ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'นันทพร หรือ ธัญญานันท์ โคนาหาญ' อดีตเจ้าหน้าที่สนง.อัยการคดีเยาวชนครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดทำเอกสารเท็จเบียดบังเงินราชการไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวล่าสุด - ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษา จำคุก 40 ปี ให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือ 16 ปี 48 เดือน ไม่มีเหตุรอการลงโทษ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นางสาวนันทพร หรือ ธัญญานันท์ โคนาหาญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดทำเอกสารเท็จเบียดบังเงินของทางราชการไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 162 (1), (4) มาตรา 266 (4) และมาตรา 268 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2561 ที่ผ่านมา
โดยความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษาคดีว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 162 (1), (4) มาตรา 266 (4) และมาตรา 268 ลงโทษจำคุก 40 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 16 ปี 48 เดือน ไม่มีเหตุรอการลงโทษ
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 161 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
มาตรา 162 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่
(1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
(2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง
(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ
(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
มาตรา 266 ผู้ใดปลอมเอกสารดังต่อไปนี้
(1) เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
(2) พินัยกรรม
(3) ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ หรือใบสำคัญของใบหุ้นหรือใบหุ้นกู้
(4) ตั๋วเงิน หรือ
(5) บัตรเงินฝาก
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว
อ่านประกอบ :
ทำผิดซ้ำ-เรื่องร้ายแรง! ศาลสั่งจำคุก 6 ด. อดีตปลัดอบต.หนองเม็ก เรียกเงินหลอกช่วยบรรจุงาน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/