เผยความคืบหน้าคดีอคส.จัดซื้อขายถุงมือยางแสนล้าน พบปัญหาขั้นตอนทำสัญญาบ.การ์เดียนโกลฟส์ฯ เพียบ ไม่มีแผนจัดซื้อ ไม่ส่งสัญญา อสส. ตรวจสอบก่อน 'ล็อกเป้า' เอกชน 3 ราย ตัวละครสำคัญจุดเริ่มต้นเรื่องราว มีชื่อ ลอว์เฟิร์มในสหรัฐฯ ด้วย ส่วนปมติดตามเงินคืน 1.8 พันล. รอดีเอสไอ สอบปากผู้เกี่ยวข้องจบก่อน
........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลกรณีปัญหาการทำสัญญาซื้อขายสินค้าถุงมือยางระหว่างองค์การคลังสินค้า (อคส.) กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด วงเงิน 112,500 ล้านบาท ที่ปรากฎข้อมูลว่า มีเอกชน 7 ราย เข้ามาติดต่อสั่งซื้อสินค้าถุงมือยางล่วงหน้ากับ อคส. จำนวนรวมกว่า 826 ล้านกล่อง ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 210-230 บาทต่อกล่อง รวมวงเงินกว่า 186,100 ล้านบาท ทำให้ผู้บริหาร อคส. กล้าที่จะลงนามในสัญญาซื้อขายสินค้าถุงมือยาง กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด วงเงิน 112,500 ล้านบาท ซึ่งมีการยื่นเรื่องให้หน่วยงานตรวจสอบหลายแห่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวใน อคส.ว่า เกี่ยวกับปัญหากรณีนี้ ปัจจุบัน อคส. อยู่ระหว่างการดำเนินการใน 2 ส่วน คือ
1. การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในเกี่ยวกับการลงนามในสัญญาระหว่างผู้บริหารอคส. กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ว่าดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมายหรือไม่
2. การเตรียมความพร้อมข้อมูลเอกสารหลักฐาน เพื่อร้องรับกรณีถูกเอกชนฟ้องร้องกลับ หลังจากที่ อคส.ได้สั่งยกเลิกสัญญากับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ไปก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบลำดับขั้นตอนการดำเนินการจัดทำสัญญาซื้อขายสินค้าถุงมือยางระหว่าง อคส. กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด พบข้อมูลดังต่อไปนี้
1. ผู้บริหาร อคส. ได้ทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายสินค้าล่วงหน้า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2563 กับเอกชน 3 ราย คือ
1. บริษัท ไทยสไมล์ เทรด จำกัด จำนวน 52 ล้านกล่อง วงเงิน 11,700 ล้านบาท ในราคา กล่องละ 225 บาท
2. บริษัท Galore Management LLC สั่งซื้อถุงมือยางจาก อคส.จำนวน 100,000,000 กล่อง ราคากล่องละ 223 บาท รวมมูลค่า 22,300 ล้านบาท
และ 3. KRENEK LAW OFFICES, PLLC จำนวน 500 ล้านกล่อง ราคา 230 บาทต่อกล่อง มูลค่าสินค้ารวม 115,000 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 149,000 บาท
2. ต่อมาผู้บริหาร อคส. ได้ทำสัญญาซื้อขายสินค้า กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด วงเงิน 112,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2563 โดยอ้างว่า มีลูกค้าที่อยู่ในมือแล้วจำนวน 3 ราย ดังกล่าว และมีการโอนเงินค่าสินค้างวดแรกจำนวน 2,000 ล้านบาท ให้กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2563
3. จากนั้น ผู้บริหารอคส. มีการเชิญบริษัทเอกชนอีก 4 ราย เข้ามาลงนามในบันทึกซื้อขายสินค้าเพิ่มเติม คือ บริษัท เคเค.ออยล์แอนด์แก๊ส จำกัด บริษัท เอ แอเมทิสต์ จำกัด บริษัท ควีน พาวเวอร์ ลิมิเต็ด จำกัด และบริษัท 24 คลีน เอเนอร์จี้ จำกัด
" บริษัท ไทยสไมล์ เทรด จำกัด บริษัท Galore Management LLC KRENEK LAW OFFICES, PLLC จึงนับเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้บริหารอคส. ใช้เป็นเหตุผลในการลงนามสัญญาซื้อขายสินค้ากับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด และมีการนำเงินอคส. จำนวน 2,000 ล้านบาท ออกไปดังกล่าว จึงต้องมีการพิสูจน์ว่า เอกชนทั้ง 3 ราย มีตัวตน และตั้งใจที่จะเข้ามาสั่งซื้อสินค้าจากอคส. จริงหรือไม่ " แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าว ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการทำสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่าง อคส. กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด นั้น เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลในขณะนี้ พบข้อสังเกตหลายประการ ได้แก่
1. บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งมาได้ไม่กี่เดือน ไม่มีเครื่องจักร ไม่มีกำลังการผลิต
2. การทำสัญญาดังกล่าว ไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอคส. การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อสินค้าเพื่อการค้าปกติ ปี 2561 นอกจากนี้ มูลค่าสินค้าที่จัดซื้อวงเงินเป็นแสนล้านบาท แต่ไม่มีการประกาศเป็นทางการ ไม่มีแผนจัดซื้อ ไม่มีราคากลางอ้างอิงทั้งราคาราชการและราคาตลาด และที่สำคัญสัญญาซื้อขายไม่ผ่านการตรวจสอบจากอัยการสูงสุด (อสส.)
แหล่งข่าว ยังด้วยว่า ส่วนการติดตามเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ที่ อคส.ชำระค่าสินค้างวดแรกให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัดไปแล้ว นั้น ในข้อเท็จจริงหลังจากที่ อคส. จ่ายเงินไปแล้ว ทาง บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้นำเงินจำนวน 200 ล้านบาท มาวางเป็นหลักประกันสัญญา เท่ากับว่าเงินของอคส. ที่ยังค้างอยู่กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ในขณะนี้ เหลืออยู่จำนวน 1,800 ล้านบาท นั้น ปัจจุบันยังคงต้องรอขั้นตอนการสอบสวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่อยู่ระหว่างการเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้สอบปากก่อน หลังจากนั้นคาดว่า ทางดีเอสไอ คงจะมีการประสานงานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้เข้ามาดำเนินการติดตามเรื่องเส้นทางเงินต่อไป
อ่านข่าวประกอบ :
เพิ่งจัดตั้ง 2 ด.เศษ! เปิดตัว บ.คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.-พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยันทำถูกต้อง
"โชว์ครบ 4 หน้า! สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล้าน-ข้อสังเกตหลักประกัน 200 ล.-ลูกค้าปริศนา?"
แกะรอยเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียนโกลฟส์ งวดแรก อยู่ที่ไหน?
โพรไฟล์ชีวิต ‘พ.ต.อ.รุ่งโรจน์’ ผู้ลงนามสัญญาซื้อขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
แฉเหตุ 'รุ่งโรจน์' กล้าทำสัญญาขายถุงมือยางแสนล.! มีบอร์ดอคส.-นักการเมือง ปชป.ดีลลูกค้าให้
'เอ็กซ์คลูซีฟ' เบื้องลึก บ.ขายถุงมือยาง อคส.แสนล.-1 ในผู้บริหารเคยโดนแจ้งความคดีฉ้อโกง?
พบเป็นโกดังเก็บสินค้าย่านนครปฐม! เผยโฉม บ.การ์เดียนโกลฟส์ฯ คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.
เปิดตัว คุณเอ็ม 'ธณรัสย์ หัดศรี' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
ภาพชุด 2! เปิดตัว 'คุณเอ็ม' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
'เอ็กซ์คลูซีฟ': เปิด 7 เอกชน จองซื้อถุงมือยาง อคส.แสนล.-บ.K สั่งล็อตใหญ่ 500 ล้านกล่อง
MR.Abdullah Pathan ตัวแทนลอว์เฟิร์มในสหรัฐฯ สั่งซื้อถุงมือยางแสนล.มีตัวตนจริงหรือไม่?
บ้าน 2 ชั้นย่านอุดมสุข! เปิดตัวบ.เคเค.ออยล์ ลูกค้ารายที่ 2 สั่งซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
คนชื่อแอร์แนะนำ! ผู้บริหารบ.เคเคออยล์ฯ แจงทำสัญญาซื้อถุงมือยาง 1.1หมื่นล.-มีลูกค้าจริง
รุ่นพี่ชื่อ'จ๋า'แนะนำ! เปิดตัวบ.ถนอมผลไม้ ลูกค้าอคส.รายที่ 3 ซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
รายที่4! เปิดตัว Galore ลูกค้า อคส. ซื้อถุงมือยาง2.2หมื่นล.-อยู่ฟลอริดา โชว์รายได้ 2 ล.
เจอแล้ว! บ.รายที่ 5 ซื้อถุงมือยาง2.1 หมื่นล.-แจ้งงบฯขาดทุน1.2 หมื่น-ยันมีลูกค้าตปท.จริง
ตามไปดู บ.รายที่ 6 ซื้อถุงมือยาง อคส.2.5 พันล. พบเป็นที่ตั้งลอว์เฟิร์มย่านรัชดา
ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง! ตัวแทน บ.ควีนฯ แจงเหตุสั่งซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-คนใน.อคส.ชักชวน
เปิดตัว บ.รายที่ 7 ซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-โอดเดือดร้อน ส่งของ รบ.ท้องถิ่นแคนาดาไม่ทัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage