ก.ล.ต.ส่งอัยการฟ้องผู้กระทำผิด 4 ราย ในคดีปั่นหุ้น KIAT เรียกให้จ่ายค่าปรับ 226 ล้านบาท หลังไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง
......................
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดรวม 4 ราย ได้แก่ (1) นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ (นายเกียรติชัย) (2) นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย (นายสุรพงษ์) (3) นางกิ่งกาญจน์ สมิตานนท์ (นางกิ่งกาญจน์) และ (4) นายประพล มิลินทจินดา (นายประพล) กรณีได้รู้เห็นหรือร่วมกับบุคคลและนิติบุคคลอีก 9 ราย
โดยแบ่งหน้าที่กันกระทำการสร้างราคาหุ้นบริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) (KIAT) โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวมเป็นเงิน 226 ล้านบาทเศษ พร้อมรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ก.ล.ต. ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายเกียรติชัย นายสุรพงษ์ นางกิ่งกาญจน์ และนายประพล กรณีได้รู้เห็นหรือร่วมกับบุคคลและนิติบุคคลอีก 9 ราย โดยแบ่งหน้าที่กันกระทำการซื้อขายหุ้น KIAT ในลักษณะผลักดันราคาหุ้น KIAT ให้ผิดไปจากสภาพปกติ และแสวงหาประโยชน์จากการขายหุ้น KIAT จากการผลักดันราคา โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้กระทำความผิด 9 รายดังกล่าวได้ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง แต่นายเกียรติชัย นายสุรพงษ์ นางกิ่งกาญจน์ และนายประพล ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง ที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต.
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิด 4 รายดังกล่าวต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 226,169,040 บาท โดยให้นายเกียรติชัยชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 150,146,000 บาท นายสุรพงษ์ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 45,146,560 บาท นางกิ่งกาญจน์ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 500,000 บาท และให้นายประพลชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 30,376,480 บาท
อนึ่ง ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่ออีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต. ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 13 ราย ได้แก่ (1) นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ (2) นายน้ำ ชลสายพันธ์ (3) นายศุภวุฒิ มณีรินทร์ (4) นางสาวศนิ จิวจินดา (5) นายยศ ธนารักษ์โชค (6) นางนิภา ชลสายพันธ์ (7) นางสาวน้ำทิพย์ ชลสายพันธ์ (8) นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย (9) บริษัทนิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (NPP)
(10) นางสาวรินนภา คุณะวัฒน์สถิตย์ (11) นายปฏิญญา เทวอักษร (12) นางกิ่งกาญจน์ สมิตานนท์ และ (13) นายประพล มิลินทจินดา กรณีร่วมกันสร้างราคาหุ้น KIAT ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท และเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 291,175,810 บาท
กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT เพื่อให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ในช่วงเวลาเดียวกันนายเกียรติชัย นายสุรพงษ์ NPP (ซึ่งนายสุรพงษ์เป็นกรรมการผู้จัดการและเป็นผู้มีอำนาจซื้อขายในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของ NPP) นางสาวรินนภาซึ่งมีนายสุรพงษ์เป็นผู้รับประโยชน์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตน
นายปฏิญญา และนางกิ่งกาญจน์ซึ่งมีนายประพลเป็นผู้รับประโยชน์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตน ร่วมทำรายการซื้อขายบนกระดานรายใหญ่ (Big lot) เป็นจำนวนมากหลายครั้งตามราคาที่กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ผลักดันให้สูงขึ้นแล้ว ทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจว่ามีผู้ร่วมลงทุนใหม่สนใจลงทุนใน KIAT ในราคาที่สูงขึ้นตามลำดับ ในขณะที่กลุ่มผู้ที่ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวซึ่งรวมถึงนางนิภาและนางสาวน้ำทิพย์ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรของนายน้ำได้ขายหุ้น KIAT เพื่อทำกำไร โดยนายเกียรติชัยนำหุ้นที่ฝากไว้ในบัญชีบุคคลอื่น (nominee) มาขายทำกำไรเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวนายเกียรติชัยในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการผู้จัดการของ KIAT ได้เสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจงแก่ผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด การลดมูลค่าพาร์ของหุ้น KIAT และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อสร้างความน่าสนใจในการซื้อขายหุ้น KIAT อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 13 ราย โดยกำหนดให้ชำระค่าปรับทางแพ่งดังนี้ (1) นายเกียรติชัย จำนวน 112,609,500 บาท (2) นายน้ำ จำนวน 10,530,345 บาท (3) นายศุภวุฒิ จำนวน 9,989,632.50 บาท (4) นางสาวศนิ จำนวน 7,746,735 บาท (5) นายยศ จำนวน 5,637,442.50 บาท
(6) นางนิภา จำนวน 2,865,330 บาท (7) นางสาวน้ำทิพย์ จำนวน 529,545 บาท (8) นายสุรพงษ์ จำนวน 33,859,920 บาท (9) NPP จำนวน 23,295,000 บาท (10) นางสาวรินนภา จำนวน 500,000 บาท (11) นายปฏิญญา จำนวน 60,330,000 บาท (12) นางกิ่งกาญจน์ จำนวน 500,000 บาท และ (13) นายประพล จำนวน 22,782,360 บาท
อ่านประกอบ :
'ก.ล.ต.' กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร 'KC-โมเดิร์นสตรีท' ร่วมกันทุจริตซื้อขายที่ดิน 3 แปลง
เสียหาย 1.1 พันล้าน! ก.ล.ต.กล่าวโทษ 'ผู้บริหาร RICH-พวก' ลงข้อความเท็จในงบการเงิน
ก.ล.ต.สั่งปรับ ‘ซีอีโอ JKN’ 2.1 ล้าน โพสต์เฟซบุ๊กชักชวนซื้อหุ้น
ก.ล.ต. เพิกถอน 'ผู้วางแผนการลงทุน' เหตุอยู่ระหว่างถูกลงโทษคดีอินไซด์หุ้น UVAN
ก.ล.ต.กล่าวโทษอดีตกก.-ผู้บริหาร GGC ทุจริต-พบเมียรองเลขาฯป.ป.ช.เกี่ยวข้อง
ก.ล.ต.ฟัน 13 ราย ปั่นหุ้น 'KIAT' สั่งปรับทางแพ่ง 291 ล้าน
ก.ล.ต.ฟัน 'พงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ' อินไซด์หุ้น SVI สั่งปรับ 37 ล.-ห้ามบริหารบจ. 1 ปี
ศาลฯสั่ง ‘ศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์’ จ่ายค่าปรับ 31.9 ล้าน อินไซด์ฯหุ้น ‘IFEC’
ก.ล.ต.ฟันก๊วนปั่นหุ้น ‘ACD’-ปรับ ‘จันทร์ทิพย์ วานิช’ 3.38 ล้าน อินไซด์ฯ ‘UVAN’
รื่นวดี สุวรรณมงคล : พลิกบท ‘ก.ล.ต.’ เป็นพนง.สอบสวน ‘ปั่นหุ้น’-สัญญาต้องเสร็จสมัยนี้
ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 3 ราย อินไซด์เดอร์ขายหุ้น 'ซิโน-ไทย'
ก.ล.ต.ปรับ 160 ล.'พิชญ์ โพธารามิก-พวก' ปั่นหุ้น JAS-MONO ขึ้นทะเบียนไม่น่าไว้ใจ 3 ปี
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage