"...การขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงาน (Blacklist) จึงเป็นมาตรการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ด้วยการปิดโอกาสไม่ให้พวกคนโกงหรือชอบเอาเปรียบเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับรัฐได้อีก มาตรการนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกหน่วยงานต้องใส่ใจ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่มีทางควบคุมคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างฯ ได้..."
.........................
น่ากังขามากกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน “กองบัญชาการกองทัพไทย” เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้กองทัพไทยชนะคดีที่เอกชนร่วมกันฉ้อโกงขายเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธและวัตถุระเบิด GT200 และ ALPHA6 คดีดำเลขที่ อ284/62 คดีแดงที่ 931/62 วันที่ 23 กันยายน 2562 ซึ่งตามกฎหมายแล้วกองทัพไทยควรเอาเหตุนี้ยื่นเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาสั่งให้เอกชนรายนั้นเป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ แต่ผ่านมาปีกว่าผู้มีอำนาจในกองทัพไทยกลับนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เปิดโอกาสให้บริษัทและบุคคลกลุ่มนี้สามารถขายอาวุธยุทโธปกรณ์และสินค้าอื่นให้แก่สามเหล่าทัพ กองบัญชาการกองทัพไทยและอีกหลายหน่วยราชการได้เรื่อยมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทราบกันดีว่าขบวนการต้มตุ๋น GT200 และ ALPHA6 สร้างความเสียหายแก่รัฐราว 1.13 พันล้านบาท เป็นคดีคอร์รัปชันฉาวโฉ่ที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องจำนวนมาก ปัจจุบันมีคดีค้างคาใน ป.ป.ช. ดีเอสไอและศาลหลายคดี
ตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ เอกชนรายใดถูกขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงานจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ค้าขายกับรัฐได้อีก รวมทั้งคนที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการดําเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้น บทลงโทษนี้ยังโยงไปถึงนิติบุคคลอื่นในกิจการประเภทเดียวกันที่มีชื่อเป็นผู้ทิ้งงานร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย (มาตรา 29(5) มาตรา 109 และ 120 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ข้อ 193 และข้อ 196)
การขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงาน (Blacklist) จึงเป็นมาตรการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ด้วยการปิดโอกาสไม่ให้พวกคนโกงหรือชอบเอาเปรียบเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับรัฐได้อีก มาตรการนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกหน่วยงานต้องใส่ใจ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่มีทางควบคุมคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างฯ ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยสั่งการในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ให้รัฐและเอกชนร่วมกันกำหนดมาตรการขึ้นบัญชีดำให้ชัดเจน มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม แต่นโยบายนี้ไม่มีทางเป็นจริงได้ หากหน่วยราชการไม่ใส่ใจ
กองบัญชาการกองทัพไทยจึงควรออกมาชี้แจงให้สังคมหายข้องใจว่า ทำไมเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ท่านจึงเงียบเฉยไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ สุจริตหรือไม่ มีเบื้องหลังหรือกำลังปกป้องใคร มีผู้บังคับบัญชาท่านใดบกพร่องและต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้หรือไม่
มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก เพจ ทูเดย์ไลน์