อัพเดทงานระบบรางเชื่อม ‘ไทย-ลาว’ ทั้งรถไฟความเร็วสูงกทม.-โคราช / ทางคู่ขอนแก่น - หนองคาย วงเงินรวม 209,160.21 ล้านบาท เผยไฮสปีดยังวุ่น สร้างช้า ติดอุปสรรค 3 ประการ ส่วนทางคู่ไปหนองคายลุ้นผ่าน ครม. ปี 65 ดันสร้างต้นปี 66 ปักหมุดงาน 2 ระบบม้าเหล็กเปิดหวูด ปี 69
ผ่านไปแล้ว กับอีเวนต์ "ผูกเสี่ยว" เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ฝั่งไทย
“รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการฯ นี้ ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ และเป็นความคืบหน้าสำคัญจากการหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน มิ.ย. 2565 สะท้อนซึ่งความสัมพันธ์อันดี เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันในทุกระดับ มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเสมอมา” พลเอกประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่ง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายไทยและฝ่าย สปป.ลาว ที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม เชื่อมั่นว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกรอบเวลาเพื่อเป็นของขวัญสำคัญให้ชาวไทยและชาวลาวในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)
พลเอกประยุทธ์ ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล สปป. ลาว ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สวมกอด นายพันคํา วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 ภาพจาก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากโครงการสะพานแห่งนี้ และอีก 4 โครงการฝั่งลาว ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วนั้น อย่าลืมว่า รัฐบาลยังมีโครงการรถไฟอีก 2 โครงการ ที่กำลังเร่งและผลักดันอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมจะยังช้ากว่ากำหนดอยู่มากก็ตาม
น่าสนใจว่าโครงการฯ ที่ยังมีปัญหาความล่าช้าอยู่ มีรายละเอียดเป็นอย่างไร?
@อัพเดทสถานะ ‘ไฮสปีดไทยจีน’ เม.ย.69 เสร็จ
เริ่มที่โครงการอภิมหาระบบราง รถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและจีน ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างในระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กม. วงเงินโครงการ 179,412.21 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้วางกำหนดแล้วเสร็จในเดือน เม.ย. 2569
โครงการแบ่งเป็นทางยกระดับ 188.68 กม. คันทางระดับดิน 54.09 กม. และอุโมงค์ช่วงมวกเหล็ก-ลำตะคอง ประมาณ 8 กม. การเดินทางจากกทม.ไปนครราชสีมา จะใช้เวลาประมาณ 90 นาที ซึ่งรถไฟความเร็วสูงสายนี้จะใช้ความเร็วที่ 250 กม./ชม.
ภาพรวมขณะนี้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2565 มีความคืบหน้า 15.49 % ขณะที่แผนงานวางไว้ที่ 37.33% เนื้องานในส่วนของงานโยธาแบ่งได้ 14 สัญญา สถานะปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา คือ ช่วงสัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง – ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ที่มีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนอีก 13 สัญญา สถานะอยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา, เตรียมการก่อสร้าง 1 สัญญา และอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง 3 สัญญา รายละเอียดมีดังนี้
อยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา วงเงินรวม 74,932.98 ล้านบาท
1. สัญญาที่ 2-1งานโยธาช่วงสีคิ้ว -กุดจิกระยะทาง 11.00กม. วงเงิน 3,114.98 ล้านบาท มี บจ. ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักซ์ เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 94.44% ช้ากว่าแผน 5.56%
2. สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23กม. วงเงิน 4,279 ล้านบาท มี บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 4.16% ช้าวกว่าแผน 30.05%
3. สัญญาที่ 3-3 งานโยธา ช่วงบันไดม้า -ลำตะคอง ระยะทาง 26.10กม. วงเงิน 9,838 ล้านบาท มี บจ.ไทย เอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรม เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 13.93% ช้ากว่าแผน 41.18%
4. สัญญาที่ 3-4 งานโยธา ช่วงลำตะคอง -สีคิ้วและช่วงกุดจิก -โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. วงเงิน 9,848 ล้านบาท มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยุ่ที่ 38.2% ช้ากว่าแผน 11.85%
5. สัญญาที่ 3-5 งานโยธา ช่วงโคกกรวด -นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า SPTK (นภาก่อสร้าง ร่วมกับรับเหมาประเทศมาเลเซีย) เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 2.36% ช้ากว่าแผน 48.8%
6. สัญญาที่ 4-2 งานโยธา ช่วงดอนเมือง -นวนคร ระยะทาง 21.80 กม. วงเงิน 10,590 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 0.08% ช้ากว่าแผน 2.36%
7. สัญญาที่ 4-3 งานโยธา ช่วงนวนคร -บ้านโพ ระยะทาง 23.00 กม.วงเงิน 11,525 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ซีเอเอ็น เชียงรากน้อย (ประกอบด้วย บจ. ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด (CSCEC) บจ.เอ. เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) และ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ) เป็นผู้รับจ้าง ความคืบหน้า ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 4.08% ช้ากว่าแผน 38.73%
8. สัญญาที่ 4-6 งานโยธา ช่วงพระแก้ว -สระบุรี ระยะทาง 31.60กม. วงเงิน 9,428 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 0.13% ช้ากว่าแผน 2.58%
9. สัญญาที่ 4-7 งานโยธา ช่วงสระบุรี -แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท มี บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง ผลงาน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 0.13% ช้ากว่าแผน 2.58%
อยุ่ระหว่างเตรียมงานก่อสร้าง 1 สัญญา คือ สัญญา 4-4 งานศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,573 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้างนั้น ลงนามแล้ว แจ้ง NTP ให้เริ่มงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 อยู่ระหว่างจัดเตรียมพื้นที่
@3 สัญญาวุ่นทั้ง ฟ้องร้อง-ติดมรดกโลก-ทับซ้อนไฮสปีด 3 สนามบิน
อยู่ระหว่างประกวดราคา 3 สัญญา ประกอบด้วย
1.สัญญาที่ 3-1 งานโยธา ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21กม. เดิมกิจการร่วมค้า BPHB-TIM SEKATA JV (ประกอบด้วย บจ.นภาก่อสร้าง, บจ.บิน่า พูรี่ เอสดิเอ็น บีเอชดี, นายชาตรี เขมาวชิรา) เป็นผู้ชนะโครงการ
ต่อมามีการตรวจสอบพบว่า กลุ่มกิจการร่วมค้านี้ขาดคุณสมบัติในการประมูล จึงได้ให้กิจการร่วมค้า ITD-CREC NO.10.JV (ประกอบด้วย บมจ.บจ.ไชน่า เรลเวย์ นับเบอร์เทน เอนจิเนียริ่ง กรุ๊ป :CREC และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ทาง บจ.นภาก่อสร้าง ยื่นร้องกับคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง และมีผลวินิจฉัยให้กลุ่ม BPHB-TIM SEKATA JV กลับมาได้งานอีกครั้ง
ทำให้กลุ่ม ITD-CREC NO.10.JV ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางแต่ไม่เป็นผล จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง และมีผลให้กลุ่ม ITD-CREC NO.10.JV กลับมาเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของคณะกรรมการการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
2. สัญญาที่ 4-1 งานโยธา ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) เพราะเป็นช่วงนี้ทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่มีมติให้ บจ.เอเชีย เอรา วัน (ซีพี) เป็นผู้ก่อสร้างเพิ่มเติมจากสัมปทานที่ลงนามไว้
และเป็น 1 ใน 4 ข้อเสนอพิเศษที่ต้องตั้งคณะกรรมการที่มีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบและพิจารณาความเหมาะสมของทางแก้ปัญหา 4 ข้อตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วให้นำกลับมารายงานข้อพิจารณาทั้งหมดในการประชุมครั้งหน้า
3. สัญญาที่ 4-5 งานโยธา ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กม. มี บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 9,913 ล้านบาท แต่ยังลงนามในสัญญาไม่ได้ เพราะติดปัญหาการดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บริเวณที่ตั้งสถานีอยุธยา ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทสไทย (รฟท.) เตรียมลงนามจ้างผู้รับเหมาแบบมีเงื่อนไขในช่วงรอรายงาน EIA ฉบับปรับปรุง
ด้านเนื้องานระบบของโครงการ แบ่งเป็น 2 สัญญา ประกอบด้วย
1.สัญญา 2.2 การควบคุมงานก่อสร้าง มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับ กลุ่มบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด (CRIC) และบริษัท ไชน่าเรลเวย์ ดีไซด์ คอร์ปอเรชั่น จากัด (CRDC) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยได้ลงนามกับรัฐวิสาหกิจจีน (CRDC และ CRIC) เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2560 วงเงิน 3,500 ล้านบาท ปัจจุบันผู้รับจ้าง เริ่มดาเนินงานควบคุมการก่อสร้าง Fดยได้มีการลงนามแก้ไขแนบท้ายสัญญา 2.2 เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 65 ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจาประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง
2. สัญญา 2.3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลฯ ลงนามสัญญาเมื่อ 28 ต.ค. 2563 ระยะเวลาดำเนินงาน 64 เดือน (สิ้นสุดสัญญา เดือนก.พ. 2569) แจ้งให้เริ่มงานออกแบบ (NTP For Design) แล้วเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 สถานะ ผู้รับจ้างได้ส่งรายงานการออกแบบให้ รฟท. ตรวจสอบแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่าง รฟท. ตรวจสอบแบบรายละเอียด และเบิกค่าจ้างล่วงหน้า
ขณะที่ส่วนต่อขยายของโครงการ ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 355 กม. มีจำนวน 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงาน EIA คาดว่าเปิดให้บริการปี 2572
@ชง ครม.เคาะทางคู่ ขอนแก่น - หนองคาย ในปี 65
นอกจากโครงการรถไฟความเร็วสูงแล้ว การเชื่อมต่อกับประเทศลาวยังมีโครงการรถไฟทางคู่ด้วย หลังจากรัฐบาลผลักดันรถไฟทางคู่เฟสแรก 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 993 กิโลเมตร วงเงิน 113,660 ล้านบาทไปเมื่อปี 2559 ในส่วนของเฟสที่ 2 ซึ่งที่ผ่านมาสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ตรวจการบ้านกระทรวงคมนาคมละเอียด โดยเฉพาะประเด็นความคุ้มค่าหลังก่อสร้าง ซึ่งจากที่จะเสนอเป็นแผง 7 เส้นทาง ก็ลดเหลือเพียง 3 เส้นทาง โดยจะเสนอช่วงขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กม. 14 สถานี วงเงินลงทุน 29,748ล้านบาท สถานะล่าสุด ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสภาพัฒน์แล้ว และได้ส่งกลับมาที่ รฟท. เพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคาดว่าภายใน 2 เดือนสุดท้ายของปี 2565 นี้ จะฝ่าด่าน ครม.ได้สำเร็จ ปักหมุดประมูลในต้นปี 2566 ต่อไป
เหล่านี้ เป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการรถไฟที่รัฐบาลทั้งไทย-ลาว กำลังเร่งและผลักดันอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมจะยังช้ากว่ากำหนดอยู่มากก็ตาม
จะประสบความสำเร็จ เสร็จสิ้นทันตามกำหนดหรือไม่ ต้องติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ
- สำรวจ 5 โปรเจกต์คมนาคม 8.6 พันล. เชื่อม 'ไทย-ลาว' ก่อน ‘ประยุทธ์’ เหินฟ้าผูกเสี่ยว
- ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ ยังนิ่ง ‘สุพัฒนพงษ์’ ลุ้น พ.ย. 65 คณะทำงานเริ่มคุยปม 4 ข้อเสนอ
- เปิดพื้นที่ ‘ลำรางมักกะสัน’ ชนวนยื้อส่งมอบ ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ รบ.บิ๊กตู่ วาดไว้สะดุด
- สแกนความคืบหน้า'ไฮสปีด 3 สนามบิน'สางปัญหาล่าช้า ขีดเส้น ต.ค.65 เริ่มก่อสร้าง
- คืบหน้ารถไฟไทย-จีน รองโฆษกรัฐบาลคาด ช่วง กทม.-โคราช แล้วเสร็จปี 2569
- เช็กโครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี 111 โครงการ รัฐบาล‘ประยุทธ์’ ทุ่มงบ 1.9 ล้านล้าน
- เปิดลิสต์รัฐ'ก่อหนี้ฯ'ปีงบ 66 จัดหาบินรบ F35 'ตร.'เช่ารถหมื่นล.-ซื้อ ฮ. ภารกิจบุคคลสำคัญ