ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด สิบตำรวจเอกสุนทร สภาพันธ์ อดีตผบ.หมู่ตำรวจรถไฟ กลั่นแกล้งตรวจค้นยึดทรัพย์สินผู้โดยสารไปเป็นปย.ส่วนตน ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี เจ้าตัวรับสารภาพลดโทษ กึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา สิบตำรวจเอกสุนทร สภาพันธ์ ผู้บังคับหมู่แผนก 2 กองกำกับการ 2 กองตำรวจรถไฟ กลั่นแกล้งตรวจค้น ยึดเงินสด สร้อยคอ ทองคำ และธนบัตร ประเทศลาวของนายโสพิศ เมฆจันทร์ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ มาตรา 148 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษ จำคุก 5 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษ กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 6 เดือน
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า สิบตำรวจเอกสุนทร สภาพันธ์ ได้ยืนเรื่องต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองต่อหรือไม่
แต่ถ้าหาก สิบตำรวจเอกสุนทร รับทราบข่าวนี้ และประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม สามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศรา ได้ตลอดเวลา
สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย คือ สิบตำรวจเอก สุนทร สภาพันธ์ และจ่าสิบตำรวจชาญ มีผลกิจ
โดยในช่วงเดือน ก.พ.2562 เคยปรากฎเป็นข่าวว่า กองปราบปราม ได้เข้าจับกุมตัว จ.ส.ต.ชาญ ที่ไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดศรีอุทัย จังหวัดสระบุรี ในฐานะผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้ตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148, 157, 83
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2542 นายโสพิศ เมฆจันทร์ ได้เดินทางออกจากบ้านในตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยนั่งโดยสารขบวนรถไฟจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ขณะขบวนรถไฟออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช มีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งใกล้ๆ และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
เมื่อขบวนรถไฟแล่นถึงสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง จ.ส.ต.ชาญ และสิบตำรวจเอกสุนทร ได้ขึ้นขบวนรถไฟมาปฏิบัติหน้าที่ และได้ทำการตรวจค้นตัว นายโสพิศ เนื่องจากมีพิรุธ แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
จ.ส.ต.ชาญ มีผลกิจ จึงได้ขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน แต่ นายโสพิศ ไม่ได้นำบัตรประชาชนติดตัวมา จ.ส.ต.ชาญ และสิบตำรวจเอกสุนทร จึงได้นำตัวนายโสพิศและผู้หญิงที่นั่งใกล้กันไปที่ตู้เสบียง แล้วข่มขู่กล่าวหาว่าไม่พกบัตรประชาชนติดตัว และนำคนต่างด้าวเข้าเมือง
โดย จ.ส.ต.ชาญ ใช้มือตบหน้านายโสพิศ หลังจากนั้นได้นำตัวนายโสพิศ และหญิงคนดังกล่าวไปที่ตู้ทำงานแล้วพูดว่า ถ้าอยากให้เรื่องจบ ให้นำเงินมาให้ 20,000 บาท แต่นายโสพิศบอกว่าไม่มีเงินจะให้ จ.ส.ต.ชาญ ก็ได้ล้วงกระเป๋ากางเกงของนายโสพิศ นำเงินออกจากกระเป๋า พบมีเงินจำนวน 6,600 บาท เงินประเทศลาว 1 ฉบับ ราคา 1,000 กีบ และสร้อยคอทองคำ 2 เส้น น้ำหนัก 2 สลึง 1 เส้น และน้ำหนัก 1 สลึง 1 เส้น จึงได้ยึดเอาเงิน 5,000 บาท และสร้อยคอทองคำ 2 สลึง 1 เส้น
กระทั่งต่อมา นายโสพิศ ได้เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกระทั่งมีการออกหมายจับ และได้มีคำสั่งไล่ จ.ส.ต.ชาญ ออกจากราชการ ฐานกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ โดยภายหลังถูกไล่ออกจากราชการ ได้หลบหนีคดีมาบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่ วัดศรีอุทัย ในอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ป.ป.ช. ระบุหมายเหตุว่า อัยการยื่นฟ้องเฉพาะ สิบตำรวจเอก สุนทร สภาพันธ์
อ่านประกอบ :
ทำผิดซ้ำ-เรื่องร้ายแรง! ศาลสั่งจำคุก 6 ด. อดีตปลัดอบต.หนองเม็ก เรียกเงินหลอกช่วยบรรจุงาน
คุก16 ปี 48ด.! อดีตจนท.สนง.อัยการ สุราษฎร์ฯ สารภาพทำเอกสารเท็จเบียดบังเงิน
คุก 10 ปี ! ศาลอุทธรณ์ สั่งลงโทษ อดีตนายกอบต.บางรักพัฒนา เบียดบังค่าเช่าแผงตลาด-ไฟฟ้า
คุก 27 ปี 6 ด. ! อดีตจนท.พัสดุ แขวงการทางเชียงใหม่ เรียกเงินผู้รับเหมาแลกงานโครงการ
คุก 5 ปี คืนเงิน 2 แสน! อดีตผอ.รร.บ้านโคกสุมุ นราธิวาส ทุจริตทุนโครงการอาหารกลางวันเด็ก
คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตนายกอบต.ลิ่นถิ่น อนุมัติจ่ายเงินให้กฟภ.เดินไฟบ้านสมาชิกสภาฯ หลังเดียว
คุก 3 ปี 18 ด.! พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู อดีตผกก.สภ.ถลาง ภูเก็ต คดีปล่อยตัวคนต่างด้าว
คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตพนง.อาวุโส ธอส. ทุจริตเรียกเงินค่าชี้ช่องซื้อทรัพย์ NPA ไปขายต่อ
คุก 3 ปี 9 เดือน! 'จ.ส.ต' อดีตผบ.หมู่งานฯ สน.ทุ่งสองห้อง เรียกรับเงินมอไซค์รับจ้าง
คุก 7 ปี 6 ด.! ศาลอุทธรณ์ พิพากษาอดีตเภสัชกร รพ.พุทธชินราช ซื้อยาแพง-ล็อกสเปกเรียกผลปย.
คุก 3 ปี! อดีตนายกเทศมนตรีดอนยายหอม เรียกรับผลปย.สร้างสะพาน - รองฯ โดนด้วย 2 ปี
คุก 32 ปี 6 ด.! อดีตหัวหน้าคลังอบต.นาด้วง เบียดบังเงินหลวง-เจ้าตัวอุทธรณ์สู้คดีต่อ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/