"...ผู้กล่าวหาได้โทรศัพท์และติดต่ออัยการระดับสูง และสุภาพสตรีผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์สอบถามความคืบหน้าเรื่องการปล่อยตัว แต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่ 6 มี.ค. 2563 ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้มีคำพิพากษาให้จำคุกชาวจีนที่ถูกจับกุมตัว 1 ปี 6 เดือน ผู้กล่าวหาจึงได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่อัยการระดับสูง และสุภาพสตรี หลังจากถูกดำเนินคดี สุภาพสตรี ได้นำเงินไปคืนผู้กล่าวหา จำนวน 500,000 บาท เมื่อได้รับเงินคืนผู้กล่าวหาจึงได้ขอถอนการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ..."
กรณีปรากฏข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด รองอธิบดีอัยการรายหนึ่ง และพวก 1 ราย ในข้อกล่าวหาเรียกรับสินบน 5 แสนบาท ในการช่วยเหลือทางคดีผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งกระทำความผิดในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอมในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย พร้อมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นอกจากนั้นขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการถอดถอนตำแหน่ง ตาม มาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
ต่อมาสำนักข่าวอิศรา ได้รับคำชี้แจงเป็นทางการจาก ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ รองอธิบดีอัยการ การบังคับคดี ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง
"เรื่องนี้มีความเป็นมาจากการที่เราจัดงานทำบุญที่บ้านเมตตา เราไม่รู้ว่าใครไปร่วมงานบุญที่ว่านี้บ้าง เพราะมีคนมาร่วมกันเยอะ คนจีนที่ว่านี้เขาก็มาร่วมด้วย แต่เราก็ดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร ใครเป็นคนจีนหรือว่าใครเป็นคนไทยบ้าง และเราก็ไม่รู้ว่าใครจะเอาเราไปอ้างบ้าง"
"แต่สุดท้ายเราก็เห็นว่ากรณีการจ่ายเงิน เขามีหลักฐานว่ามีการลงบันทึกประจำวันกันแล้ว เวลาเขา(ฝ่ายผู้ต้องหา) ทำงานต่อสู้คดีมีการจ้างทนายความกันก็มีการคืนเงินกันเรียบร้อย แต่ก็มีกระบวนการพยายามมาพาดพิงไปถึงสำนักงานอัยการเรา ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้อง"
"บันทึกประจำวันนี้เป็นการบันทึกตั้งแต่ปี 2563 แล้ว และการมีบันทึกประจำวันดังกล่าวก็มาจากอีกฝั่งที่มีการไปแจ้งความว่ามีการรับเงินค่าทนายความมาแล้ว แต่งานไม่สำเร็จ ทำไม่ได้ตามเป้าหมายก็มีการคืนเงินกันแล้ว"
เมื่อถามถึงรายละเอียดเรื่องเงิน 5 แสนบาท รองอธิบดีอัยการกล่าวย้ำว่า "ไม่ทราบจริงๆ รู้แค่ว่ามีการจ้างทนายความ ทำงานไม่สำเร็จแล้วก็มีการคืนเงินค่าทนายความแล้วก็ลงบันทึกประจำวันเท่านั้นเอง"
- ป.ป.ช.ชี้มูลรองอธิบดีอัยการ เรียกสินบน 5 แสน ช่วยคดีใช้พาสปอร์ตปลอม - แจ้งมติ อสส.แล้ว
- โดน 2 คน! ล้วงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลรองอธิบดีอัยการ เรียกสินบน 5 แสน ช่วยคดีใช้พาสปอร์ตปลอม
- เปิดตัวรองอธิบดีอัยการ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีเรียกสินบน 5 แสน ยันไม่เกี่ยวข้อง มีกระบวนการพาดพิง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อกล่าวหาในคดีนี้ของ ป.ป.ช. พบว่า จุดเริ่มต้นคดีนี้ เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2562 มีชาวจีนรายหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับกุมในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอมในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
พี่ชายของชาวจีน เป็นเพื่อนกับผู้กล่าวหาในคดีนี้ ได้ติดต่อผู้กล่าวหาเพื่อขอให้ช่วยเหลือทางคดีให้
ต่อมามีคนแนะนำให้ผู้กล่าวหาในคดีนี้ รู้จักสุภาพสตรีรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าสนิทสนมกับอัยการระดับสูง
ผู้กล่าวหากับพี่ชายของชาวจีนที่ถูกจับกุมตัว จึงไปขอคำแนะนำจากอัยการระดับสูง และมีการเรียกร้องเงินจำนวน 5 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือคดี
ผู้กล่าวหากับพี่ชายของชาวจีนที่ถูกจับกุมตัว ได้ยอมทำตามที่เรียกร้อง โดยส่งมอบและโอนเงินรวม 500,000 บาท ให้ สุภาพสตรี เพื่อนำไปมอบให้กับอัยการระดับสูง ซึ่งมีการรับปากว่าจะรีบดำเนินการเรื่องปล่อยตัวชายชาวจีนโดยเร็ว
ต่อมาผู้กล่าวหาได้โทรศัพท์และติดต่ออัยการระดับสูง และสุภาพสตรี ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์สอบถามความคืบหน้าเรื่องการปล่อยตัว แต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันที่ 6 มี.ค. 2563 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกชาวจีนที่ถูกจับกุมตัวเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน
ผู้กล่าวหา จึงได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่อัยการระดับสูง และสุภาพสตรี
หลังจากถูกดำเนินคดี สุภาพสตรี ได้นำเงินไปคืนผู้กล่าวหา จำนวน 500,000 บาท เมื่อได้รับเงินคืนผู้กล่าวหาจึงได้ขอถอนการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ทั้งหมดนี้ คือ ภาพรวมข้อกล่าวหาในคดีนี้ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากปรากฏข่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ ในคดีนี้ ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีคำสั่งให้ถอนชื่อ ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ ออกจากการอบรมหลักสูตรอธิบดีอัยการ ซึ่งผู้ที่จบจากหลักสูตรนี้ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีอัยการต่อไปแล้วด้วย
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ เพื่อให้ชี้แจงข้อมูลที่ตรวจสอบพบล่าสุด ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ แจ้งว่าติดภารกิจอยู่ ยังไม่สะดวกที่จะชี้แจงข้อมูลในขณะนี้
หากได้รับคำชี้แจงจาก ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ เป็นทางการแล้ว สำนักข่าวอิศรา จะรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ และผู้เกี่ยวข้อง ถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่