"...จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง พบว่า มีตำแหน่งเป็นประธานสมาคมดิจิทัลเพื่อสันติภาพ และยังเคยปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 67 คนของ คณะประสานงานระดับพื้นที่ ตามคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ 51/2562 เรื่องจัดตั้งคณะประสานงานระดับพื้นที่ ลงวันที่ 24 ม.ค.62 มี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นผู้ลงนาม ในช่วงเดือน ก.พ.62 ด้วย ..."
............................
ประเด็นตรวจสอบกระบวนการพิจารณาให้ทุนสนับสนุนการผลิตสื่อของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 300 ล้านบาท ที่ภาคประชาชนในนามเครือข่ายประชาชนเพื่อการปฏิรูปกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ยื่นเรื่องต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานหลายแห่งให้ตรวจสอบอยู่มีขณะนี้
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูล บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน 3 ล้านบาท ในการจัดทำโครงการเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงจังหวัดชายแดนใต้
พบว่า บริษัท จริยะวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 (ก่อนหน้าที่จะได้รับอนุมัติโครงการเพิ่งแค่ 4 เดือนเศษ) ทุน 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 7/8 หมู่ที่ 3 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
แจ้งประกอบธุรกิจการจัดทำซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และการจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามวัตถุประสงค์ของ
ปรากฎชื่อ นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และถือหุ้นใหญ่ ณ 5 พฤษภาคม 2563 นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง ถือหุ้นอยู่ 55% มูลค่า 1,100,000 บาท หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ฟาริด หัดยุมสา นาย อับดุลรอซะ ยะหริ่ง นาย อิสมาแอ มีซายะลง คนละ15% มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่คนละ 300,000 บาท
จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง พบว่า มีตำแหน่งเป็นประธานสมาคมดิจิทัลเพื่อสันติภาพ และยังเคยปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 67 คนของ คณะประสานงานระดับพื้นที่ ตามคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ 51/2562 เรื่องจัดตั้งคณะประสานงานระดับพื้นที่ ลงวันที่ 24 ม.ค.62 มี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นผู้ลงนาม ในช่วงเดือน ก.พ.62 ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย.2563 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง สมาคมดิจิทัลเพื่อสันติภาพ ตามที่อยู่เลขที่ 7/8 หมู่ที่ 3 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้ง ของ บริษัท จริยะวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์ นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง
เจ้าหน้าที่ สมาคมดิจิทัลเพื่อสันติภาพ แจ้งว่า บริษัทฯ ได้รับอนุมัติงบประมาณ จำนวน 3 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จริง แต่รายละเอียดต้องสอบถามนาย มะรูฟ แต่ตอนนี้ไม่อยู่ที่สมาคมฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สมาคมฯ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้สื่อข่าวไว้ด้วย พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อนายมะรูฟมา
แต่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ไม่สามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวได้
จึงทำให้ยังไม่ได้คำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัท จริยะวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และการเข้าไปเสนอโครงการต่อกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ทั้งที่ เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ มาได้แค่ 4 เดือนเศษเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 นายมะรูฟ เจะบือราเฮง ออกเเถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก Maruf Ibrahim กรณีสำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่า บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน 3 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในการจัดทำโครงการเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงจังหวัดชายแดนใต้ (1)
แถลงการณ์ดังกล่าว มีเนื้อหาโดยละเอียดดังนี้
จากกรณีที่สำนักข่าวอิศราได้รายงานข่าวว่า บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้รับการสนับสนุนการผลิตสื่อของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 300 ล้านบาท นั้น กระผม นายมะรูฟ เจะบือราเฮง ประธานกลุ่มดิจิทัลเพื่อสันติภาพ และประธาน บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ขอชี้เเจงรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ (Digital4Peace) เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งหวังที่จะนำ สื่อ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม มาขับเคลื่อนสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ อย่างต่อเนื่องมาตั้งเเต่ปี 2561 (https://web.facebook.com/digital4peace) ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ ได้ จดทะเบียนเป็น #บริษัท_จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม_จำกัด โดยมุ่งหวังที่จะแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งเป็นเเนวโน้ม (เทรนด์) ใหม่ขององค์กรพัฒนาสังคม เพื่อให้ตัวองค์กรเองและการเเก้ไขปัญหานั้นมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
2. บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 มีรายละเอียดทั้งที่ตั้งของบริษัทและชื่อผู้ถือหุ้น ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงาน “#จริง” เเต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมพัฒนาสังคมเลย ตามที่กล่าวไว้ในข้างต้น เราได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาเชิงประจักษ์และเป็นรูปธรรมในนาม ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ มาก่อนหน้าการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
3. ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพด้วยสื่อ ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ ได้ดำเนินหลายโครงการเพื่อลดข้อมูลเท็จและสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ Fighting Fake News Hackathon (แฮคกาธอนเพื่อศึกษาสถานการณ์ข่าวลวงในจังหวัดชายแดนภาคใต้) (2) (3) (4) ต่อมา ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ ได้เป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายองค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วม หรือ โคแฟค (CoFact - Collarobarive Fact Checking - https://cofact.org/) (5) (6) ร่วมกับภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา องค์กรสื่อ หลายองค์กรทั่วประเทศ เครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงจึงมีการเติบโตขยับขยายไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งในภาคใต้นั้น ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ ได้อาสาทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักของเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงภาคใต้ เหล่านี้จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการ #เครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เสนอขอทุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3 ล้านบาท
4. เงื่อนไขของการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนทุนประจำปี 2563 วงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระบุว่า ผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ต้องเป็น (ก) บุคคลธรรมดา (ข) นิติบุคคล (ค) องค์กรชุมชน (ง) องค์กรเอกชน (จ) องค์กรสาธารณะประโยชน์ บริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด #เป็นผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอโครงการตามข้อ (ข) นิติบุคคล ซึ่ง #อยู่ในเงื่อนไข ที่สามารถขอรับทุนได้ #มิได้ทำผิดเงื่อนไขใดใด (7)
5. ส่วนประเด็นที่สำนักข่าวอิศราระบุว่า นายมะรูฟ เจะบือราเฮง เป็น 1 ใน 67 คนของ คณะประสานงานระดับพื้นที่ ตามคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นั้น “#เป็นข้อเท็จจริง” ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ เชื่อว่า การที่จะลดความรุนแรงและสร้างสันติภาพในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ได้นั้น จำเป็นต้องทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สถาบันการศึกษา สื่อท้องถิ่น สถาบันทางศาสนา องค์กรภาคประชาสังคม หน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่น ฝ่ายความมั่นคง ไปจนถึงผู้เห็นต่างจากรัฐ การสร้างพื้นที่กลางที่สามารถแลกเปลี่ยน พูดคุย เสนอความคิดเห็นได้อย่างเสรีและปราศจากความรุนแรงเป็นสิ่งที่เราส่งเสริมเสมอมา ‘ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ’ เอง ได้มีข้อเสนอให้ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐพยายามลดการใช้การสื่อสารเชิงลบ และส่งเสริมให้มีการสื่อสารเชิงบวกและส่งเสริมให้มีการเเสดงความคิดเห็นอย่างเสรีบนโลกออนไลน์ (8)
6. โครงการ เครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงจังหวัดชายแดนภาคใต้ #ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใด กับคณะประสานงานระดับพื้นที่ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง และ #ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จากตำเเหน่งดังกล่าวในการยื่นเสนอทุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน เราเชื่อว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความเป็นกลางและด้วยพลังของพลเมืองด้วยกันเองจะเป็นการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
7. สำนักข่าวอิศราระบุว่า “ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย.2563 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง สมาคมดิจิทัลเพื่อสันติภาพ ตามที่อยู่เลขที่ 7/8 หมู่ที่ 3 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้ง ของ บริษัท จริยะวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์ นาย มะรูฟ เจะบือราเฮง” นั้น “#ไม่เป็นความจริง” ไม่มีผู้ใดจากสำนักข่าวอิศราติดต่อมายังที่อยู่ดังกล่าวเพื่อสัมภาษณ์
8. สำนักข่าวอิศราระบุว่า “...แต่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ไม่สามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวได้” นั้น ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่นายมะรูฟ เจะบือราเฮงกำลังเข้าร่วมและบรรยายอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (9) และขอยืนยันว่า “#ไม่มีสายโทรเข้าจากผู้ใด” และ “#ไม่มีสายที่ไม่ได้รับ” ในช่วงเวลาที่สำนักข่าวอิศราอ้างไว้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ #มีหลักฐานที่สามารถเเสดงได้ ต่อมา จากการพูดคุยกับนักข่าวสำนักข่าวอิศราในช่วงค่ำ ทางนักข่าวกล่าวว่าได้โทรมาจำนวน 1 ครั้ง และมีหลักฐานว่าได้โทรติดต่อมาด้วยเช่นกัน
9. เราเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีพัฒนาการมาจากองค์กรภาคประชาสังคมที่ส่งเสริมให้เกิดสันติภาพและสังคมประชาธิปไตย เราเชื่อมั่นว่าสื่อมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการทำหน้าที่ที่จะคอยช่วยตรวจสอบ ถ่วงดุล ตั้งคำถาม สร้างพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยน ถกเถียง กับทุกคนและทุกฝ่าย ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าคนนั้นเป็นใคร หรือเเม้กระทั่งตัวเราเอง ด้วยหลักการที่เราเชื่อมั่นนี้ เราขอสนับสนุนและขอเเสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สำนักข่าวอิศราทำหน้าที่นี้เป็นอย่างดี ด้วยหลักการที่เรายึดมั่นนี้ เราพร้อมเปิดรับให้ทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบเราได้อย่างเต็ม และ #ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบความจริงร่วมกัน
มะรูฟ เจะบือราเฮง
ประธานกลุ่มดิจิทัลเพื่อสันติภาพ
และ ประธานบริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
(29 / 9 / 2020)
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 นายมะรูฟให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา กล่าวว่าขอแสดงความเห็นสะท้อนจากข่าวที่นำเสนอ เห็นว่ามีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง อาทิ ข้อมูลที่ระบุว่าบริษัทจัดตั้งใหม่นั้น เป็นข้อเท็จจริง ตนไม่ปฏิเสธ
กรณีรายงานว่าปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 67 คนของ คณะประสานงานระดับพื้นที่ ก็เป็นข้อเท็จจริงเหมือนกัน
แต่การรายงานที่ระบุว่าบริษัทได้รับงบ 3 ล้านบาทโดยเน้นคำว่าตนเป็นหนึ่งในคณะประสานงานระดับพื้นที่นั้น ในมุมของตนเป็นการนำข้อเท็จจริงจากหลายๆ ที่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันมารวมไว้ที่เดียวกัน
“การเน้นคำตามคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เมื่ออ่านแล้ว อาจจะทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับว่าผมเกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. ว่าผมมีผลประโยชน์จากการขอทุน อันนี้ด้วยความที่ผมไม่ทราบว่าทางอิศราตั้งใจหรือไม่ แต่การตัดแปะข้อเท็จจริงที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาไว้ด้วยกัน อาจทำให้คนเข้าใจผิดได้ ถ้าคนค้นหาทางในอินเทอร์เน็ต ชื่อผมก็มีหลายตำแหน่งมาก การเลือกตำแหน่งนี้มาใส่ในบริบทนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ สามารถสอบถามผมได้เสมอ” นายมะรูฟระบุ
...........................................
** หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา : ภายหลังจากที่ สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอคำแถลงการณ์ของ มะรูฟ เจะบือราเฮง ประธานกลุ่มดิจิทัลเพื่อสันติภาพ และบทสัมภาษณ์นายมะรูฟ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้รับงบประมาณ จำนวน 3 ล้านบาท ของบริษัท จริยวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2563 ปรากฎว่ามีผู้ใช้ชื่อ Ang Binti Fuad โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอให้สำนักข่าวอิศรา แก้ไขข้อมูลในส่วนของการปกปิดหมายเลขโทรศัพท์ของตนและนายมะรูฟ ในเนื้อหารายงานชิ้นนี้ เพื่อมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
สำนักข่าวอิศรา ขอเรียนชี้แจงว่า เบอร์โทรศัพท์ ของ Ang Binti Fuad เป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่ปรากฎอยู่ในเพจ Digital4Peace ดิจิทัลเพื่อสันติภาพ https://www.facebook.com/digital4peace ที่เผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะอยู่แล้ว
ส่วนเบอร์โทรศัพท์มือถือของ มะรูฟ ก็ปรากฎอยู่ในฐานข้อมูลจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่เผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะอยู่แล้ว
ขณะที่ วัตถุประสงค์ที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว ในรายงานชิ้นนี้ เพื่อยืนยันต่อสาธารณะว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานายมะรูฟ เพื่อต้องการให้ชี้แจงข้อเท็จจริงจริงเท่านั้น
และเมื่อได้รับการติดต่อกลับจากนายมะรูฟ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ก็เปิดพื้นที่ให้นำเสนอข้อมูลอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของคำแถลงการณ์ รวมไปถึงบทสัมภาษณ์นายมะรูฟ ที่นายมะรูฟ ขอให้ลงข้อมูลประกอบเพื่อสะท้อนการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนเพิ่มเติมด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
ข่าวประกอบ :
ระบบเสนอโครงการ 300 ล.ติดขัด! กองทุนสื่อฯ ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงหวั่นกระทบความน่าเชื่อถือ
ขีดเส้น15 วัน! ภาคปชช.ขู่ไม่ทบทวนโครงการกองทุนสื่อฯยื่นศาลปค.ขอระงับเบิกจ่ายงบ 300 ล.
ใครเป็นใคร! เปิดครบ 95 โครงการ-ผู้รับงบ 300 ล.กองทุนสื่อฯ ก่อน ภาคปชช. ยื่น สตง.สอบ
ภาคปชช.ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯสตง.ตรวจสอบกองทุนพัฒนาสื่อฯ เบรกอนุมัติงบ 300 ล.เอื้อทุนใหญ่