
โดนอีกราย! คำพิพากษาศาลฎีกาฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ‘ทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์’ ผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เคยเป็นรองนายกเทศมนตรี พ้นตำแหน่งไม่ถึง 5 ปี คุณสมบัติต้องห้าม รู้อยู่แล้วขาดคุณสมบัติยังสมัคร ถือกระทำไม่สุจริต
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาแล้วพบว่าผู้คัดค้านเคยเป็นรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 8 มีนาคม 2566 ซึ่งเมื่อนับจากวันพ้นจากตำแหน่งจนถึงวันสมัครรับเลือกเป็นเวลาน้อยกว่าห้าปี อันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา การที่ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว แต่ยังยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2 ว่า ผู้คัดค้านไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม กรณีย่อมเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน รายละเอียดดังนี้
@เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ลต สว 373/2567คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 43/2568ศาลฎีกาวันที่ 14 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2568ความคดีเลือกตั้ง ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้องระหว่าง นายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง)
@ ได้รับเลือกในระดับอำเภอ – กกต.พบพ้นตำแหน่งรองนายก ทต.บ้านแหลมไม่ถึง 5 ปี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า สืบเนื่องมาจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 เมษายน 2567 และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กำหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภากำหนดวันเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 วันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือก ระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด ต่อมา ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาแล้ว พบว่าผู้คัดค้านเคยเป็นรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 8 มีนาคม 2566 ซึ่งเมื่อนับจากวันพ้นจากตำแหน่งจนถึงวันสมัครรับเลือกเป็นเวลาน้อยกว่าห้าปี เข้าลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด ผู้ร้องทำการไต่สวนแล้ว ได้ความดังกล่าวจริง การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกของตนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเคยเป็นรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม- 3 -จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นและพ้นจากการเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้วน้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และได้ถูกลบชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครแล้ว จึงถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใด ได้สมัครรับเลือกอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (24) มาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 74 ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่
@อ้างไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง- แค่ผู้ช่วยเหลือนายกเทศ ฯ-สอบถาม จนท.กกต.แล้วสมัครได้
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นผู้บริหารท้องถิ่น ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีได้รับการแต่งตั้งจากนายกเทศมนตรี ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มีหน้าที่เพียงเป็นผู้ช่วยเหลือนายกเทศมนตรีทำงานตามที่นายกเทศมนตรีมอบหมาย ไม่มีอำนาจอนุมัติงานและไม่มีอำนาจบังคับบัญชา ควบคุม กำกับดูแล บริหารราชการในสำนักงานเทศบาล ผู้คัดค้านกับพวกสอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้วได้รับการยืนยันว่า ผู้คัดค้านกับพวกสามารถสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ ผู้คัดค้านศึกษากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ แล้วพบว่าไม่มีกฎหมายใดบัญญัติว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเป็นตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น อีกทั้งก่อนจะยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ผู้คัดค้านสอบถามผู้รู้และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากเอกสารของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งต่างก็ให้ความเห็นว่า ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมิใช่ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้คัดค้านสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยสุจริต และเข้าใจว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมิใช่ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้คัดค้านไม่มีเจตนากระทำความผิด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งไต่สวนและตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟัง เป็นยุติในเบื้องต้นว่า ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ตามคำสั่งเทศบาลตำบลบ้านแหลม ที่ 128/2564 เรื่อง แต่งตั้งรองนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และเลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม และคำสั่งเทศบาลตำบลบ้านแหลม ที่ 76/2566 เรื่อง ให้รองนายกเทศมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 19 หน้าที่ 59 และหน้าที่ 57 ตามลำดับ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 9 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ กลุ่มที่ 9 จากนั้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด กลุ่มที่ 9 ครั้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี แจ้งการลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (24)
@วินิจฉัย มีส่วนร่วมในการบริหาร ถาม กม. เป็นผู้บริหารท้องถิ่น
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (24) อันจะถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมเป็นเหตุให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 หรือไม่
ผู้ร้องมีนายสุรพงษ์ ดวงเดือน พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการมาเป็นพยานเบิกความประกอบสำนวนการไต่สวน เรื่องการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 1 ถึง 27 ว่า ผู้คัดค้านเคยดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 8 มีนาคม 2566 ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นระยะเวลาน้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก อันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (24) ส่วนผู้คัดค้านอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความว่า ผู้คัดค้านเคยปรึกษานายพนมวัสส์ วุฒาพาณิชย์ วิทยากรบรรยายให้ความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น นายพนมวัสส์ให้ความเห็นว่า ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมิใช่ผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งตามสำเนาคำสั่งสำนักงานผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ 2/2567 เรื่อง แต่งตั้งผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเขตตรวจราชการ เอกสารหมาย ค.1 แผ่นที่ 2 ระบุว่า นายพนมวัสส์ เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยประจำเขตตรวจราชการส่วนกลางและเขตตรวจราชการที่ 2 นอกจากนี้ ตามสำเนาหนังสือของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำเนาระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการลาของผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และ สำเนาข้อมูลจากเว็บไซต์ของสถาบันพระปกเกล้า เอกสารหมาย ค.2 ค.4 และ ค.5 ตามลำดับ ระบุว่า ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมิใช่ผู้บริหารท้องถิ่น ทำให้ผู้คัดค้านเชื่อว่าสามารถสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ ผู้คัดค้านมิได้มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เห็นว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการตามที่นายกเทศมนตรีมอบหมายตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48 อัฏฐ มีสิทธิเข้าประชุมสภาเทศบาลและมีสิทธิแถลงข้อเท็จจริง ตลอดจนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานในหน้าที่ของตนต่อที่ประชุมสภาเทศบาลได้ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48 เอกาทศ และในการปฏิบัติราชการในตำแหน่งดังกล่าว ห้ามมิให้กระทำการอันเป็นการกระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์ของเทศบาลตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48 จตุทศ อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว จึงอยู่ในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการบริหารราชการของเทศบาลซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มิใช่เป็นเพียงผู้ช่วยเหลือในการบริหารงานราชการของเทศบาลเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว จึงถือได้ว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเป็นตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นด้วย ผู้คัดค้านซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวจึงเป็นผู้บริหารท้องถิ่น
@รู้ตัวไม่มีสิทธิ แต่ลงสมัคร เขียนคำรับรองไม่มีลักษณะต้องห้าม ถือว่าจงใจกระทำไมสุจริต
ที่ผู้คัดค้านอ้างว่า ผู้คัดค้านเคยปรึกษา นายพนมวัสส์ ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยประจำเขตตรวจราชการส่วนกลางและเขตตรวจราชการที่ 2 แล้ว ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการคนดังกล่าวให้ความเห็นว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ไม่ใช่ผู้บริหารท้องถิ่น ตามสำเนาข้อมูลจากเว็บไซต์ของสถาบันพระปกเกล้า และตามสำเนาหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เอกสารหมาย ค.5 และ ค.2 ตามลำดับก็ระบุว่า ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีไม่ใช่ผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึงที่อ้างสำเนาระเบียบกระทรวงมหาดไทย ฯ เอกสารหมาย ค.4 ซึ่งระบุว่าตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น อันเป็นการกล่าวอ้างในทำนองว่า ผู้คัดค้านมิได้มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดนั้น
เห็นว่า กรณีตามคำร้องเป็นบทสันนิษฐานเด็ดขาดของกฎหมาย ผู้คัดค้านไม่อาจนำสืบหักล้างเป็นอย่างอื่นว่า ผู้คัดค้านไม่รู้ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี วันที่ 8 มีนาคม 2566 จึงเป็นกรณีที่ผู้คัดค้านเคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น โดยพ้นจากการเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้วน้อยกว่าห้าปี นับถึงวันสมัครรับเลือก อันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (24) การที่ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว แต่ยังยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2) ตามเอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 3 หน้าที่ 9 และหน้าที่ 10 ว่า ผู้คัดค้านไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม กรณีย่อมเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226
พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา

ข่าวคดีรายอื่นก่อนหน้า
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ‘ธานนท์’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอสิชล ต้องคดีค้ายา (1)
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ศรีสะเกษ มีประวัติยักยอกทรัพย์ (2)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.อำเภอ จ.สระแก้ว มีประวัติทุจริตเลือกตั้ง (3)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นราธิวาส มีประวัติลักทรัพย์ (4)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.มหาสารคาม มีประวัติเจ้ามือเล่นพนัน(5)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ยะลา เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น(6)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.สมุทรสาคร ถือหุ้นบมจ.อาร์เอส (7)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.อ่างทอง ต้องคดีค้ายาเสพติด (8)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.ตราด ถูกจำคุกคดีเจ้ามือไพ่รัมมี่ (9)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นนทบุรี เคยจำคุกคดีหมิ่นประมาท (10)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับ จ.พัทลุง ถือหุ้นสื่อ อสมท (11)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ กําแพงเพชร มีประวัติเรียกรับทรัพย์สิน (12)
-เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี ลงสมัครคราวเดียว‘ลูกสาว’ (13)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี ลงสมัครคราวเดียว‘สามี’ (14)
- รายที่ 2! เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี สมัครคราวเดียว‘สามี’ (15)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปีผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับอ.เมืองเพชรบูรณ์ สมัครคราวเดียวเมีย (16)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ถือหุ้น บมจ.อาร์เอส
- หุ้นเดียวก็ไม่ได้! ฉบับเต็ม ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอ.เมืองสมุทรสงคราม ถือหุ้น‘อาร์เอส’ (17)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับ จ.อ่างทอง พ้นที่ปรึกษานายกอบจ.ไม่ถึง 5 ปี
- ฉบับเต็มคดี‘คอดียะฮ์’ผู้สมัคร สว.! ไขปม ‘ที่ปรึกษานายก อบจ.’ เป็นผู้บริหารท้องถิ่น (18)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับ อ.สามชุก พ้นรองนายกเทศฯไม่ถึง 5 ปี (19)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา