ยังตกค้างอยู่ในต่างประเทศและได้รับความเดือดร้อน สามารถส่งข้อมูลการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านสำนักข่าวอิศรา ได้ตลอดเวลา ที่นี่ https://www.isranews.org/article/contact-isra.html
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage