'นิวัติไชย เกษมมงคล' เลขาฯ ป.ป.ช. เตรียมมอบนโยบายศูนย์ CDC จับตางานจัดซื้อจ้างสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยใกล้ชิด หลังพบข้อมูลเอกชนกลุ่มเดียวคว้างานพันล. ยันคกก.ชุดใหญ่ เคยทำข้อเสนอแนะแจ้ง ครม.แก้ไขปัญหาประเด็นผูกขาดเสี่ยงเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการไปแล้ว ติดตามผลต่อเนื่องอยู่หากไม่ดำเนินการอะไรคงมีแจ้งเพิ่มพร้อมออกมาตรการใหม่ด้วย
ISRA-INVESTIGATIVE : ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกงานจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในบัญชีนวัตกรรมไทย ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงบประมาณ อันเป็นมาตรการส่งเสริมและผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่หากหน่วยงานของรัฐมีความต้องการจัดซื้อจัดจ้างตรงตามบัญชีสามารถดำเนินการโดยวิธีการเจาะจงได้ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามนำข้อมูลมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ หลังตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญว่ามีเอกชนกลุ่มหนึ่ง ที่นำสินค้ามาขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย สำนักงบประมาณ ปรากฏชื่อเข้าเป็นคู่สัญญางานจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง กับหน่วยงานรัฐในช่วงปี 2563-2564 นับร้อยโครงการ รวมวงเงินมูลค่านับพันล้านบาท
ล่าสุด นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า กรณีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในบัญชีนวัตกรรมไทย ที่มีลักษณะเข้าข่ายการผูกขาดหรือมีประเด็นความเสี่ยงต่อการเอื้อประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะนั้น ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นทางการแล้ว
"หลังจากที่ ป.ป.ช.จัดทำข้อเสนอแนะต่อ ครม. ไปแล้ว เรามีการติดตามผลต่อเนื่องอยู่แล้ว ว่า ครม.ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง หากพบว่ายังไม่ได้ดำเนินการอะไรที่เป็นรูปธรรม ทาง ป.ป.ช.ก็คงจะมีการออกหนังสือแจ้งไปอีกครั้ง รวมถึงเสนอมาตรการใหม่เพิ่มเติมไปด้วยแน่นอน" นายนิวัติไชยระบุ
ส่วนการตรวจสอบพบว่า มีเอกชนกลุ่มหนึ่ง นำสินค้ามาขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย และปรากฏชื่อเข้าเป็นคู่สัญญางานจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง กับหน่วยงานรัฐในช่วงปี 2563-2564 นับร้อยโครงการ รวมวงเงินมูลค่านับพันล้านบาท นั้น
นายนิวัติไชย กล่าวว่า" เรื่องนี้ ป.ป.ช.มีการติดตามข้อมูลอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้คงจะมีการมอบนโยบายให้ศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศูนย์ CDC เฝ้าระวังติดตามการดำเนินงานโครงการฯ นี้ ในระดับพื้นที่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
อนึ่งเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเรื่องการป้องกันการทุจริตกรณีการผูกขาดทางการแข่งขันอันเนื่องมาจากนโยบายการสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย นั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ในช่วงเดือน มี.ค.2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตกรณีการผูกขาดทางการแข่งขันอันเนื่องมาจากนโยบายการสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ และมีมติให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสำนักงบประมาณเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. รายงาน ครม. ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเฝ้าระวังการผูกขาดทางการแข่งขันอันเนื่องมาจากนโยบาย กฎหมาย หรือระเบียบที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ การสนับสนุนสินค้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และมีข้อเสนอแนะ 2 ข้อ ดังนี้
1.ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำบัญชีนวัตกรรมไทย โดยพิจารณากำหนดแนวทางป้องกันไม่ให้สินค้าในบัญชีนวัตกรรมเกิดการผูกขาดหรือมีประเด็นความเสี่ยงต่อการเอื้อประโยชน์สาหรับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ
2.ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทบทวนการกำหนดสัดส่วนการใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยไว้ในหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยให้ชัดเจน โดยควรกำหนดให้มีการใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและส่งเสริมการนำผลงานวิจัย พัฒนาและนำนวัตกรรมไทยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยภายในประเทศสามารถผลิตสินค้าแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
พร้อมทั้งให้ทบทวนกระบวนการรับขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมประเภทที่มีการซื้อหรือนำเข้าวัสดุบางส่วนจากต่างประเทศเพื่อประกอบเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมไทย โดยจะต้องมีการตรวจสอบวัสดุที่นำเข้าเหล่านั้นด้วยว่าได้คุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือไม่ ก่อนที่จะพัฒนาหรือประกอบเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมไทย และถ้าบางชิ้นส่วนเป็นวัสดุที่ผลิตได้ในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยให้ใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศและเป็นกิจการของคนไทยเป็นหลักก่อน
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
เครื่องแปลงขยะเศษอาหารโดยใช้จุลินทรีย์ (Food Waste Recycling Machine) ตามบัญชีนวัตกรรมไทย
- จี้ผู้ว่าฯทบทวน! สตง.สอบงบเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 15.4 ล. อำนาจเจริญ ส่อเหลว
- ฉบับเต็ม! สตง.ชำแหละโครงการเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 15.4 ล.อำนาจเจริญ ส่อเหลว
- ตัวละ1.4 ล้าน! แกะรอยเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์ 11 ตัว15.3 ล. อำนาจเจริญ ซื้อจากไหน?
- สินค้าที่ 3 เครื่องแปลงขยะบัญชีนวัตกรรม เจ้าของกลุ่มเดิมอีกแล้ว สตง.เคยสอบที่อำนาจเจริญ
ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) ตามบัญชีนวัตกรรมไทย
- ถึงคิว! สตง.สอบระบบผลิตน้ำประปากระบี่ 145 ล.พบปัญหาซ้ำรอยเครื่องแปลงเศษอาหารจุลินทรีย์
- เจาะจัดซื้อระบบผลิตน้ำประปาบัญชีนวัตกรรมไทย บ.ตัวแทนเจ้าเดียว คว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
- ไขที่มา POG TANKS สินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย บ.ตัวแทนเจ้าเดียวคว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
- เปิดตัวเจ้าของ 'ป๊อกแทงค์' ไขข้อสงสัยสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย คว้างาน อปท.ทั่วปท.พันล.
ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Water Purifying Unit)
- เจาะสินค้าบัญชีนวัตกรรม 'ป๊อกแทงค์-Water Purifying' เจ้าของเดียวกัน-ได้งานรัฐอีก 32 ล.
- เบื้องลึก! 'Water Purifying' ป.ป.ช.บึงกาฬชงสอบอดีตผู้ว่าฯ-8 นอภ.แจ้งถอนชื่อบัญชีนวัตกรรม
ระบบผลิตน้ำประปา (Water Treatment System) รหัส 01020003