"...ผู้ถูกกล่าวหา ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดคดีนี้ มี 2 ราย คือ รองอธิบดีอัยการรายนี้ มีชื่ออักษรย่อ "อ." เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ส่วนอีก 1 ราย เป็นสุภาพสตรี มีชื่ออักษรย่อ "ธ." เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือทางคดีผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งกระทำความผิดในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอมในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย..."
รองอธิบดีอัยการรายนี้ ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับสินบนเป็นเงิน 500,000 บาท เพื่อช่วยเหลือคดีหนังสือเดินทางปลอมและเดินทางเข้าประเทศผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ช่วยเหลือจริง
คือ ข้อมูลสำคัญ ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ต่อกรณี ในช่วงปลายเดือน พ.ค.2567 ที่ผ่านมา สำนักงาน อสส. ได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งรายงานการลงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด รองอธิบดีอัยการรายหนึ่ง ในข้อกล่าวหาเรียกรับสินบนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 เพื่อให้ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นอกจากนั้นขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการถอดถอนตำแหน่ง ตาม มาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า รองอธิบดีอัยการรายนี้ กำลังจะเข้าอบรมหลักสูตรอธิบดีอัยการในสัปดาห์นี้ ซึ่งผู้ที่จบจากหลักสูตรนี้ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีอัยการต่อไปด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันกับแหล่งข่าวสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับทราบข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม 2 ส่วน คือ
1. รองอธิบดีอัยการรายนี้ ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือทางคดีผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งกระทำความผิดในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอมในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
2. ผู้ถูกกล่าวหา ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดคดีนี้ มี 2 ราย คือ รองอธิบดีอัยการรายนี้ มีชื่ออักษรย่อ "อ." เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ส่วนอีก 1 ราย เป็นสุภาพสตรี มีชื่ออักษรย่อ "ธ." เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
โดยรองอธิบดีอัยการ "อ." ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 175 , 128 และ 169 และประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2543 ข้อ 4
ส่วน สุภาพสตรี ที่มีชื่ออักษรย่อ "ธ." ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 175
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ตามฐานความผิดข้างต้น ไปแล้ว
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า รายงานสำนวนไต่สวนคดี และเอกสารประกอบคดีนี้ ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา มีจำนวนมากถึง 1,244 แผ่น
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ส่วน รองอธิบดีอัยการ "อ." และ สุภาพสตรี ที่มีชื่ออักษรย่อ "ธ." 2 ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ เป็นใครกันแน่
อดใจรออีกไม่นาน สาธารณชนคงได้รับทราบคำตอบที่ชัดเจนกัน