บ.เอ็ม-แลนดาร์ช เปิดเบื้องหลังข้อหาฉ้อโกงอัลฟ่า 6 เป็นห่วงโซ่ลำดับท้ายๆ-ชดใช้ครบแล้ว

picmdsdsdsdsdsdsd4 17 64

"...การจัดซื้อหรือจำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการ กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทาง ราชการมาโดยตลอด บริษัทฯเป็นเพียงห่วงโซ่ลำดับท้ายๆและเป็นรายเล็กๆ ในการจำหน่ายเครื่องดังกล่าวให้กับทางราชการ ประกอบกับชดใช้ความเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้กับทางราชการจนครบถ้วน จึงไม่เกิดความเสียหาย กับทางราชการแล้ว..."

........................

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ว่าเป็นเอกชนแห่งที่ 3 ที่เคยปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้กับกองบัญชาการกองทัพไทย และจังหวัดพิษณุโลก และมีคดีฟ้องร้องข้อหาฉ้อโกงกับทั้ง 2 หน่วยงาน ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะตัดสินให้แพ้คดีไป ในช่วงเดือนปี 2561 และเดือนกันยายน 2562 แต่หลังจากนั้นบริษัทเอกชนรายนี้ ก็ยังคงปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายสินค้ากับหน่วยงานกองทัพหลายสัญญา

(อ่านประกอบ:แห่งที่ 3! บ.เอ็ม-แลนดาร์ช แพ้คดีฉ้อโกงอัลฟ่า 6 แต่ยังได้งานขายเครื่องบิน ทบ. 326 ล.)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักข่าวอิศรา ยืนยันว่า แม้บริษัทฯจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฐานฉ้อโกงและศาลมีคำพิพากษาถึง ที่สุดแล้ว แต่การเข้าข่ายเป็นผู้ทิ้งงานต้องมีคำสั่งของปลัดกระทรวงการคลัง ผู้รักษาการตามระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ลงนามตามมติคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ (กวพ) ให้เป็นผู้ทิ้งงาน ดังนั้น การประมูลงานของบริษัทฯก่อนที่จะมีคำสั่งของปลัดกระทรวงการคลังตามที่ได้ เสนอข่าวดังกล่าวนั้นย่อมถือว่ากระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนการจัดซื้อหรือจำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการ กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทาง ราชการมาโดยตลอด บริษัทฯเป็นเพียงห่วงโซ่ลำดับท้ายๆและเป็นรายเล็กๆ ในการจำหน่ายเครื่องดังกล่าวให้กับทางราชการ ประกอบกับชดใช้ความเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้กับทางราชการจนครบถ้วน จึงไม่เกิดความเสียหาย กับทางราชการแล้ว

มีรายละเอียดทั้งหมดดังต่อไปนี้

ตามที่สื่อมวลชน(สำนักข่าวอิศรา) ได้เสนอข่าวโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทฯ เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงและอยู่ในข่ายถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานของทางราชการและมีรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้อง กับบริษัท

บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า แม้บริษัทฯ จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฐานฉ้อโกงและศาลมีคำพิพากษาถึง ที่สุดแล้ว แต่การเข้าข่ายเป็นผู้ทิ้งงานต้องมีคำสั่งของปลัดกระทรวงการคลัง ผู้รักษาการตามระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ลงนามตามมติคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ (กวพ) ให้เป็นผู้ทิ้งงาน ดังนั้นการประมูลงานของบริษัทฯก่อนที่จะมีคำสั่งของปลัดกระทรวงการคลังตามที่ได้ เสนอข่าวดังกล่าวนั้นย่อมถือว่ากระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย บริษัทฯประมูลงานจากทางราชการโดยสุจริต ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย นอกจากนี้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพัสดุ พ.ศ. 2560 ข้อ 145 เบญจ กำหนดว่า “....ในกรณีที่ผู้เสนอราคาหรือผู้เสนองานที่ร่วมกระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขัน ราคาอย่างเป็นธรรมหรือกระทำการโดยไม่สุจริตรายใด ซึ่งมิใช่เป็นผู้ริเริ่มให้มีการกระทำดังกล่าวได้ให้ความ ร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของทางราชการ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือปลัดกระทรวง หรือผู้รักษา ตามระเบียบ (ปลัดกระทรวงการคลัง) พิจารณาให้ผู้เสนอราคาหรือผู้เสนอรายนั้นรับการยกเว้นที่จะไม่เป็นผู้ทิ้ง งานได้ โดยแสดงเหตุผลหรือระบุเหตุผลไว้ในการเสนอความเห็นหรือในการสั่งการ แล้วแต่กรณี.......”ซึ่ง บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มก่อให้เกิดความเสียหายและได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทาง ราชการมาโดยตลอด

ประกอบกับชดใช้ความเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้กับทางราชการจนครบถ้วน จึงไม่เกิดความเสียหาย กับทางราชการแล้ว ประกอบกับผู้เสียหายเช่นกองทัพไทย ได้แถลงต่อศาลไม่ติดใจเอาความกับบริษัทฯทั้งแพ่ง และอาญาจึงเป็นข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากบริษัทฯอื่นๆและคดีเป็นที่ยุติแล้ว จึงน่าจะอยู่ในข้อยกเว้นและมิใช่ เป็นเหตุให้บริษัทฯเป็นผู้ทิ้งงานราชการดังกล่าว

ส่วนรายละเอียดการขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้กับกองทัพไทย และจังหวัดพิษณุโลก มีข้อเท็จจริงดังจะได้เรียนชี้แจงสื่อมวลชน(สำนักข่าวอิศรา) ต่อไปนี้

ข้อ 1. บริษัทฯขอเรียนว่า การจัดซื้อหรือจำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการ กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ

กล่าวคือ บริษัทฯไม่ใช่ผู้ผลิตเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดหรือสาร เสพติด ยี่ห้ออัลฟ่า 6 และไม่ได้เป็นผู้นำเข้าหรือเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจากโรงงานที่ประเทศอังกฤษ บริษัทฯได้ซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 มาจากบริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทฯมาทราบภายหลังจากเกิด ปัญหาดังกล่าวเมื่อปี 2555 (ตามที่ DSI ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัททั้ง 2) ว่าบริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เท รดดิ้ง จำกัด ซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 มาจากบริษัท แจ๊คสัน อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ

บริษัทฯ มีความเชื่อโดยสุจริตใจว่าเครื่องอัลฟ่า 6 มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก ก่อนจัดซื้อเครื่องตรวจจับสารเสพติดอัลฟ่า 6 จาก บริษัทเอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัทเอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด ได้นำสำเนาสัญญาซื้อขายเครื่องอัลฟ่า 6 และผลงานต่างๆที่ได้ลงนามกับหน่วยงานราชการ มาแสดงให้ดูหลายฉบับเช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) ,สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์, เป็นต้น

บริษัทฯจึงเชื่อถือในประสิทธิภาพของเครื่องอัลฟ่า 6 เพราะหากไม่มีประสิทธิภาพหน่วยงานทาง ราชการข้างต้น คงจะไม่ทำการจัดซื้อและไม่ทำการตรวจรับพัสดุ จึงเชื่อโดยสุจริตว่าเครื่องอัลฟ่า 6 มี ประสิทธิภาพตามที่บริษัทเอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด นำมาเสนอขาย

พฤติการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ จึง มิใช่ผู้ริเริ่มเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการแต่อย่างใด และเมื่อเกิดปัญหาการใช้เครื่องอัลฟ่า 6 บริษัทฯ แสดงความรับผิดชอบตามสัญญาและชดใช้ความเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจนครบถ้วน อีกทั้งยังเข้าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการมาโดยตลอดเช่น ให้ข้อมูลต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช) , จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น

ข้อ 2. บริษัทฯไม่ทราบว่าเครื่องอัลฟ่า 6 ไม่มีประสิทธิภาพ บริษัทฯยอมรับว่าเป็นความประมาท เลินเล่อที่ละเลยในการทดสอบทดลอง ก่อนรับเครื่องอัลฟ่า 6 มาจากบริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด อีกทั้งก่อนส่งมอบให้กับทางราชการ บริษัทฯประมาทเลินเล่อไม่ได้เป็นผู้ทำการสาธิต ทดลอง ให้กับทาง ราชการด้วยตนเองแต่อย่างใด

การส่งมอบเครื่องอัลฟ่า 6 ให้กับจังหวัดพิษณุโลกตามระเบียบว่าด้วยการตรวจ รับพัสดุนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่จาก บริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด (ซึ่งเป็นผู้ขายให้กับบริษัทและเป็นตัวแทน จำหน่ายในประเทศฯ) และ เจ้าหน้าที่จากบริษัท แจ๊คสัน อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายจากประเทศอังกฤษโดยตรง) เป็นผู้นำเครื่องอัลฟ่า 6 มาสาธิตทดสอบและส่งมอบให้กับจังหวัด พิษณุโลกแทน

ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ บริษัทฯจึงไม่ทราบหลักการทำงานของเครื่องว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่

ข้อ 3. บริษัทฯไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ผลิต ,ไม่รู้จักกับบริษัท แจ็คสัน อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนนำเข้าแต่ประการใด

บริษัทฯเรียนว่าข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงาน (SOGA) ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI ) พบว่าผู้ผลิตเครื่องอัลฟ่า 6 คือ บริษัท โจแอนด์ทรี มีสถานที่ตั้ง ณ ประเทศอังกฤษ เป็นผู้มีเจตนาทุจริตหลอกลวงผู้อื่นทั่วโลก เพราะเมื่อเป็นผู้ผลิตย่อมต้องรู้กลไกการทำงานที่ แท้จริงของเครื่องเป็นอย่างดี ว่าเครื่องอัลฟ่า 6 ไม่มีประสิทธิภาพ จนในที่สุดบริษัท โจแอนด์ทรี ถูกดำเนินคดี และศาลอาญากลางที่ประเทศอังกฤษลงโทษจำคุกกรรมการบริษัทเป็นเวลา 7 ปี

ส่วนบริษัทคอมแทร็ค โดยนายไซม่อน เชอร์ราด กรรมการบริษัท ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 จากโรงงานผู้ผลิตโจแอนด์ทรี ศาลอาญากลางพิพากษายกฟ้องและคดีเป็นที่ยุติแล้ว ซึ่งบริษัทฯเป็นเพียงห่วงโซ่ลำดับท้ายๆและเป็นรายเล็กๆ ในการจำหน่ายเครื่องดังกล่าวให้กับทางราชการ

นอกจากนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับบริษัท แจ๊คสัน อี เล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่านายหยาง เซี๊ยะ เชียง เป็นผู้ที่รู้ว่าเครื่องอัลฟ่า 6 ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเป็นผู้ที่อ้างว่าได้เป็นผู้คิดค้นร่วมกับเพื่อนที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังปรากฏถ้อยคำที่ให้ไว้กับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ดังกล่าวไม่มีสิ่งใดเกี่ยวพันกับบริษัทฯทั้งสิ้น

ส่วนกรณีของ บริษัทฯนั้น เป็นเพียงผู้จำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 รายเล็กๆและอยู่ในลำดับท้ายๆของการจำหน่ายในประเทศไทย ดังกล่าวข้างต้นและไม่ได้มีความสัมพันธ์กับบริษัทอื่นใดเป็นพิเศษส่วนตัวทั้งสิ้น และบริษัทฯจำหน่ายเครื่อง อัลฟ่า 6 ให้กับทางราชการน้อยที่สุดมีเพียงจำนวน 6 เครื่องเท่านั้น และ ก่อนที่จะมีการจำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้กับจังหวัดพิษณุโลกและกองทัพไทยนั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าหน่วยงานราชการหลายแห่งมีการจัดซื้อ เครื่องอัลฟ่า 6 กันมาก่อน บริษัทจึงมิใช่ผู้ริเริ่มสร้างความเสียหายให้กับทางราชการแต่ประการใด บริษัทฯมิได้ จงใจเจตนาแสดงเอกสารอันเป็นเท็จ แต่เชื่อโดยสุจริตว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงเพราะมีการจัดซื้อของทาง ราชการแล้วซึ่งกรณีนี้จึงเป็นเพียงเครื่องอัลฟ่า 6 ไม่ได้มีประสิทธิภาพ ตามคุณลักษณะเฉพาะตามเอกสารที่ยื่น ต่อหน่วยงานราชการเท่านั้น บริษัทฯมิได้เป็นผู้จัดทำ แก้ไข เพิ่มเติม ข้อความใดอันเป็นเท็จ

ข้อ 4. บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ก่อนที่ศาลแขวงดอนเมืองจะมีคำพิพากษา บริษัทฯได้ชดใช้ เยียวยาค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้กับหน่วยงานราชการจนครบถ้วนแล้ว และผู้เสียหาย(กองทัพไทย) แถลงไม่ ติดใจเอาความกับบริษัททั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อไป แต่ไม่สามารถถอนคำร้องทุกข์ได้เนื่องจากเกี่ยวข้อง กับหน่วยงานราชการอื่นด้วยเท่านั้น ศาลจึงพิจารณาพิพากษารอการลงโทษเพื่อให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีและ ทำความดีสู่สังคมและทำประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป

โดยศาลได้กรุณารอการลงโทษและให้บำเพ็ญ ประโยชน์ต่อสังคม จึงเป็นข้อบ่งชี้ว่าศาลท่านได้พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบว่า ข้อเท็จจริงแต่ละคดีนั้นมี ความแตกต่างกัน กับบริษัทผู้จำหน่ายรายอื่นๆ เช่นบริษัท เอวีเอแซทคอม ฯ หรือบริษัท แจ๊คสัน อีเล็คโทรนิกส์ ฯ เพราะ บริษัทฯมิใช่ผู้ผลิตและนำเข้าเครื่องอัลฟ่า 6 มาจากต่างประเทศ ซื้อมาจากผู้จำหน่ายรายอื่นที่เคย ขายให้กับหน่วยงานราชการมาแล้ว

บริษัทฯเป็นผู้จำหน่ายรายเล็กและไม่มีความชำนาญในตัวเครื่องมือ อุปกรณ์ดังกล่าวและมีการจัดซื้อเร่งด่วนตามนโยบายของทางราชการ ประกอบกับชดใช้เยียวยาให้กับราชการ ครบถ้วนจนไม่เกิดความเสียหาย อีกทั้งเครื่องอัลฟ่า 6 ที่จำหน่ายไม่ได้มีผลต่อชีวิตประชาชนและผู้ปฏิบัติงาน เพราะใช้ในวัตถุประสงค์ตรวจยาเสพติดเท่านั้น

การรอการลงโทษของศาลนอกจากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น แล้ว จึงสอดคล้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 คือศาลจะพิจารณาโดยคำนึงถึง ประวัติ ความ ประพฤติ สภาพความผิด การรู้สึกผิด และการพยายามเยียวยาบรรเทาผลร้ายที่ได้กระทำลงไป และเหตุอื่นอัน ควรปรานี เพื่อให้โอกาสในการกลับตัวเป็นพลเมืองดี จากคำอธิบายดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า บริษัทฯ มี สถานะ ซึ่งมีข้อเท็จจริงแตกต่างกับบริษัทฯอื่นๆดังเช่นการพิจารณาของศาล

ด้วยเหตุผลข้างต้นบริษัทฯมิได้กระทำไปด้วยเจตนาทุจริตหรือเอาเปรียบต่อทางราชการ แต่เป็นความประมาทเลินเล่อและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบริษัทฯในการตรวจสอบหรือรับเครื่องอัลฟ่า 6 ว่ามีประสิทธิภาพ ตามที่จัดซื้อมาก่อนที่จะส่งมอบให้กับทางราชการ และด้วยการความผิดพลาดที่ไว้วางใจ บริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นคู่ค้าที่จำหน่ายเครื่องอัลฟ่า 6 อีกทั้งเป็นความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งที่ต้องเร่งรัด ในการจัดหาเครื่องอัลฟ่า 6 ตามคำร้องขอจังหวัดพิษณุโลกหรือกองทัพไทย ดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯไม่มีเจตนาก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ไม่ได้เจตนาจะฉ้อโกงราชการ แม้บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท แต่บริษัทฯมีฐานะที่มั่นคง และมีเกียรติประวัติที่ดีกับราชการมาโดยตลอดกว่า 20 ปี เสียภาษีให้กับ ทางราชการอย่างถูกต้อง ไม่ได้มีเจตนาทุจริตที่เอาเปรียบทางราชการเพราะไม่ก่อให้เกิดผลดีกับชื่อเสียงของบริษัทฯที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนานกับทางราชการ

เมื่อเกิดปัญหาดังของเครื่องอัลฟ่า 6 บริษัทฯ จึงรีบบรรเทาผลร้ายให้กับหน่วยงานราชการทันที โดยชดใช้ความเสียหายก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาด้วย บริษัทฯยอมรับ จากความผิดพลาดประมาทเลินเล่อและรู้สำนึกจากผลที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชน (สำนักข่าวอิศรา) และจะนำมา เป็นประสบการณ์เพื่อมิให้เกิดความผิดพลาดนำมาปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับทางราชการต่อไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้

จึงเรียนมายังท่านสื่อมวลชน(สำนักข่าวอิศรา) ได้ทราบข้อเท็จจริงและโปรดเสนอข่าวให้ ความเป็นธรรมกับบริษัทฯต่อไปด้วย จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

อนึ่ง ก่อนหน้าที่จะได้หนังสือชี้แจงจาก บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด เป็นทางการนั้น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปติดต่อ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ตามที่อยู่เลขที่ 61/1 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารเป็นทางการ

เมื่อไปถึงที่อยู่ดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านเดี่ยว มีป้ายบริษัทติดอยู่ (ดูภาพประกอบ)

Mland1

เมื่อสอบถามผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน ได้รับแจ้งว่า บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด นั้นย้ายที่ทำการหลักไปอยู่ที่ตึกสามารถ ชั้น 11 แล้ว ถ้ามีอะไรติดต่อ ก็ขอให้ติดต่อที่นั่นดีกว่า

ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านยังได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ พร้อมแจ้งว่า เมื่อไปที่ชั้น 11 อาคารสามารถทาวเวอร์ ก็ให้โทรติดต่อเบอร์ที่ให้มาด้วย เพื่อที่จะให้คนข้างในบริษัทมาเปิดประตูให้

เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราได้เดินทางไปยังตึกสามารถ ก็พบกับห้องๆหนึ่งที่มีป้ายเขียนว่า เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด เมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับมา กลับไม่มีผู้รับสายแต่อย่างใด (ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 9 เม.ย.)

Mland3