มูลนิธิทันตแพทย์ฯขอ สปสช.แจงค่าเสียหาย ปมคลินิก 77 แห่งถูกกล่าวหาเอี่ยวทุจริตบัตรทอง

บัตรทอง 31082564 01

มูลนิธิทันตแพทย์เอกชนฯ ทำหนังสือถึง สปสช.อีกฉบับ ทวงถามขอรายละเอียดค่าเสียหาย หลังคลินิกทันตกรรม 77 แห่ง ถูกกล่าวหาเอี่ยวทุจริตเบิกจ่ายงบบัตรทอง ย้ำขอตั้งคณะทำงานเจรจาตกลงอย่างยุติธรรม

…………………………………..

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตรวจสอบทุจริตจากการเบิกจ่ายงบประมาณจากบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จากกองทุนบัตรทอง ที่พบว่าในปีงบประมาณ 2562 มีคลินิกทันตกรรม 77 แห่ง เบิกจ่ายเงินรายการทันตกรรมป้องกันโรค และคลินิกชุมชนอุบอุ่น 211 แห่ง เบิกจ่ายเงินรายการคัดกรองโรคกลุ่มเมตาบอลิก เข้าข่ายการทุจริต มูลค่าความเสียหาย 324 ล้านบาท และเมื่อคิดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด ทำให้มีภาพรวมความเสียหายแก่ สปสช. รวม 691 ล้านบาท

ต่อมา มูลนิธิทันตแพทย์เอกชน ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ถึง สปสช. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และขอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ตามที่สำนักข่าวอิสรา (www.isranews.org) นำเสนอไปก่อนหน้านี้

หยุดกล่าวหาเหมาเข่ง! มูลนิธิทันตแพทย์ฯโต้ปมทุจริต'บัตรทอง'ขอตั้งคณะทำงานร่วมสางคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 มูลนิธิทันตแพทย์เอกชน ประเทศไทย ทำหนังสืออีกฉบับส่งถึง นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรื่อง ขอทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตของคลินิกทันตกรรมที่ถูกกล่าวหา เพื่อสอบถามความคืบหน้า โดยระบุว่าหนึ่งว่า มูลนิธิฯ ในฐานะที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จากคลินิกทันตกรรมที่ถูกกล่าวหา และรับที่จะเข้ามาช่วยเหลือในส่วนที่สามารถช่วยได้ เห็นว่า คลินิกทันตกรรมทั้งหลาย 70 กว่าแห่งนั้น ได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวหาแบบเหวี่ยงแห โดยยังไม่ทราบรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง หรือ ทุจริต นั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งยังต้องรอผลการตรวจสอบตามหนังสืออ้างอิงดังกล่าว เพื่อเตรียมตัวสู้คดี โต้แย้ง หรือเตรียมการไปพบพนักงานสอบสวน ซึ่ง สปสช.ได้ดำเนินการแจ้งความทางอาญาไปแล้ว

ดังนั้น ผลการตรวจสอบของแต่ละคลินิก ที่ระบุ "รายละเอียดของการตรวจสอบข้อมูลทุจริตที่ สปสช.ตรวจพบ หลักฐานเชิงประจักษ์ของรูปคดี รายชื่อคนไข้ที่จักเป็นพยานบุคคลให้ทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งมูลค่าความเสียหาที่ สปสช.จะเรียกเก็บจากคลินิกแห่งนั้นๆ" มีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะอำนวยความยุติธรรม มีความโปร่งใส ตรงไปตรงมาแก่คู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบผลดังกล่าว

อีกทั้ง ผลการตรวจสอบที่ต้องแจ้งอย่างเป็นทางการให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ก็จะมีผลทำให้เจรจาตกลงอย่างยุติธรรมประสบความสำเร็จด้วยดี ดังที่มูลนิธิเคยเรียกร้องจาก สปสช.ก่อนหน้านี้

จึงขอให้ทาง สปสช.เร่งส่งผลการตรวจสอบรายละเอียดที่ระบุมาข้างต้นแก่มูลนิธิและแก่ทันตแพทย์เอกชนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหลายโดยด่วน ก่อนจะมีการเปิดเจรจา ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานมูลนิธิทันตแพทย์เอกชน ประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา สปสช.ได้ทำหนังสือตอบกลับมายังมูลนิธิฯ แล้วครั้งหนึ่ง โดยระบุว่า ตามหนังสือที่ได้มีการเสนอให้เจรจาสร้างความเข้าใจกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม สปสช.มีความยินดีอย่างยิ่งในการเจรจาค่าเสียหายในเรื่องดังกล่าวให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับสถานพยาบาลด้านทันตกรรมทุกแห่งให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยในส่วนของความเสียหายทางแพ่งหรือทางปกครอง เมื่อตกลงกันได้แล้วจะทำเป็นหนังสือยุติข้อพิพาทว่าจะไม่เรียกร้องหรือฟ้องคดีกันอีก โดยจะจัดส่งข้อเท็จจริง หลักฐานที่เกี่ยวข้องในส่วนนี้เพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป และขอเรียนว่าในส่วนของคดีอาญาที่ สปสช. ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้แล้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ไม่อาจก้าวล่วงในการพิจารณาของพนักงานสอบสวนได้

อย่างไรก็ตาม ทพ.ศุภผล กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่ได้รับหนังสือตอบกลับ เป็นเวลา 1 เดือนกว่า มูลนิธิฯ ยังไม่ได้รับหนังสือจาก สปสช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทำให้มูลนิธิฯ ตัดสินใจทำหนังสือแถลงการณ์อีกฉบับเพื่อทวงถามเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้หากได้รับหนังสือชี้แจงรายละเอียดแล้ว ก็คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาระหว่าง สปสช.กับคลินิกทันตกรรมที่ถูกกล่าวหาต่อไป

"การเจรจาจะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นได้ไม่ดี หากคุณยังไม่ส่งข้อมูลตรวจสอบที่บอกว่าเรียบร้อยแล้ว เพราะได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว แสดงว่าต้องเรียบร้อยแล้ว จึงสมควรที่จะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเชื่อว่าการเจรจาคงจะเกิดขึ้นไม่ดี" ทพ.ศุภผล กล่าว

310864Dental P 1