มีรายงานเส้นทางการใช้ชีวิตและการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของชายชาวสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการไปร่วมชุมนุมของผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลามในมาเลเซีย ก่อนจะกลับบ้านและเสียชีวิตอย่างสงบเป็นรายที่ 5 ของประเทศไทย
นายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ระบุไทม์ไลน์กระบวนการเข้ารับการรักษาของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ที่อำเภอสุไหงโกลก จ.นราธิวาส
- ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 49 ปี มีน้ำหนัก 109 กิโลกรัม ไม่มีโรคประจำตัว
- บ้านอยู่ ต.ปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส
- เดินทางไปร่วมกิจกรรมชุมนุมศาสนา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 มี.ค.63
- วันที่ 11 มี.ค.63 เริ่มมีการป่วย
- 12 มี.ค.63 เข้าเช็คอาการ
- วันที่ 15 มี.ค.63 มีไข้ขึ้นสูง รับตัวมาพักรักษาตัวที่ห้องความดันลบของโรงพยาบาลสุไหงโกลก ส่งตรวจพบเป็นบวก ให้ยาต้านไวรัส
- วันที่ 23 มี.ค.63 เริ่มมีอาการหอบเหนื่อย ปอดอักเสบติดเชื้อจากCOVID-19 ไข้ขึ้นสูง ภาพรังสีปอดมีความผิดปกติมากขึ้น
- วันที่ 26 มี.ค.63 มีอาการหอบเหนื่อย ใส่ท่อช่วยหายใจ
- วันที่ 27 มี.ค. เวลา 01.50 น.ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง และเสียชีวิตในเวลา 03.30 น.
ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในห้องความดันลบ โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด โดยไม่กระทบและไม่มีภาวะเสี่ยงกับผู้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก เพราะมีการแยกห้องชัดเจนและพื้นที่ชัดเจน
ส่วนบริเวณบ้านเรือนที่พักอาศัยของผู้ป่วย ได้มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อทั้งในบ้านและพื้นที่ข้างเคียง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 โดย อสม.และสมาชิกในครอบครัว
ขณะที่มัสยิดที่ผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าไปประกอบศาสนกิจ ได้ทำความสะอาดในห้วงที่ อำเภอสุไหงโกลก จัด Big Cleaning Day
มีการกักตัวบุคคลใกล้ชิดทั้งหมดเป็นระยะเวลา 14 วัน ผู้เป็นภรรยา ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้อาการดีขึ้นและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ลูกๆ ตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด
การประกอบพิธีฝังศพตามหลักศาสนาอิสลามและประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรี โดยศพถูกห่อหุ่มด้วยถุงป้องกันเชื้อโรค 2 ชั้น ผู้ที่ทำพิธีได้แต่งกายในชุดป้องกันเชื้อ ทุกกระบวนการทำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งครอบครัวและญาติพี่น้องมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ครอบครัวเหยื่อโควิดลูก 9 คน วอนรัฐช่วย
"ทีมข่าวอิศรา" ลงพื้นที่บริเวณรอบๆ บ้านของครอบครัวผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ปรากฏว่าบ้านของผู้ตายอยู่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก เจ้าหน้าที่ อบต.ปาเสมัส ได้นำเชือกมากั้นรอบบริเวณบ้าน ห้ามคนในบ้านออกมา และห้านคนนอกเข้าไป หากญาติมาเยี่ยมก็จะอยู่ได้เฉพาะบริเวณนอกแนวกั้นเชือกเท่านั้น
ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่า ตนแต่งงานกับผู้เสียชีวิต อยู่กินกันมา มีบุตรด้วยกัน 9 คน ทุกวันนี้ไม่มีงานทำ เพราะที่ผ่านมาเป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้ สามีเป็นหลักให้กับครอบครัวทุกอย่าง เมื่อสามีจากไป ครอบครัวก็ลำบาก อยากวิงวอนให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือ
มีรายงานว่า ทางองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ได้เปิดรับบริจาคแก่ครอบครัวผู้ป่วยที่เสียชีวิต เนื่องจากครอบครัวนี้มีฐานะยากจน และมีบุตรจำนวน 9 คน ร่วมบริจาคได้ที่เลขที่บัญชี 051-1-16003-8 บัญชีธนาคารอิสลาม สาขาสุไหงโกลก ชื่อ นางกอเซ็ง อาแวกือจิ ภรรยาผู้เสียชีวิต
นายซาการียา เจ๊ะเตะ อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย บอกว่า รู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น หลังมีคนติดโควิดอยู่ในชุมชนเดียวกัน ตนไม่กล้าออกไปไหนเลย ถ้าจะออกก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างมิดชิดเท่านั้น
-------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
132 คนไทยจากมาเลย์เสี่ยงโควิด ไม่ได้อยู่แค่สามจังหวัดชายแดนใต้
พบ"กลุ่ม 132 คนไทย"ป่วยที่ปัตตานี-ยะลา!
เช็คชื่อ 132 คนไทย สธ.ยันติดเชื้อแล้ว 2 - ทัพ 4 ยังไม่ปิดจุดผ่อนปรน
งดละหมาดศุกร์ในกทม. - คุมเข้มแรงงานต้มยำ - ปัตตานีมีติดโควิด
ปัตตานียอดติดโควิดพุ่ง 7 ราย - สงขลาลุ้นอีก 12
พบโควิดครบ 3 จังหวัดใต้ - ตลาดยังแน่น - จี้ ศอ.บต.รวมศูนย์ให้ข้อมูล
สรุปยอดผู้ป่วยโควิดชายแดนใต้ ศอ.บต.เร่งรับมือ นศ.-แรงงานแห่กลับเพิ่ม
ชายแดนใต้เผชิญวิกฤติ "โควิด-ปิดด่าน-ยางถูกเท"
ปัตตานีชัตดาวน์! หลังผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง 26 ราย
รู้จัก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรการขั้นสุดสู้โควิด?
ปณิธาน : งัด พ.ร.ก.สู้โรคระบาด...ประวัติศาสตร์กฎหมายพิเศษ
เปิดข้อมูลเบื้องหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สู้โควิด
กอ.รมน.สั่ง 25 ด่านหลักปิดสัญจรชายแดนใต้
แพทย์-พยาบาลติดโควิด! สั่งปิด รพ.บันนังสตา ยะลา
ชายชาวสุไหงโกลกสังเวยโควิดรายแรกชายแดนใต้
เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า! BRN ผวาโควิดเป็นภัยพิบัติ