"... การที่เอกชนกลุ่มนี้ สามารถเข้าเป็นคู่สัญญาได้งานจากหน่วยงานรัฐไปเป็นจำนวนมากนับพันล้านบาท ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดไว้ ในการให้สิทธิพิเศษหน่วยงานราชการจัดซื้อโดยวิธีเจาะจง และยังมีการกำหนดช่วงเวลาระยะเวลาในการขายสินค้าด้วย .. ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงของ ตัวแทนบริษัทเอกชนกลุ่มนี้ ที่ระบุว่า กระบวนการได้มาซึ่งงานภาครัฐ เป็นไปตามกติกาทุกอย่าง..."
ISRA-INVESTIGATIVE : ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกงานจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในบัญชีนวัตกรรมไทย ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงบประมาณ อันเป็นมาตรการส่งเสริมและผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่หากหน่วยงานของรัฐมีความต้องการจัดซื้อจัดจ้างตรงตามบัญชีสามารถดำเนินการโดยวิธีการเจาะจงได้ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามนำข้อมูลมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ หลังตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญว่ามีเอกชนกลุ่มหนึ่ง ที่นำสินค้ามาขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย สำนักงบประมาณ ปรากฏชื่อเข้าเป็นคู่สัญญางานจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง กับหน่วยงานรัฐในช่วงปี 2563-2564 นับร้อยโครงการ รวมวงเงินมูลค่านับพันล้านบาท
นับจนถึงปัจจุบัน สามารถขมวดปมสรุปข้อสังเกตสำคัญ ได้ดังต่อไปนี้
หนึ่ง : ที่มาโครงการ
จากการตรวจสอบข้อมูลสำนักข่าวอิศรา พบว่า บัญชีนวัตกรรมไทย เป็นมาตรการส่งเสริมและผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการกระตุ้นผู้ประกอบการไทยให้หันมาผลิตผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าแบบดั้งเดิม อันจะช่วยปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่อาศัยแรงงานและทรัพยากรเข้มข้นสู่อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
บัญชีนวัตกรรมไทย ยังถูกระบุว่าเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมไทย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการนวัตกรรมเหล่าที่มีคุณภาพ หากหน่วยงานของรัฐมีความต้องการจัดซื้อจัดจ้างตรงตามบัญชีสามารถดำเนินการโดยวิธีการเจาะจงได้
โดยสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทย สามารถจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานราชการได้ กรณีที่ไม่เคยจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานรัฐมาก่อนสามารถขึ้นทะเบียนได้สูงสุด 8 ปี หากเคยจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยภาครัฐมาแล้ว จะได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างน้อย 3 ปี
ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการเรื่องบัญชีนวัตกรรมไทย เป็นผลมาจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2558 ที่มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เป็นหน่วยตรวจสอบ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และมอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบราคากลางของผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติรวมทั้งจัดทำประกาศบัญชีนวัตกรรมไทยด้วย
นอกจากนี้ ยังมีข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่2 พ.ค. 2560 ให้สำนักงบประมาณเร่งรัดดำเนินการแจ้งบัญชีนวัตกรรมไทยให้ทุกหน่วยงานทราบและใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการใช้งานของแต่ละหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยให้แต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในอัตราส่วนร้อยละ 30 ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน
รวมไปถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับภารกิจของหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อพัสดุและครุภัณฑ์ของภาครัฐตามรายการในบัญชีนวัตกรรมไทย โดยให้เร่งรัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2562ทั้งนี้ให้สำนักงบประมาณติดตามและรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะๆด้วย
สอง. ข้อเท็จจริงในการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักข่าวอิศรา
อย่างไรก็ดี ในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย ของหน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินงานโครงการจัดซื้อ สินค้าเครื่องแปลงขยะเศษอาหารโดยใช้จุลินทรีย์ (Food Waste Recycling Machine) รหัส 14000029 ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) รหัส 01020003 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาในเรื่องการควบคุมและดูแลพัสดุขาดประสิทธิภาพ โครงการไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด
ขณะที่โครงการจัดซื้อระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit) รหัส 01020004 ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ จำนวนกว่า 110 แห่ง เป็นเงินกว่า 68 ล้านบาท ถูกสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบึงกาฬ สรุปผลการสอบสวนและเสนอต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 เพื่อตั้งไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แบ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬในขณะนั้น นายอำเภอ 8 อำเภอ และเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณที่เกี่ยวข้อง หลังพบว่าการจ่ายใช้เงินงบประมาณไม่ถูกต้อง โครงการกำหนดให้รองรับชุมชนขนาด 250 ครัวเรือน แต่ระบบที่ไปดำเนินการรองรับชุมชนขนาดแค่ 70 กว่าครัวเรือนเท่านั้น ไม่ตรงตามแผนงานที่กำหนดไว้ ทำให้งานที่ก่อสร้างไว้ใช้ประโยชน์ได้น้อยหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย ถือเป็นความเสียหาย
ปัจจุบัน สำนักงบประมาณ ได้ถอดชื่อ ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit) ออกจากบัญชีนวัตกรรมไทยไปแล้ว
เมื่อ สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลบัญชีนวัตกรรมไทย พบว่า สินค้าทั้ง 3 ชนิด คือ เครื่องแปลงขยะเศษอาหารโดยใช้จุลินทรีย์ (Food Waste Recycling Machine) รหัส 14000029 , ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) รหัส 01020003 ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit) รหัส 01020004 ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้า ที่มี หน่วยงานพัฒนา ผู้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย ผู้แทนจำหน่าย เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน คือ กลุ่มบริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2563 -2564 ตัวแทนเอกชนกลุ่มนี้ ปรากฏชื่อเป็น คู่สัญญาจัดซื้อสินค้าตามบัญชีนวัตกรรมไทยทั้ง 3 ชนิด กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยวิธีเจาะจง ที่ให้สิทธิพิเศษตามนโยบายรัฐบาล นับร้อยโครงการทั่วประเทศ มูลงานรวมกับนับพันล้านบาท (เท่าที่ตรวจสอบพบ)
ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) รหัส 01020003 เป็นสินค้าที่มีการจัดซื้อมากที่สุด วงเงินกว่า 1,105.42 ล้านบาท (เท่าที่ตรวจสอบพบ)
ขณะที่บริษัทเอกชนกลุ่มนี้ ยังมีสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย ที่ขึ้นทะเบียนไว้อีก 1 ชนิด คือ ระบบผลิตน้ำบริโภคด้วยกระบวนการรีเวิร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis Dinking Water Filtration System) หรือชื่อทางการค้าของผลงานนวัตกรรมไทย คือ ป๊อกดริ้งค์ (POG Drink) เบื้องต้นหนังสือสำนักงบประมาณ แจ้งเวียนให้หน่วยงานราชการทั่วประเทศ ระบุราคา 1,100,000 บาท ต่อระบบ และมีอุปกรณ์เสริม ราคา 65,000 บาท ต่อ ชิ้น แต่สำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบไม่พบว่า นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ที่ขึ้นทะเบียน จนถึงปัจจุบัน บริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด ปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญาขายป๊อกดริ้งค์ (POG Drink) ให้หน่วยงานราชการ หรือ อปท.แห่งใดบ้าง (ดูข้อมูลในตาราง)
แต่จากข้อมูลที่ตรวจสอบดังกล่าว เท่ากับว่า กลุ่มบริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด มีสินค้าที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย รวม 3 ชนิด และสามารถเข้าเป็นคู่สัญญาขายสินค้าให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยวิธีเจาะจง ที่ให้สิทธิพิเศษตามนโยบายรัฐบาลได้
ยกเว้น ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit) ที่ปัจจุบัน สำนักงบประมาณ ได้ถอดชื่อ ออกจากบัญชีนวัตกรรมไทยไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ตัวแทนบริษัทเอกชนกลุ่มนี้ ได้ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า สินค้าที่มีการขึ้นบัญชีนวัตกรรมต้องผ่านการตรวจสอบของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ก่อนแล้ว ขณะที่ทางกลุ่มได้พยายามคิดค้นสินค้าที่มีคุณภาพโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อช่วยเหลือชุมชน กระบวนการได้มาซึ่งงานภาครัฐ เป็นไปตามกติกาทุกอย่าง ส่วนกรณีที่ ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit) ถูกถอดจากรายชื่อสินค้าขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย บริษัทฯ ก็เป็นผู้แจ้งยกเลิกบัญชีนวัตกรรมนี้เอง ส่วนโครงการที่ถูกตรวจสอบในพื้นที่ ทางบริษัทฯ ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ามีประเด็นอะไร เพราะบริษัทไม่ได้รับแจ้งจากพื้นที่ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าประเด็นไหน ทุกครั้งหากทาง บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากพื้นที่ว่ามีปัญหาและอยากให้ร่วมช่วยกันแก้ปัญหา ทางบริษัทฯ พร้อมที่จะเข้าไปร่วมแก้ปัญหาให้
- เปิดตัวเจ้าของ 'ป๊อกแทงค์' ไขข้อสงสัยสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย คว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
- สั่งหาหลักฐานมัด! ป.ป.ช.ภาค4 แจงสอบสินค้านวัตกรรมบึงกาฬ เอางบภัยแล้งมาซื้อเครื่องกรองน้ำ
สาม. ข้อสังเกตสำคัญ-คำถาม
จากการตรวจสอบข้อมูลกระบวนการจัดซื้อสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยตามที่กำหนดไว้ สำนักข่าวอิศรา พบข้อสังเกตสำคัญดังนี้
1. การที่เอกชนกลุ่มนี้ สามารถเข้าเป็นคู่สัญญาได้งานจากหน่วยงานรัฐไปเป็นจำนวนมากนับพันล้านบาท ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดไว้ ในการให้สิทธิพิเศษหน่วยงานราชการจัดซื้อโดยวิธีเจาะจง และยังมีการกำหนดช่วงเวลาระยะเวลาในการขายสินค้าด้วย กรณีที่ไม่เคยจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานรัฐมาก่อนสามารถขึ้นทะเบียนได้สูงสุด 8 ปี หากเคยจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยภาครัฐมาแล้ว จะได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงของ ตัวแทนบริษัทเอกชนกลุ่มนี้ ที่ระบุว่า กระบวนการได้มาซึ่งงานภาครัฐ เป็นไปตามกติกาทุกอย่าง
ที่สำคัญ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานนำข้อมูลตามหนังสือบัญชีนวัตกรรมไทย ไปเร่งรัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณ 2562 ก็ยิ่งทำใหญ่ เอกชนกลุ่มนี้ รวมถึงเอกชนรายอื่นๆ ที่ขึ้นทะเบียนสินค้าบัญชีนวัตกรรมเอาไว้ สามารถขายสินค้าโดยวิธีเจาะจงให้กับหน่วยงานราชการได้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบข้อมูลสินค้ากลุ่มบริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด ในบัญชีนวัตกรรม สำนักงบประมาณ พบข้อสังเกตว่า สินค้าแต่ละชนิด มีการตั้งตัวแทนจำนวนเพียงรายเดียว ต่างจากสินค้าประเภทอื่น ที่บางชนิดมีการตั้งตัวแทนนับสิบราย?
คำถามคือ ทำไม กลุ่มบริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด ถึงไม่ตั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมนอกจากบริษัทในกลุ่มตัวเอง เหมือนเอกชนเจ้าของสินค้ารายอื่นๆ เพื่อให้เกิดการแข่งขันกัน หน่วยงานรัฐจะได้ไม่ต้องใช้วิธีเจาะจงในการจัดซื้ออย่างเดียว
ส่วนเอกชนที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอื่นๆ ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่? อย่างไร?
2. มีสินค้าบางชนิด ที่ระบุว่า ทำงานวิจัยรวมกับนักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คำถาม คือ นักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับประโยชน์ตอบแทนอะไรจากร่วมคิดค้นสินค้า และนำไปขายให้หน่วยงานจำนวนมากนับพันล้านบาทในปัจจุบัน
3. จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยชนิดอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา พบข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำโครงการถนนของอปท.บางแห่ง ที่มีการกำหนดเงื่อนไขในทีโออาร์ ให้มีการจัดซื้อสินค้าโคมไฟในบัญชีนวัตกรรมไทยไว้ด้วย ผลส่งให้เอกชนที่ได้งานทำถนน ต้องไปซื้อสินค้าจากเอกชนที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมเอาไว้
กรณีนี้ เสี่ยงเข้าข่ายฝ่าฝืนระเบียบจัดซื้อจัดจ้างข้อใดข้อหนึ่งหรือไม่?
4. เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือน มี.ค.2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตกรณีการผูกขาดทางการแข่งขันอันเนื่องมาจากนโยบายการสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ และมีมติให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสำนักงบประมาณเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. รายงาน ครม. ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเฝ้าระวังการผูกขาดทางการแข่งขันอันเนื่องมาจากนโยบาย กฎหมาย หรือระเบียบที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ การสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และมีข้อเสนอแนะ 2 ข้อ ดังนี้
1.ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำบัญชีนวัตกรรมไทย โดยพิจารณากำหนดแนวทางป้องกันไม่ให้สินค้าในบัญชีนวัตกรรมเกิดการผูกขาดหรือมีประเด็นความเสี่ยงต่อการเอื้อประโยชน์สาหรับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ
2.ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทบทวนการกำหนดสัดส่วนการใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยไว้ในหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยให้ชัดเจน โดยควรกำหนดให้มีการใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและส่งเสริมการนำผลงานวิจัย พัฒนาและนำนวัตกรรมไทยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยภายในประเทศสามารถผลิตสินค้าแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
พร้อมทั้งให้ทบทวนกระบวนการรับขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมประเภทที่มีการซื้อหรือนำเข้าวัสดุบางส่วนจากต่างประเทศเพื่อประกอบเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมไทย โดยจะต้องมีการตรวจสอบวัสดุที่นำเข้าเหล่านั้นด้วยว่าได้คุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือไม่ ก่อนที่จะพัฒนาหรือประกอบเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมไทย และถ้าบางชิ้นส่วนเป็นวัสดุที่ผลิตได้ในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยให้ใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยเป็นหลักก่อน
คำถามสำคัญ ต่อ ข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.ข้างต้น คือ ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปรับปรุง แก้ไขอะไร ตามข้อเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมไปแล้วบ้าง?
หากไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ป.ป.ช.จะมีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร? แบบไหน?
ส่วนข้อมูลเชิงลึกในประเด็นอื่นๆ หากสำนักข่าวอิศรา ตรวจพบเพิ่มเติม จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อนึ่งเกี่ยวกับงานจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในบัญชีนวัตกรรมไทย ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงบประมาณ ปัจจุบันยังไม่มีการสรุปผลชี้ขาดว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
เครื่องแปลงขยะเศษอาหารโดยใช้จุลินทรีย์ (Food Waste Recycling Machine) ตามบัญชีนวัตกรรมไทย
- จี้ผู้ว่าฯทบทวน! สตง.สอบงบเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 15.4 ล. อำนาจเจริญ ส่อเหลว
- ฉบับเต็ม! สตง.ชำแหละโครงการเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 15.4 ล.อำนาจเจริญ ส่อเหลว
- ตัวละ1.4 ล้าน! แกะรอยเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 11 ตัว15.3 ล. อำนาจเจริญ ซื้อจากไหน?
- สินค้าที่ 3 เครื่องแปลงขยะบัญชีนวัตกรรม เจ้าของกลุ่มเดิมอีกแล้ว สตง.เคยสอบที่อำนาจเจริญ
ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) ตามบัญชีนวัตกรรมไทย
- ถึงคิว! สตง.สอบระบบผลิตน้ำประปากระบี่ 145 ล.พบปัญหาซ้ำรอยเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์
- เจาะจัดซื้อระบบผลิตน้ำประปาบัญชีนวัตกรรมไทย บ.ตัวแทนเจ้าเดียว คว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
- ไขที่มา POG TANKS สินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย บ.ตัวแทนเจ้าเดียวคว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
- เปิดตัวเจ้าของ 'ป๊อกแทงค์' ไขข้อสงสัยสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย คว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit)
- เจาะสินค้าบัญชีนวัตกรรม 'ป๊อกแทงค์-Water Purifying' เจ้าของเดียวกัน-ได้งานรัฐอีก 32 ล.
- เบื้องลึก! 'Water Purifying' ป.ป.ช.บึงกาฬชงสอบอดีตผู้ว่าฯ-8 นอภ.แจ้งถอนชื่อบัญชีนวัตกรรม
ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) รหัส 01020003