"...กรณีการขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้หน่วยงานราชการนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ซึ่งถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะไม่ไปขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้หน่วยงานราชการต่างๆ จนทำให้เกิดปัญหาและมีคดีความฟ้องร้องกันเกิดขึ้นแบบนี้..."
................................
ประเด็นตรวจสอบการประกวดราคางานโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนแบบเดินผ่านชนิดเสา ( Contraband Pole Detection ) วงเงิน 3,250,000 บาท ของกองทัพบก โดยกรมการทหารสื่อสาร ในช่วงเดือนก.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่ปรากฎชื่อผู้ชนะ คือ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด หรือชื่อเดิมว่า บริษัท ยูจีซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 1 ใน 6 เอกชน ซึ่งเคยมีคดีฟ้องร้องข้อหาฉ้อโกงกับหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อเครื่องตรวจหาทิศทางระเบิดหรือยาเสพติดแบบมือถือ หรือ อัลฟ่า 6 และยังไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ทิ้งงาน (Blacklist) หลังจากแพ้คดีในชั้นศาล ซึ่งตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 และ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ที่ทำสัญญาด้วยหากเห็นว่าคู่สัญญากระทําการโดยไม่สุจริต จะต้องยื่นเรื่องพร้อมความเห็นของตนเสนอไปยังปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงานโดยเร็ว นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้
1. บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด และ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด 'คู่เทียบ' ที่เข้าซื้อซองและยื่นซองแข่งขันเสนอราคางานโครงการฯ นี้ แจ้งใช้เบอร์โทรศัพท์-อีเมล์ หมายเลขและตัวอักษรเหมือนกัน โดยจากการตรวจสอบแบบนำส่งงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2562 ของ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด และ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด ที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงหลังการประกวดราคางานโครงการฯ นี้ ไม่นานนัก มีการแจ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ คือ หมายเลข 02-887-3228-9 ส่วนอีเมล์ คือ [email protected] เหมือนกัน แม้ว่าบริษัทจะแจ้งที่อยู่คนละแห่งกัน
นอกจากนี้ ผู้ทำบัญชี ของ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด และ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด ก็ยังแจ้งอีเมล์ คือ [email protected] และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ คือ 02-887-3228-9 เหมือนกัน ทั้งที่ เป็นผู้ทำบัญชีคนละคนกัน
เบื้องต้น ในส่วนของเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ มีคำชี้แจงจาก เจ้าหน้าที่สำนักงานบัญชีชื่อว่า "มิสาริ" ว่า เป็นเบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานบัญชี ที่รับจ้างทำบัญชีให้กับบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด และ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมได้
2. นายชัยวัฒน์ เลื่องลือวงศ์ อดีตกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด เคยปรากฎชื่อเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด ในการเดินทางไปติดต่อแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การทำธุรกิจของบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในช่วงเดือนตุลาคม 2560 ด้วย
ขณะที่ นายชัยวัฒน์ เลื่องลือวงศ์ ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า "ไม่ทราบเรื่องนี้ จริงๆ ขออภัยด้วย"
(อ่านประกอบ : พบหลักฐาน 'ผู้ชนะ-คู่เทียบ' ขายเครื่องตรวจวัตถุฯ ทบ. แจ้งเบอร์โทรฯ-อีเมล์ เดียวกัน, หลักฐานใหม่! ทบ.ซื้อเครื่องตรวจวัตถุฯ อดีต กก.-หุ้นใหญ่ 'คู่เทียบ' เคยรับมอบอำนาจ 'ผู้ชนะ')
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ได้เดินทางเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักข่าวอิศราเป็นทางการ ในประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
@ กรณีแจ้งใช้เบอร์โทรศัพท์-อีเมล์ หมายเลขและตัวอักษรเหมือนกัน กับ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด คู่เทียบ
ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ยอมรับว่า รู้จักกันแค่ในฐานะเป็นบริษัทที่ขายอุปกรณ์ความมั่นคงเท่านั้น แต่ทั้ง 2 บริษัท ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
"ส่วนกรณีแจ้งใช้เบอร์โทรศัพท์-อีเมล์ หมายเลขและตัวอักษรเหมือนกัน ฝ่ายบัญชีก็อาจจะมีความผิดพลาดในการแจ้งข้อมูลก็ได้ เรื่องเอกสารแจ้งกรมพัฒนาธุรกิจเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่การบัญชีเราไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด"
เมื่อถามถึงกรณีนายชัยวัฒน์ เลื่องลือวงศ์ อดีตกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โชติกะธัญศิษฐ์ จำกัด เคยปรากฎชื่อเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จำกัด ด้วยนั้น
ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ยืนยันว่า ไม่ทราบข้อมูลในเรื่องนี้
@ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการขายเครื่องตรวจจับวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนแบบเดินผ่านชนิดเสา ให้กับกองทัพบก
ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ชี้แจงว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องตรวจจับวัตถุโลหะที่ใช้ระบบคลื่นแม่เหล็กในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอม มักจะมีการใช้งานกันในเรือนจำที่ประเทศอังกฤษ
"เราไปเจอพรรคพวกที่รู้จักกัน เขาแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้มา เอามาสาธิตให้เราดู แล้วเราก็ทราบว่าในภาคใต้นั้นมีเรื่องของการตรวจจับอาวุธปืนและวัตถุระเบิดกันเยอะ ก็เลยคิดว่าน่าจะมีความเหมาะสมถ้าหากจะนำเอาอุปกรณ์นี้ไปใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจึงได้เข้ายื่นประกวดราคาอุปกรณ์ชนิดนี้ในปี 2563 โดยนำเสนอให้กับกองทัพบกทีเดียว"
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สอบถามถึงรายละเอียดอุปกรณ์ดังกล่าว
ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ชี้แจงว่า "ราคาเครื่องอยู่ที่ตัวละประมาณ 6 แสนบาท ขายให้กับกองทัพบกประมาณ 5-6 เครื่อง เท่าที่จำได้ โดยเป็นอุปกรณ์ยี่ห้อ Cell Sense ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าที่ดังที่สุดในโลก แต่ถ้าหากผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราสืบค้นราคาในอินเทอร์เน็ตทั่วไป ก็อาจจะพบว่าราคาอุปกรณ์ยี่ห้อนี้ที่ถูกกว่าที่บริษัทขาย ก็เป็นเพราะว่านั่นเป็นราคาที่ขายกันในประเทศอังกฤษ ที่มีการขายตรง และขายเป็นจำนวนมากๆ เพราะอังกฤษเขาต้องการขายเครื่องนี้ให้กับเรือนจำทั้งประเทศ ดังนั้นจึงราคาถูก แต่สำหรับเรา เราต้องรับผิดชอบเอง และถ้าหากผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราไปสืบค้นราคาเครื่องตรวจจับซึ่งเป็นยี่ห้ออื่น เขาก็อาจจะมีราคาที่ถูกกว่าของบริษัทด้วย แต่ก็อยากจะให้ดูในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือด้วย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้บางทีเขาใช้ในวัตถุประสงค์การตรวจจับสิ่งแปลกปลอมก่อนเข้าห้องฉุกเฉินทางการแพทย์ แต่ของที่บริษัทจัดหามาจะใช้ในทางความมั่นคง ซึ่งมียี่ห้อเดียวก็คือ Cell Sense ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี"
"เรามั่นใจว่าเครื่องนี้มีประสิทธิภาพดี จะไม่มีปัญหาซ้ำรอยเหมือนเครื่องตรวจอัลฟ่า 6 อย่างแน่นอน"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในระหว่างการสัมภาษณ์ ได้สืบค้นข้อมูลออนไลน์พบว่ามีการขายอุปกรณ์ยี่ห้อ Cell Sense อยู่ที่ราคาประมาณ 5,500 ปอนด์ หรืออยู่ที่ 237,379 บาท
ขณะที่ ตัวแทนบริษัท กัญจน์ณพัฒน์ ได้มาดูข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์ที่สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบ พร้อมชี้แจงว่า "สินค้าที่สำนักข่าวอิศราเปิดดูข้อมูลนั้นเป็นตัวเก่า ซึ่งจะแตกต่างจากที่ตัวใหม่ที่บริษัทนำมาขาย โดยเฉพาะในเรื่องของสัญญาณและเรื่องของไฟบนเสา สินค้ารุ่นที่ บริษัท กัญจน์ณพัฒน์ นำเข้ามาขายเป็นผลิตภัณฑ์รุ่น Cell Sense Plus"
เครื่องตรวจจับวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนแบบเดินผ่านชนิดเสา ( Contraband Pole Detection ) ยี่ห้อ Cell Sense Plus ที่ขายโดยบริษัท Command Sourcing ประเทศสหรัฐอเมริกา
@ กรณีการขึ้นบัญชีดำ บริษัทกัญจน์ณพัฒน์ จากคดีการขายเครื่องอัลฟ่า 6
ตัวแทนบริษัทกัญจน์ณพัฒน์ ระบุว่า "ณ เวลานี้ยังไม่ได้มีการแจ้งขึ้นบัญชีดำกับบริษัทแต่อย่างใด เข้าใจว่าเขา (ทางหน่วยงานราชการ) คงประชุมอยู่ ซึ่งคาดว่าคงใช้เวลาเป็นเดือนกว่าที่จะมีการแจ้งเรื่องมายังบริษัทอีกทีหนึ่ง"
"เรื่องการซื้อขายเครื่องอัลฟ่า 6 อยากจะชี้แจงให้สังคมเข้าใจว่า เราก็เป็นฝ่ายถูกหลอกเหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่ผู้ผลิตสินค้า แต่ไปรับซื้อเครื่องมาขายต่ออีกที เพราะเห็นว่า หน่วยงานราชการหลายแห่ง มีการจัดซื้อเครื่องชนิดนี้มาใช้แล้วสัก 1-2 ปี และก็มีการออกข่าวว่าเครื่องสามารถใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ"
"กรณีการจัดซื้ออัลฟ่า 6 หลายคนอาจจะมองว่าเราเป็นบริษัทที่ได้งานหลายสัญญามูลค่าเงินสูงหลายร้อยล้านบาท แต่ความเป็นจริงเราได้กำไรตอบแทนไม่มากนัก เพราะเราต้องไปซื้อของต่อจากเขามาขาย เงินค่าเครื่องส่วนใหญ่ ตกไปเป็นของบริษัทที่เขาไปซื้อต่อมา มูลค่าการขายสินค้าจำนวน 400 ล้านบาท แต่รายได้ส่วนมากนั้นก็ต้องให้กับบริษัทที่ทางบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 ต่อมา ก็บริษัท เอ เอส แอล เอ็ม เทรดดิ้ง จำกัด และก็จะมีอีกบริษัทที่ทาง เอ เอส แอล เอ็มเขาไปสั่งซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 มาอีกต่อ ซึ่งก็คือบริษัทแจ๊คสัน อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งทุกเคสของบริษัท กัญจน์ณพัฒน์ จำกัด ก็ซื้อจากบริษัท เอ เอส แอล เอ็ม ทั้งหมด"
ตัวแทนบริษัท กัญจน์ณพัฒน์ กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันบริษัทกำลังประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนัก ต้องหาเงินไปชดใช้ให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ รวมไปถึงธนาคารที่ออกหนังสือค้ำประกันให้เรา ก็มาตามเรียกเงินคืนอีกทางหนึ่งด้วยด้วย
"การทำธุรกิจของเราอยู่ปัจจุบันอยู่ในสถานะที่ยากลำบากอย่างมาก ณ เวลานี้ ทางเราก็ต้องพยายามที่จะประมูลงานอะไรก็ได้มาเพื่อที่จะหาเงินมาใช้หนี้ดังกล่าว"
ตัวแทนบริษัท กัญจน์ณพัฒน์ ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณีการขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้หน่วยงานราชการนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ซึ่งถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะไม่ไปขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้หน่วยงานราชการต่างๆ จนทำให้เกิดปัญหาและมีคดีความฟ้องร้องกันเกิดขึ้นแบบนี้
อ่านประกอบ:
@ ซื้อเครื่องตรวจ 3 จชต. กองทัพบก
สัญญาล่าสุด! ทบ.ซื้อเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย 3 จชต. จาก บ.คดีฉ้อโกงอัลฟ่าอีก 3.2 ล.
ไส้ใน ทบ.ซื้อเครื่องตรวจวัตถุฯ 3 จชต. อ้างอิง บ.คดีฉ้อโกงอัลฟ่า สืบราคากลางด้วย
พบหลักฐาน 'ผู้ชนะ-คู่เทียบ' ขายเครื่องตรวจวัตถุฯ ทบ. แจ้งเบอร์โทรฯ-อีเมล์ เดียวกัน
หลักฐานใหม่! ทบ.ซื้อเครื่องตรวจวัตถุฯ อดีต กก.-หุ้นใหญ่ 'คู่เทียบ' เคยรับมอบอำนาจ 'ผู้ชนะ'
รู้จักเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัยชนิดเสา ทบ.จ่อส่งลงใต้ ผู้ขายเจ้าเก่า "อัลฟ่า6"
@ ขึ้นบัญชีดำ บ.ขายจีที-อัลฟ่า
ไฉนกองทัพไม่ขึ้นบัญชีดำบริษัทขาย ‘จีที200 - อัลฟ่า6’
ข้อมูลจริง! บ.เอวิเอฯ แพ้คดีจีที200 แต่ยังได้งาน 'ทอ.-ทร.' เพียบ 54 ล.
กางกฎหมายถาม! ทำไม กองทัพบก ไม่ขึ้นบัญชีดำ บ.ขายจีที 200
'บิ๊กตู่'สั่ง ทอ.-ทร.ตรวจสอบปม บ.เอวิเอฯแพ้คดีจีที 200 แต่ยังได้งานกองทัพ
ยังไม่ขึ้นบัญชีดำ -ตัวแทนเจ้าเดียวในไทย! ทร.แจงซื้อจ้าง บ.เอวิเอฯ คู่กรณีจีที200 กองทัพ
สอบยัน! คำชี้แจง ทร.ปมซื้อจ้างคู่กรณีจีที 200 กองทัพ - ข้อมูล 'SAAB' ในมืออิศรา
ข้อมูลใหม่! คดีจีที200 'ทร.' โดนหลอกซื้อ 8 เครื่อง 9.1 ล. แต่ไม่ขึ้นบัญชีดำ บ.เอวิเอฯ
ผูกซื้อสินค้า บ.SAAB ด้วย! ล้วงเหตุผล ทอ. ทำไมจัดจ้าง บ.คู่กรณีฉ้อโกงจีที 200 กองทัพ
เตรียมแจ้งทิ้งงานโดยทุจริต! คกก.วินิจฉัยฯ นัดเคลียร์ปมขึ้นบัญชีดำ บ.ฉ้อโกงขายจีที200
คกก.วินิจฉัยฯสั่งทำหนังสือจี้ 15 หน่วยงานรัฐ-เอกชน แจงคืบหน้าคดีโกงจีที200
รอคำตอบ SAAB! 'อิศรา' ส่งอีเมล์ถาม ปมตั้งบ.แพ้คดีฉ้อโกงจีที200 ตัวแทนจำหน่ายไทย
ไม่เคยระบุเจาะจงให้จัดซื้ออย่างไร! ฟังคำตอบ SAAB แจงปมตั้ง บ.คดีฉ้อโกงจีทีตัวแทน
@ ตามคืนเงินค่าจีที-อัลฟ่า
รายได้ 113 ล.! สถานะธุรกิจล่าสุด บ.อดีตคู่สัญญาขายอัลฟา 6 ปค. 33 ล้าน
อบจ.สงขลา ตามไล่บี้ บ.ยูจีซีฯ คืนเงินเครื่องอัลฟาฯ 4.9 ล. หลังชนะคดี 'ฉ้อโกง'
ปค.382 ล.-เพชรบุรี 8.5 แสน! ชนะคดีโกงอัลฟา 6 ยังไม่ได้เงินคืน-อัยการตามสืบทรัพย์แล้ว
เจาะลึก บ.เปโตรฯ ก่อนขายอัลฟา 6 ปค. 349 ล.-คนตระกูล 'รัชกิจประการ' เป็นกก.เพียบ!
กก.คนสุดท้าย บ.เปโตรฯ ขายอัลฟา 6 ปค. 349 ล. คือ น้องชาย 'นาที รัชกิจประการ'?
พลิกปูมคดีฮั้ว-ผู้เกี่ยวข้อง จัดซื้ออัลฟาฯ ปค. 2 สัญญา 382 ล. -ก่อนขาดอายุความปริศนา!
ขายไปก่อนแล้ว! 'พิพัฒน์' แจงสัมพันธ์ธุรกิจ 'รัชกิจประการ'- บ.คู่สัญญาอัลฟ่าฯ ปค. 349 ล.
@ ทุจริตจัดซื้อเครื่องจีที-อัลฟ่า
ข้อมูลลับ ปค.จัดซื้อ ‘ALPHA 6’ 328 ล.- ผู้ชนะซื้อของคู่เทียบ–ต้นทุน 1 พัน ขายต่อ 5 แสน
ขู่ใช้อำนาจกม.ลงโทษอธิบดีปค.! สตง.จี้รายงานผลสอบวินัย 4ขรก.- จัดซื้อเครื่อง ALPHA 6
บ.ขายอัลฟา349 ล.เลิกกิจการแล้ว!แกะรอยเอกชนพันคดีจีที200 ในบัญชีสอบป.ป.ช.
ป.ป.ช.แจ้งข้อหากราวรูด 200 ราย! จนท.รัฐพันจัดซื้อ GT200-‘อิศรา’พบมี 10 แห่ง 767 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/