"...ในช่วงเวลาดังกล่าวยังได้มีการแจ้งนโยบายจากนายรัชฎา ไปยังผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ว่าจะเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์เป็นรายเดือนจากงบประมาณในหมวดงบค่าดำเนินงานและค่าใช้สอยของหน่วยงานภาคสนามแต่ละแห่ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป จากแนวทางปฏิบัติการมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการและนโยบายการเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์เป็นเหตุให้ข้าราชการในสังกัดเกิดความเกรงกลัวว่าจะต้องถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง จึงจำยอมต้องจ่ายเงินรายเดือนให้กับ นายรัชฎา ..."
ณ เวลานี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คดีกล่าวหา นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวก เรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดเพื่อมิให้ถูกโยกย้ายตำแหน่งและเก็บเงินรายเดือนที่ได้รับการจัดสรรจากหมวดงบประมาณต่าง ๆ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด พร้อมให้ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.2566 ที่ผ่านมา
จำต้องหยุดชะงัก ยังไปไม่ถึงขั้นตอนการต่อสู้คดีในชั้นศาล
เมื่อปรากฏข่าวว่า อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีการพิจารณาสำนวนไต่สวนคดี ที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้แล้ว จำนวน 2 สำนวน คือ 1.กรณีการล่อซื้อจับกุมนายรัชฎา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดใบละ 1,000 บาท จำนวน 98 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 98,000 บาท และซองสีขาวจำนวน 3 ซอง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา พร้อมพวกรวม 8 ราย และ 2. กรณีซองเงินอื่นๆ ที่ตรวจยึดได้ในห้องทำงานของนายรัชฎา ที่รวบรวมจากหัวหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหลายคน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา พร้อมพวกรวม 12 ราย
เบื้องต้น อสส.เห็นว่าทั้ง 2 สำนวน มีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีได้ และได้มีหนังสือแจ้งถึงประธาน ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย ระหว่าง อัยการ และป.ป.ช.เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีร่วมกัน แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ ป.ป.ช.ก็สามารถยื่นฟ้องคดีเองตามขั้นตอนทางกฎหมายได้
ส่วนท่าทีของ ป.ป.ช. นั้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันว่า เกี่ยวกับกรณี อสส. แจ้งข้อไม่สำนวนในสำนวนคดีนี้ ได้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว โดยที่มีประชุมมีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์สำนวนคดีร่วมกับฝ่ายอัยการต่อไป
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีที่ อสส.แจ้งมานั้น มีจุดสำคัญอยู่ที่การปรับแก้ตัวบทกฏหมายลงโทษ ให้สอดคล้องกับพฤติการณ์การกระทำความผิดของนายรัชฎา และการไต่สวนรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนมีความแน่นหนามากขึ้น คณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช. กับ อัยการ จึงน่าจะหาข้อยุติรวมกันได้ เพียงแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการไต่สวนข้อมูลอีกระยะ แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ป.ป.ช.ก็สามารถยื่นฟ้องคดีเองตามขั้นตอนทางกฎหมายได้
ดังนั้น ปลายทางสุดท้ายของคดีนี้ คงจะต้องเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ในชั้นศาลแน่นอน
ทั้งนี้ เกี่ยวกับสำนวนการไต่สวนคดีนี้ ของ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา เคยนำเสนอข้อมูลไปบางส่วนแล้ว (อ่านรายละเอียดใน 'รัชฎา' โดนพร้อมพวก 7 ราย! ล้วงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีเรียกสินบน - ขอศาลริบเงินของกลาง)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำความผิด ของ นายรัชฎา ในสำนวนคดีนี้ของ ป.ป.ช. ที่ยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเป็นทางการมาก่อน
มีรายละเอียดดังนี้
นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 วัน ได้ลงนามในบันทึกข้อความกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ทส 0901.304/ว 3952 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่องซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ แจ้งเวียนไปยังหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดและอาศัยแนวทางปฏิบัติตามบันทึกฉบับดังกล่าว ลงนามในคำสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการจำนวนมาก
โดยจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ก่อนถูกจับกุม นับรวมจำนวน 255 คำสั่ง รวมจำนวนข้าราชการที่ถูกโยกย้ายทั้งสิ้น 1,293 ราย
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวยังได้มีการแจ้งนโยบายจากนายรัชฎา ไปยังผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ว่าจะเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์เป็นรายเดือนจากงบประมาณในหมวดงบค่าดำเนินงานและค่าใช้สอยของหน่วยงานภาคสนามแต่ละแห่ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป
จากแนวทางปฏิบัติการมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการและนโยบายการเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์เป็นเหตุให้ข้าราชการในสังกัดเกิดความเกรงกลัวว่าจะต้องถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง จึงจำยอมต้องจ่ายเงินรายเดือนให้กับ นายรัชฎา
โดยในเดือนตุลาคม 2565 และเดือนพฤศจิกายน 2565 มีการรวบรวมเงินจากการเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์รายเดือน จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) หัวหน้าอุทยานแห่งชาติจำนวน 7 ราย ได้จ่ายเงินที่ถูกเรียกรับรายเดือนในอัตราร้อยละ 8 ของงบประมาณค่าดำเนินงานและค่าใช้สอย เป็นเงินรวม 86,000 บาท และหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำนวน 6 ราย ได้จ่ายเงินรายเดือนเป็นเงินรวม 12,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 98,000 บาท นำส่งให้นายรัชฎา
จากพฤติการณ์ นายรัชฎา ดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 มาตรา 172 และ มาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีมติว่า การกระทำของหัวหน้าหน่วยงานที่ให้เงินแก่นายรัชฎา มีมูลความผิดทาง อาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 91 และฐานเป็นผู้สนับสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของ รัฐกระทำความผิด และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงด้วย
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายรัชฎา กรณีเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลล่าสุด
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด นายรัชฎาและพวก ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ปัจจุบัน นายรัชฎา ถูกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
ขณะที่ เจ้าตัวยืนยันว่ามาตลอดว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกทำพยานหลักฐานเท็จ วางแผนกลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษ
บทสรุปสุดท้ายการต่อสู้คดีนี้ ในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
- ยุคนี้ให้ส่วยเป็นเงินทอน! 'ชัยวัฒน์' ให้ปากคำคดีอธิบดีอุทยานฯ-ปัดตอบปมไม่ค้นบ้าน 'รัชฎา'
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- เช็คที่นี่! เปิดครบเงินสด-สิ่งของ 21 รายการ 4.8 ล.ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ใครส่งมาบ้าง?
- แอ่นแอ๊น! แกะซองเงินที่ 7 คดี 'รัชฎา' เจอตารางจ่ายรายเดือนงบปี 66 ด้วย 38 ล.+5% 1.9 ล.
- ฉบับเต็ม! คำสั่ง ทส. ให้ 'รัชฎา' ออกจากราชการไว้ก่อน เซ่นปมเรียกเงินสินบน
- มีผล 3 ก.พ.! ให้ออกจากราชการ 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกเงินสินบน
- ป.ป.ช.มีมติไต่สวนคดีสินบนอธิบดีอุทยานฯ-ยันมีหลักฐานรู้ตัวแล้วสาวถึงใครบ้าง
- ชี้ทำตามหน้าที่! ศาลคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง 'จรูญเกียรติ-พวก' กลั่นแกล้ง 'รัชฎา' ปมสินบน