‘นภินทร’ กางแผน เอกซเรย์ต่างชาติถือหุ้น 4.6 หมื่นบริษัท ขีดเส้น 3 เดือน ล้าง ‘นอมินี’

politics054

“…โดย 4.6 หมื่นกว่าบริษัทจะถอดออกมาว่า อยู่จังหวัดไหนบ้าง และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น จัดหางาน เป็นกรรมการ เพื่อไปตรวจสอบ 4 หมื่นบริษัททั้งหมด และให้รายงานขึ้นมาภายใน 3 เดือน…”

หมายเหตุ : นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) กรณีการรายงานข่าวเชิงลึกขยายผลเครือข่ายผูุ้ถือหุ้นคนจีน 40 บริษัท ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการรฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรรมการธุรกรรม ที่ ย.193/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ช่วยคราว จำนวน 52 รายการ รวมราคาประเมิน 2,561 ล้านบาท โดยมีบริษัท เหลินเซิง จำกัด ถือครองกรรมสิทธิ อาทิ โครงการบ้านราคาแพงย่านถนนสนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี ราคาประเมิน 1,450 ล้านบาท

อ่านประกอบ : ผู้ถือหุ้นใหญ่ 42 ล. บริษัททุนจีนหมู่บ้านหรูอ้างทนายบ.อสังหาฯให้ช่วย-ได้ค่าจ้างหมื่นเศษ

@ ส่งข้อมูล ‘บ.เหลียนเซิง’ ให้ ตร.- ดีเอสไอ

นายนภินทรให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบอยู่ว่า เกี่ยวพันกับบริษัทไหนบ้าง แต่ปัญหา คือ กฎหมายไทยไม่แข็ง ไม่ทันต่อสถานการณ์ เพราะเมื่อเจอนอมินีแล้ว กฎหมายบังคับได้แค่ให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นนอมินีคนไทยต้องขายหุ้นออก สุดท้ายก็แค่เปลี่ยนมือให้คนไทยอีกคนเข้ามาถือหุ้นแทนแล้วบอกว่าไม่เป็นนอมินี อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องมีการแก้กฎหมาย และกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ติดตามอยู่ เพื่อทำชะลอ และให้บริษัทที่ถือหุ้นโดยนอมินีไม่กล้าลงทุนในเมืองไทย ส่วนการยึดทรัพย์ เป็นกฎหมายแพ่ง ซึ่งบังคับใช้ย้อนหลังได้

เราต้องรีบตรวจสอบ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานบริการ ไม่มีอำนาจออกหมายเรียก และไม่มีโทษจำคุก หรือ ถ้าเรียกแล้วไม่มา กฎหมายคนต่างด้าวมีโทษปรับเพียง 5,000 บาท ต้องใช้กฎหมายอื่น เช่น ประมวลกฎหมายอาญา วิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ อาญา) ซึ่งเป็นอำนาจตำรวจ หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพราะฉะนั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรอื ดีเอสไอ เป็นผู้เรียก ถ้าไม่มามีโทษจำคุก หากเรียกมาสอบแล้วสรุปว่า เป็นนอมินี กระทรวงพาณิชย์จะระบุที่หัวของบริษัทว่า เป็นนอมินี ต่อไปก็จะทำธุรกรรมยาก

“กำลังเร่งเรื่องนี้อยู่ โดยส่งข้อมูลให้กับตำรวจและดีเอสไอตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ต้องเข้าใจว่า อำนาจเราน้อย การออกแบบกฎหมายในอดีต ออกแบบให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานบริการ ไม่มีอำนาจสืบสวนสอบสวน ต้องแก้กฎหมายหลายอย่าง”

@ ขีดเส้น 3 เดือน เอกซเรย์ ต่างชาติถือหุ้น 4.6 หมื่นบริษัท

นายนภินทรว่า สำหรับแนวทาวการการลงพื้นที่ไปเอกซเรย์ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบ 46,000 กว่าบริษัทที่มีต่างชาติถือหุ้น เป็นนอมินีหรือไม่ เป็น 4.6 หมื่นบริษัทที่ถอดออกมากจาก 9 แสนบริษัทที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้

@ นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ @

โดย 4.6 หมื่นกว่าบริษัทจะถอดออกมาว่า อยู่จังหวัดไหนบ้าง และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น จัดหางาน เป็นกรรมการ เพื่อไปตรวจสอบ 4 หมื่นบริษัททั้งหมด และให้รายงานขึ้นมาภายใน 3 เดือน

“คิดง่าย ๆ ว่า ล้างของเก่า 4.6 หมื่นบริษัทที่มีต่างชาติถือหุ้น บริษัทไหนเป็นนอมินีบ้าง ลงไปตรวจทั้งหมด คือ แนวทางการทำงาน เราจะตรวจย้อนกลับหมด โดยใช้เวลา 3 เดือน”

@ เข้มคุณสมบัติบริษัท (รับจ้าง) จดบัญชี

นายนภินทรกล่าวว่า ขณะเดียวกันในการแก้ไขปัญหาระยะกลางที่กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการร คือ บริษัทรับจ้างจดบัญชี โดยจะมีการออกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ทำบัญชี โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ทำบัญชีข้อหนึ่ง คือ ต้องไม่เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ สนับสนุนบริษัทนอมินี ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องให้ขาดคุณสมบัติในการทำบัญชี แต่ถ้ามาให้ข้อมูลก็จะไม่ลงโทษ เพื่อให้บริษัทจดบัญชีมาให้ข้อมูลกับรัฐบาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ : 'พณ.'ดันร่างประกาศฯ กำหนดคุณสมบัติ'ผู้ทำบัญชี'ห้ามช่วย-ร่วมทำธุรกิจ-ถือหุ้นแทน'ต่างด้าว'

@ แก้ กม.ปปง. – ชง สภา พิจารณา 3 วาระรวด

นายนภินทรกล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว คือ การจดทะเบียนบริษัทใหม่ กระทรวงพาณิชย์ จะใช้วิธีการปราม โดยการแก้กฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ศ. 2542 เนื่องจากปัจจุบัน หากตรวจพบว่าคนไทยเป็นนอมินีจริง ทำได้เพียงลงโทษสถานเบา จำคุก 1-3 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ศาลให้รอการลงโทษ

“แต่ทรัพย์สินของบริษัทนอมินี แค่ให้ขายหุ้นออกให้กับคนไทยคนอื่น ซึ่งสุดท้ายก็คือ นอมินี ถ้าแก้กฎหมายปปง.ให้บริษัทนอมินีถูกยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน”

ขณะนี้กฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ปปง. พ.ศ. 2542 อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็น หลังจากนั้นจะเร่งนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะประสานไปยังสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาเห็นชอบ 3 วาระรวด เพราะเป็นกฎหมายสำคัญและเร่งด่วน ซึ่งเป็นแก้ไขเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย แต่มีประสิทธิภาพ โดยให้นอมินีเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดฟอกเงิน

เรื่องเกี่ยวข้องคดีบ.เหลียน เซิง และ กลุ่มทุนจีนก่อนหน้า

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage