เป็นทางการ! เผยมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ รองอธิบดีอัยการ การบังคับคดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง อัยการพิเศษฝ่าย -พวก เรียกรับเงิน 5 แสน ช่วยเหลือชาวจีนคดีใช้พาสปอร์ตปลอม หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวแจงอิศรา ยันไม่เกี่ยวข้อง มีกระบวนการพาดพิง มีการคืนเงินกันไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวชี้มูลความผิด ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (ยานนาวา) สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กับพวก เรียกรับเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือทางคดีผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งใช้หนังสือเดินทางปลอมในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 500,000 บาท
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 – 29 มกราคม 2563 นางสาวธัญญา เต็มชำนาญ ได้ติดต่อกับญาติของผู้ต้องหาชาวจีนซึ่งถูกดำเนินคดีในความผิดฐานปลอมหนังสือเดินทางและใช้หนังสือเดินทางปลอมของสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนัดหมายให้พบกับว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (ยานนาวา) สำนักงานอัยการสูงสุด ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ ได้อ้างกับญาติของผู้ต้องหาว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ และเรียกรับเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 500,000 บาท ญาติของผู้ต้องหาได้หลงเชื่อและจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ ผ่านนางสาวธัญญา เต็มชำนาญ การกระทำของว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ กับพวก จึงเป็นการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจเจ้าพนักงานของรัฐ โดยวิธีอันทุจริต หรือผิดกฎหมาย เพื่อให้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่ผู้ต้องหา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
1. การกระทำของว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 175 และมาตรา 128 และประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 ข้อ 4 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของนางสาวธัญญา เต็มชำนาญ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 175
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อนึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยนำเสนอข่าวมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ และนางสาวธัญญา เต็มชำนาญไปแล้ว
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า กรณีดังกล่าวก็คงต้องมีการชี้แจงกันไป แต่ตอนนี้ อสส.ยังไม่ได้มีการดำเนินการสอบวินัยแต่อย่างใด
ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ กล่าวต่อว่า "เรื่องนี้มีความเป็นมาจากการที่เราจัดงานทำบุญที่บ้านเมตตา เราไม่รู้ว่าใครไปร่วมงานบุญที่ว่านี้บ้าง เพราะมีคนมาร่วมกันเยอะ คนจีนที่ว่านี้เขาก็มาร่วมด้วย แต่เราก็ดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร ใครเป็นคนจีนหรือว่าใครเป็นคนไทยบ้าง และเราก็ไม่รู้ว่าใครจะเอาเราไปอ้างบ้าง"
"แต่สุดท้ายเราก็เห็นว่ากรณีการจ่ายเงิน เขามีหลักฐานว่ามีการลงบันทึกประจำวันกันแล้ว เวลาเขา(ฝ่ายผู้ต้องหา) ทำงานต่อสู้คดีมีการจ้างทนายความกันก็มีการคืนเงินกันเรียบร้อย แต่ก็มีกระบวนการพยายามมาพาดพิงไปถึงสำนักงานอัยการเรา ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้อง" ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ ระบุ
ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ ยังระบุด้วยว่า "บันทึกประจำวันนี้เป็นการบันทึกตั้งแต่ปี 2563 แล้ว และการมีบันทึกประจำวันดังกล่าวก็มาจากอีกฝั่งที่มีการไปแจ้งความว่ามีการรับเงินค่าทนายความมาแล้ว แต่งานไม่สำเร็จ ทำไม่ได้ตามเป้าหมายก็มีการคืนเงินกันแล้ว"
ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ กล่าวอีกว่า "เราก็มาดูกันว่ามันก็มีเอกสารอันนี้อยู่ (บันทึกประจำวัน) ก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่เอามาพิจารณา"
เมื่อถามถึงรายละเอียดเรื่องเงิน 5 แสนบาท รองอธิบดีอัยการกล่าวย้ำว่า "ไม่ทราบจริงๆ รู้แค่ว่ามีการจ้างทนายความ ทำงานไม่สำเร็จแล้วก็มีการคืนเงินค่าทนายความแล้วก็ลงบันทึกประจำวันเท่านั้นเอง"
อ่านเรื่องประกอบ
- ป.ป.ช.ชี้มูลรองอธิบดีอัยการ เรียกสินบน 5 แสน ช่วยคดีใช้พาสปอร์ตปลอม - แจ้งมติ อสส.แล้ว
- โดน 2 คน! ล้วงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลรองอธิบดีอัยการ เรียกสินบน 5 แสน ช่วยคดีใช้พาสปอร์ตปลอม
- เปิดตัวรองอธิบดีอัยการ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีเรียกสินบน 5 แสน ยันไม่เกี่ยวข้อง มีกระบวนการพาดพิง
- เอ็กซ์คลูซีฟ : ข้อกล่าวหารองอธิบดีอัยการ-พวก คดีสินบน 5 แสน ช่วยชาวจีน-คืนเงินไปแล้ว