ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับ 2 ผู้กระทำผิด กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น SVI สั่งปรับ 'พงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ' เป็นเงิน 37.6 ล้านบาท ห้ามเป็นกรรมการ-ผู้บริหารบจ. เป็นเวลา 12 เดือน
...............
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ (นายพงษ์ศักดิ์) และนางสาวนนทิยา พลวัฒน์ (นางสาวนนทิยา) กรณีร่วมกันซื้อหุ้นบริษัทเอส วี ไอ จำกัด (มหาชน) (SVI) โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายชำระเงินรวมจำนวน 38,330,254 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามบุคคลทั้ง 2 รายเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 นายพงษ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการบริษัท และกรรมการผู้จัดการของ SVI รู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ของ SVI ที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ และนายพงษ์ศักดิ์ได้ร่วมกับนางสาวนนทิยา ซื้อหุ้น SVI โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท Eagle Mount Asia Equities Limited จำนวนรวม 23,951,000 หุ้น ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคม 2561 ก่อนมีการเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 เวลา 19.27 น.
การกระทำของนายพงษ์ศักดิ์เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 5 พ.ศ. 2559 มาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ที่แก้ไขโดยฉบับที่ 5 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และการกระทำของนางสาวนนทิยาเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 242(1) แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ที่แก้ไขโดยฉบับที่ 5 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ที่แก้ไขโดยฉบับที่ 5 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายพงษ์ศักดิ์ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิด และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 37,638,583 บาท และนางสาวนนทิยา โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 691,671 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ โดยในส่วนของนายพงษ์ศักดิ์ เป็นเวลา 12 เดือน และนางสาวนนทิยา เป็นเวลา 8 เดือน
การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าที่ ค.ม.พ. กำหนดจนถึงอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด เป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
อ่านประกอบ :
ศาลฯสั่ง ‘ศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์’ จ่ายค่าปรับ 31.9 ล้าน อินไซด์ฯหุ้น ‘IFEC’
ก.ล.ต.ฟันก๊วนปั่นหุ้น ‘ACD’-ปรับ ‘จันทร์ทิพย์ วานิช’ 3.38 ล้าน อินไซด์ฯ ‘UVAN’
รื่นวดี สุวรรณมงคล : พลิกบท ‘ก.ล.ต.’ เป็นพนง.สอบสวน ‘ปั่นหุ้น’-สัญญาต้องเสร็จสมัยนี้
ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 3 ราย อินไซด์เดอร์ขายหุ้น 'ซิโน-ไทย'
ก.ล.ต.ปรับ 160 ล.'พิชญ์ โพธารามิก-พวก' ปั่นหุ้น JAS-MONO ขึ้นทะเบียนไม่น่าไว้ใจ 3 ปี
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage