ก.ล.ต.ดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งสั่งปรับ ‘จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ ซีอีโอ JKN’ เป็นเงินกว่า 2.16 ล้านบาท หลังโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนให้นักลงทุนรีบซื้อหุ้น-ส่งผลกระทบต่อราคา
...................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ก.ล.ต. ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ (นายจักรพงษ์) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการ และกรรมการของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กรณีเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ JKN ในลักษณะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น JKN โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมจำนวน 2,166,840 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีข่าวปรากฏในหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์หลายแห่ง กรณีการเผยแพร่ข้อความการดำเนินธุรกิจของ JKN ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะชี้นำราคาหุ้น JKN และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน เกี่ยวกับการกระทำของนายจักรพงษ์ที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายในกรณีดังกล่าว
ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเมื่อวันที่ 8-9 มี.ค. 2564 นายจักรพงษ์ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในลักษณะว่า JKN เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์กัญชงเจ้าแรกเจ้าเดียว และเช่าเวลาสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ แบบ 24 ชั่วโมง โดยสื่อความในทำนองว่าผลการดำเนินงานของ JKN จะดีขึ้นอย่างมาก หรือราคาหุ้น JKN จะปรับตัวสูงขึ้นมาก
รวมทั้งมีข้อความในลักษณะชักชวนให้รีบซื้อหุ้น JKN ซึ่งข้อความที่นายจักรพงษ์เผยแพร่ดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ หรือข้อมูลอื่นใดของ JKN ที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือต่อการตัดสินใจลงทุนใน JKN
การกระทำของนายจักรพงษ์เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 240 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคสอง และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายจักรพงษ์ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินจำนวน 2,166,840 บาท
ทั้งนี้ หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมชำระเงินค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าที่ ค.ม.พ. กำหนดจนถึงอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ ส่วนเงินค่าปรับทางแพ่งเป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลัง
@เลขาก.ล.ต.เตือนผู้บริหารบจ.ระวังการเผยแพร่ข้อมูล
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนหรือบุคคลใด ต้องระมัดระวังในการสื่อสารหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์นั้น นอกจากนี้ หากข้อความที่สื่อสารหรือเผยแพร่ ไม่เป็นจริง หรืออาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ หรือข้อมูลใดที่เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน บุคคลที่สื่อสารหรือเผยแพร่ข้อมูลลักษณะดังกล่าวอาจมีความผิดตามกฎหมายได้
@สั่งพักการให้ความเห็นผู้แนะนำการลงทุน 4 ราย
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน 4 ราย กรณีแสวงประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ (1) นายนพรัตน์ รังสิมาวิศรุต (นายนพรัตน์) และ (2) นายธัชชัย ดีวงกิจ (นายธัชชัย) ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (บล. อาร์เอชบี) (3) นางสาวชุติกาญจน์ กันทะ (นางสาวชุติกาญจน์) ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคาร เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (4) นางสาวทิฆัมพร วิริยะ (นางสาวทิฆัมพร) ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานข้อร้องเรียนจาก บล. อาร์เอชบี และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. และวันที่ 20 เม.ย.2558 นายนพรัตน์ นายธัชชัย นางสาวชุติกาญจน์ และนางสาวทิฑัมพร ร่วมกันจัดหาหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งยังไม่ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แก่ลูกค้าและน้องชายลูกค้า จำนวน 2 ครั้ง รวม 2 ล้านหุ้น เป็นเงินรวม 6 ล้านบาท
โดยแบ่งหน้าที่กันทำกล่าว คือ นางสาวชุติกาญจน์แนะนำลูกค้าแก่นายนพรัตน์ นายธัชชัยนำเช็คค่าหุ้นของลูกค้าส่งมอบให้นางสาวทิฆัมพรนำไปชำระค่าหุ้นแก่เจ้าของบริษัท ซึ่งทั้ง 4 รายได้รับประโยชน์จากการแนะนำ รวม 2 ล้านบาท โดยลูกค้าได้รับใบหุ้น แต่หุ้นของบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตามคำแนะนำ และเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 นายนพรัตน์ยังได้รับประโยชน์จากการขายหุ้นในส่วนของน้องชายลูกค้าอีกจำนวน 50,000 บาท
การกระทำของผู้แนะนำการลงทุนทั้ง 4 รายดังกล่าว เป็นการแสวงประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน* ก.ล.ต. จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
(1) พักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ของนายนพรัตน์ นายธัชชัย และ นางสาวชุติกาญจน์ เป็นเวลา 4 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2564 ทั้งนี้ กรณีนายนพรัตน์ เนื่องจากบริษัทได้ลงโทษโดยการพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนมาแล้ว เป็นเวลา 19 วัน ดังนั้น จึงเหลือระยะเวลาการพักตามคำสั่งของ ก.ล.ต. เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน
(2) พักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ของนางสาวทิฆัมพร เป็นเวลา 4 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.2564
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
“ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในกรณีที่มีผู้แนะนำการลงทุนจัดหาหุ้นนอกตลาดมาให้ผู้ลงทุนซื้อขาย โดยให้ผู้ลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้แนะนำการลงทุน เนื่องจากในการซื้อขายหลักทรัพย์จะต้องมีการโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น ส่วนผู้แนะนำการลงทุนจะต้องไม่ใช้หน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนจากการจัดหาหุ้นให้ผู้ลงทุน รวมทั้งต้องให้บริการภายใต้ขอบเขตการประกอบธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ก็จะมีหน้าที่ควบคุมการทำหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนดังกล่าวด้วย” ก.ล.ต.ระบุ
อ่านประกอบ :
ก.ล.ต. เพิกถอน 'ผู้วางแผนการลงทุน' เหตุอยู่ระหว่างถูกลงโทษคดีอินไซด์หุ้น UVAN
ก.ล.ต.กล่าวโทษอดีตกก.-ผู้บริหาร GGC ทุจริต-พบเมียรองเลขาฯป.ป.ช.เกี่ยวข้อง
ก.ล.ต.ฟัน 13 ราย ปั่นหุ้น 'KIAT' สั่งปรับทางแพ่ง 291 ล้าน
ก.ล.ต.ฟัน 'พงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ' อินไซด์หุ้น SVI สั่งปรับ 37 ล.-ห้ามบริหารบจ. 1 ปี
ศาลฯสั่ง ‘ศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์’ จ่ายค่าปรับ 31.9 ล้าน อินไซด์ฯหุ้น ‘IFEC’
ก.ล.ต.ฟันก๊วนปั่นหุ้น ‘ACD’-ปรับ ‘จันทร์ทิพย์ วานิช’ 3.38 ล้าน อินไซด์ฯ ‘UVAN’
รื่นวดี สุวรรณมงคล : พลิกบท ‘ก.ล.ต.’ เป็นพนง.สอบสวน ‘ปั่นหุ้น’-สัญญาต้องเสร็จสมัยนี้
ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 3 ราย อินไซด์เดอร์ขายหุ้น 'ซิโน-ไทย'
ก.ล.ต.ปรับ 160 ล.'พิชญ์ โพธารามิก-พวก' ปั่นหุ้น JAS-MONO ขึ้นทะเบียนไม่น่าไว้ใจ 3 ปี
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage