ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษคุก 2 ปี! อดีตรองเลขาฯ กสม. ปกปิดข้อมูลเลี่ยงถูกอายัดเงินเดือน

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีชี้มูล 'วีรวิทย์ วีรวรวิทย์' อดีตรองเลขาฯ กสม. นำหนังสือโดนแจ้งล้มละลายออกจากระบบ เลี่ยงถูกอายัดเงินเดือน ล่าสุดศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษจำคุก 2 ปี ตามศาลชั้นต้น

picpccccsdf18 6 63

สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุก 2 ปี นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในคดีนำหนังสือกองบังคับคดีล้มละลาย 1 ออกไปจากระบบงานสารบรรณเพื่อมิให้มีการอายัดเงินเดือนหรือเงินอื่นใดที่ตนมีสิทธิได้รับ

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2561 ว่า จําเลยผิดตามมาตรา 157, 158 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90 จำคุก 3 ปี แต่ทางนำสืบจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตามมาตรา 78 ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี

(อ่านประกอบ : คุก 2 ปี! อดีตรองเลขาฯ กสม. นำหนังสือโดนแจ้งล้มละลายออกจากระบบ เลี่ยงถูกอายัดเงินเดือน, เส้นทางคดีล้มละลาย อดีตรองเลขาฯกสม. ก่อนโดนคุก 2 ปี ปกปิดข้อมูลเลี่ยงถูกอายัดเงินเดือน)

ล่าสุด สำนักาน ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีนี้ ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

ถ้าหาก นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ ประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม สามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศราได้ตลอดเวลา

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 158 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์หรือเอกสารใดอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

picppccau18 6 63