ศาลจังหวัดสระบุรีนัดอ่านคำพิพากษาฎีกา 12 มี.ค. คดียายโต วัย 94 ปี ถูกฟ้องขับไล่ที่บ้านเก่าริมคลอง แม่น้ำใน อ.วิหารแดง จ.สระบุรี หลังศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันที่ 12 มี.ค.2567 ศาลจังหวัดสระบุรี นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา ในคดีที่นางอนงค์ เรธมันน์ โจทก์ ฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหาย นางโต พลายชุมพล หรือ ยายโต ปัจจุบัน อายุ 94 ปี จำเลย อาศัยอยู่บ้านริมคลองแม่น้ำใน ของ บ้านเกาะเหนือ (เป็นส่วนหนึ่งของ บ้านหัวถนน หรือ บ้านคลอง 33 ) เลขที่ 71 หมู่ 6 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เนื้อที่ 25 ตารางวา ผู้ฟ้องอ้างว่าบ้านของนางโตสร้างอยู่บนที่ดินของบรรพบุรุษของตนเอง
@ นางโต พลายชุมพล
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาวันที่ 12 ม.ค.2564 ให้นางโตรื้อถอนบ้าน ชดใช้ค่าเสียหาย 17,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นนับจากวันฟ้อง (20 มิ.ย.2562) และให้ชำระค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดประโยชน์จากการใช้ที่ดินพิพาทเป็นรายเดือนเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะขนย้ายรื้อถอนบ้าน และให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ค่าทนายความ 3,000 บาท
ต่อมาวันที่ 28 ธ.ค.2564 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ สรุปสาระสำคัญศาลเห็นว่า ที่ดินพิพาทบริเวณที่จำเลยปลูกบ้านพักอาศัยอยู่นั้นเป็นที่ดินอยู่นอกเขตที่ดินตามโฉนดที่ดินของโจทก์ และมิใช่ที่ดินอยู่ในเขตความดูแลรับผิดชอบของกรมชลประทานแต่อย่างใด เมื่อที่ดินพิพาทไม่ปรากฎหลักฐานทางที่ดิน จึงถือว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินติดกับแม่น้ำใน จึงเป็นที่ชายตลิ่ง อันเป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) บุคคลใดย่อมไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวได้ พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อถือยิ่งกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ เมื่อจำเลยได้เข้าทำประโยชน์ใช้สอยครอบครองปลูกบ้านพักอาศัยในที่ดินตังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
โจทก์ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 27 ก.ค.2565
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางลูกหลานนางโต ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงาน ยุติธรรมจังหวัดสระบุรี พ.ต.อ ทวี สอดส่อง สส. ขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาชาติ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประสานงานกับยุติธรรมจังหวัดสระบุรีให้ความช่วยเหลือในการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หลังจากแพ้คดีในศาลชั้นต้น ขณะเดียวกันศูนย์สอบสวนคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งพยานเอกสารหลักฐานของที่ดินพิพาท
เมื่อวันที่ 26 ม.ค 2564 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำทีมชมรมลงพื้นที่ไปยังบ้านของนางโต เพื่อติดต่อให้ความช่วยเหลือในการช่วยแก้คดีในชั้นอุทธรณ์
ล่าสุดมีรายงานว่านางโตอาจไม่จะเดินทางไปฟังคำพิพากษาเนื่องจากแก่ชรามาก
ข่าวก่อนหน้า
- ฉบับเต็ม! คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี 'ยายโต' ยกฟ้อง ไม่ต้องรื้อถอนบ้านเก่าริมคลอง
- ยายโต' ชนะ! ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องรอดโดนขับไล่ที่บ้านริมคลองแม่น้ำใน
- โชว์ภาพถ่ายปี 2496-2516 ก่อนคดีฟ้องขับไล่บ้านยายโต น้ำท่วมถึง ตอกย้ำที่สาธารณะ?
- เปิดผลสอบดีเอสไอ ไขเหตุผล บ้านยายโตถูกฟ้องขับไล่ อยู่ในที่สาธารณะ
- ผลสอบดีเอสไอ ที่ดินบ้านยายโตถูกฟ้องขับไล่ ไม่ใช่ที่ของเอกชน
- แยกฟ้องคู่กรณีเบิกความเท็จ! ทนาย'ยายโต' ขยายเวลาอุทธรณ์สู้คดีขับไล่บ้านแล้ว
- เปิดหลังโฉนด คดีฟ้องขับไล่‘ยายโต’ แบ่ง 4 แปลงปี 2559 เนื้อที่ครบ 20-1-80 ไร่
- คดีบ้านยายโต ถึงผู้ว่าฯ สระบุรี แล้ว! สั่งประสาน'ยุติธรรม-ที่ดิน-DSI' หาหลักฐานช่วย
- เปิดภาพแผนที่พิพาท คดีฟ้องขับไล่บ้านยายโต25 ตร.ว.อยู่นอกโฉนดที่ดิน 4 ไร่โจทก์
- (คลิป) เลาะริมคลองแม่น้ำใน ดูบ้าน 'ยายโต' ถูกฟ้องขับไล่ที่-ชดใช้ 7 หมื่น
- 'ทวี สอดส่อง' รุดช่วยยายโตโดนฟ้องขับไล่ที่ - ประสานยุติธรรมสระบุรีช่วยเหลือเชิงรุก
- มั่นใจสู้ได้!'อัจฉริยะ' ยกทีมช่วยยายโตแก้คดีชั้นอุทธรณ์ - ชี้ช่องโหว่หลักฐานอ่อนทำแพ้
- ฉบับเต็ม! คำพิพากษาคดีฟ้องขับไล่ ยายวัย91 ปี รื้อถอนบ้าน-จ่ายค่าเสียหาย 17,000 บาท
- ยายโต วัย91 ปี บ้านหลังเก่าริมคลอง ถูกฟ้องขับไล่ ชดใช้ 57,000 บาท