เผยความคืบหน้ากรณีศาลปค.สูงสุด สั่งเปิดข้อมูลผลคดีนาฬิกาหรู 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' ล่าสุด ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอทบทวนรายการที่ 2 ความเห็นจนท.เป็นทางการ ด้าน 'วีระ สมความคิด' เร่งจัดทำแอปพลิเคชัน ให้ ปชช.ร่วมสนับสนุน 2 หมื่นชื่อถอดถอน ใกล้เสร็จแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีการพิจารณากรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ ป.ป.ช เปิดเผยข้อมูลคดียืมนาฬิกาหรูและแหวนเพชร ให้แก่ นายวีระ สมความคิด ผู้ฟ้องคดี จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1.รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมดในคดียืมนาฬิกาหรูและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2.ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ 3.รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ล่าสุด แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองฯในส่วนรายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ศาลฯ จะพิจารณาว่า คำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เข้าเงื่อนไขการพิจารณาคดีใหม่หรือไม่ ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขศาลฯ จะมีคำสั่งยกคำร้อง ซึ่ง ป.ป.ช.มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการเปิดเผยเอกสารตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และมีมติเป็นเอกฉันท์ (6 เสียง) ว่า ให้เปิดเผยเอกสารรายการที่ 1 รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด และเอกสารรายการที่ 3 รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับเอกสารรายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ (6 เสียง) ว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พนักงานไต่สวน พนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการมาช่วยปฏิบัติงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันเป็นการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารที่พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 15 ให้ความคุ้มครอง สอดคล้องกับมาตรา 36 วรรคท้ายของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561ประกอบกับศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำพิพากษาให้การรับรองคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูลในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว
พร้อมมอบหมายให้สำนักคดี นำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่เคยมีคำพิพากษาคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูล พร้อมประเด็นปัญหาไปหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องกับตุลาการศาลปกครองสูงสุดต่อไป
สำหรับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพจิารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 75 ระบุว่า ในกรณีที่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองเสร็จเด็ดขาดแล้ว คู่กรณีหรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนั้นอาจมีคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ศาลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดหรือมีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ
(2) คู่กรณีที่แท้จริงหรือบุคคลภายนอกนั้นมิได้เข้ามาในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหรือได้เข้ามาแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรมในการมีส่วนร่วมในการดำเนินกระบวนพิจารณา
(3) มีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม
(4) คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น
การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกไม่ทราบถึงเหตุนั้นในการพิจารณาคดีครั้งที่แล้วมา โดยมิใช่ความผิดของผู้นั้นการยื่นคำขอให้พิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งใหม่ต้องกระทำภายในเก้าสิบวัน
นับแต่วันที่ผู้นั้นได้รู้หรือควรรู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้พิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ได้ แต่ไม่เกินห้าปีนับแต่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาด
@ วีระ สมความคิด
ขณะที่ นายวีระ สมความคิด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา ว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อขอทบทวนการเปิดเผยผลคดีรายการที่ 2 แต่ในส่วนของตน กำลังอยู่ระหว่างทำแอปพลิเคชัน ให้ประชาชนลงชื่อ 20,000 คน เพื่อถอดถอน คณะกรรมการ ป.ป.ช.อยู่ ใกล้เสร็จแล้ว
"ผมยังยืนยันว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ออกมาเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเป็นมติไม่ชอบด้วยกฎหมายก็เป็นความผิด และเป็นเหตุผลที่จะยื่นถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ที่ร่วมลงมติดังกล่าว" นายวีระระบุ
อ่านเพิ่มเติม
- ศาลปกครองสูงสุดสั่ง ป.ป.ช.ส่งข้อมูลคดีนาฬิกาประวิตรให้ 'วีระ สมความคิด'ภายใน 15 วัน
- จะทำให้ ป.ป.ช.โปร่งใส! ฉบับเต็ม คำพิพากษาศาล ปค.สูงสุด สั่งเปิดผลคดี 'นาฬิกาประวิตร'
- ป.ป.ช.นัดถกวาระผลคดีนาฬิกาบิ๊กป้อม 26 เม.ย.นี้ - 'วีระ' ลั่นไม่ได้เข้าขบวนการบังคับ
- ขอถามศาลฯอีกครั้ง! ป.ป.ช.ลงมติ 5 :1 เสียง ยังไม่เปิดเผยผลคดีนาฬิกาบิ๊กป้อมให้ 'วีระ'
- ยอมแค่ 2 รายการ! ป.ป.ช.มติเอกฉันท์เปิดเผยผลคดีนาฬิกาบิ๊กป้อม ให้ 'วีระ' แล้ว
- ความเห็นจนท.อันตราย! เบื้องหลัง มติ ป.ป.ช. ทำไม? ยอมเปิดผลคดีนาฬิกาหรู แค่ 2 รายการ
- หวั่นเจ้าของสำนวนเป็นอันตราย! เลขาป.ป.ช.ยืนยันมติเปิดผลคดีนาฬิกาให้ 'วีระ' แค่ 2 รายการ
- นัด 8 พ.ค. ล่ม! 'วีระ' ไม่ไปยื่นรับผลคดีนาฬิกาบิ๊กป้อม 2 รายการ-ขู่ฟ้อง ป.ป.ช. 4 คน