“…ฐานข้อมูลด้านงบประมาณ และจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระบุว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2562 (ข้อมูลถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (เดิม) ใช้งบประมาณในยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง (รวมทุกกระทรวง) เบ็ดเสร็จ 4 ปี คิดเป็นเงินกว่า 9.88 แสนล้านบาท…”
“บัดนี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่ขั้นตอนของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ มีสภาผู้แทนราษฎรซึ่งสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากความเห็นชอบของรัฐสภา สิทธิเสรีภาพต่าง ๆ ได้รับหลักประกันคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญตามแบบอย่างนานาอารยประเทศ ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขตามกฎเกณฑ์ปกติในระบอบประชาธิปไตยโดยไม่มีอำนาจพิเศษใดๆ อีกต่อไป”
คือใจความสำคัญของสารที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) เนื่องจาก คสช. ต้องสิ้นสภาพไปเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณในเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.ค. 2562 อย่างไรก็ดีบรรดาคำสั่ง ประกาศของ คสช. ยังมีผลอยู่ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 บทเฉพาะกาล มาตรา 265 (อ่านประกอบ : คสช.สิ้นสภาพ 16 ก.ค.! ‘บิ๊กตู่’ไร้อำนาจพิเศษ ขอเคารพเสียงข้างมาก-อดกลั้นความเห็นต่าง)
ท่ามกลางความหวาดหวั่นของหลายฝ่าย เนื่องจากคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2558 ใจความสำคัญให้สามารถเรียกบุคคลเข้าปรับทัศนคติในค่ายทหารได้ ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ นอกจากนี้ยังมีการผ่องถ่ายโอนงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ ของ คสช. กลับสู่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
เบื้องต้นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ทุกวันนี้สามารถเชิญไปปรับทัศนคติได้อยู่ แต่ไม่มีอำนาจในการควบคุมตัว การคงอำนาจแบบนี้ไม่เป็นไร เพราะเป็นอำนาจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ดีกว่าเอะอะก็ประกาศกฎอัยการศึก
ด้าน พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง คสช. 3/2558 เพื่อถ่ายโอนอำนาจให้กับ กอ.รมน. ในการเรียกคนมาปรับทัศนคติอย่างแน่นอน เนื่องจากมี พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในการแก้ไขปัญหาด้วยการประกาศพื้นที่ความมั่นคงได้อยู่แล้ว ยืนยันจะไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแน่นอน
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ คงต้องรอให้การบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ดำเนินการไปสักระยะหนึ่งก่อน จึงจะรู้ได้ว่า กอ.รมน. ใช้อำนาจในส่วนนี้หรือไม่ ?
แต่หลายคนทราบกันหรือไม่ว่า ในช่วงระหว่างปี 2559-2562 (4 ปี) หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ใช้งบประมาณไปเท่าใดกันบ้าง ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีคำตอบ ดังนี้
ฐานข้อมูลด้านงบประมาณ และจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระบุว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2562 (ข้อมูลถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (เดิม) ใช้งบประมาณในยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง (รวมทุกกระทรวง) เบ็ดเสร็จ 4 ปี คิดเป็นเงินกว่า 9.88 แสนล้านบาท แบ่งเป็น
ปี 2559 วงเงิน 239,034 ล้านบาท (10.42% จากงบประมาณเต็ม 2.77 ล้านบาท) เบิกจ่ายไปแล้ว 214,116 ล้านบาท
ปี 2560 วงเงิน 156,193 ล้านบาท (5.34% จากงบประมาณเต็ม 2.92 ล้านบาท) เบิกจ่ายไปแล้ว 121,292 ล้านบาท
ปี 2561 วงเงิน 271,267 ล้านบาท (8.89% จากงบประมาณเต็ม 3 ล้านล้านบาท) เบิกจ่ายไปแล้ว 210,004 ล้านบาท
ปี 2562 วงเงิน 321,789 ล้านบาท (10.73% จากงบประมาณเต็ม 3 ล้านล้านบาท) เบิกจ่ายไปแล้ว 183,912 ล้านบาท
(ที่มา : ฐานข้อมูลงบประมาณ-พ.ร.บ.งบประมาณฯ, สำนักข่าวอิศรา รวบรวม)
คราวนี้เมื่อจำแนกมาเฉพาะงบรักษาความสงบภายใน (รวมส่วนงานตำรวจ ตุลาการ งานราชทัณฑ์ งานรักษาความสงบภายในอื่น และการวิจัยและพัฒนาการด้านการรักษาความสงบภายใน) ระหว่างปี 2559-2562 (ข้อมูลถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562) พบว่าใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 724,559 ล้านบาท แบ่งเป็น
ปี 2559 วงเงิน 175,077 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานตำรวจ 106,899 ล้านบาท
ปี 2560 วงเงิน 172,583 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานตำรวจ 107,557 ล้านบาท
ปี 2561 วงเงิน 185,678 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานตำรวจ 118,230 ล้านบาท
ปี 2562 วงเงิน 191,221 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานตำรวจ 121,944 ล้านบาท
ต่อมาเป็นงบการป้องกันประเทศ (รวมส่วนงานกองทัพ การรักษาดินแดน และการวิจัยประยุกต์และการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์) ระหว่างปี 2559-2562 (ข้อมูลถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562) พบว่าใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 857,579 ล้านบาท แบ่งเป็น
ปี 2559 วงเงิน 205,376 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานกองทัพ 200,567 ล้านบาท
ปี 2560 วงเงิน 211,126 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานกองทัพ 208,280 ล้านบาท
ปี 2561 วงเงิน 217,312 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานกองทัพ 214,591 ล้านบาท
ปี 2562 วงเงิน 223,765 ล้านบาท โดยเป็นส่วนงานกองทัพ 221,115 ล้านบาท
(ที่มา : ฐานข้อมูลงบประมาณ-พ.ร.บ.งบประมาณฯ, สำนักข่าวอิศรา รวบรวม)
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า ระหว่างปี 2559-2562 (ข้อมูลถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2562) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (เดิม) ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้นกว่า 3.1 ล้านล้านบาท โดยมีอย่างน้อย 14 หน่วยงานติด ‘Top 10’ การใช้งบจัดซื้อจัดจ้างเยอะที่สุด และกองทัพบกคือหนึ่งในหน่วยงานที่ติด ‘Top 10’ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้น 101,584 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้ไปกับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ (อ่านประกอบ : เจาะละเอียด! 4 ปี ‘รบ.บิ๊กตู่’ ใช้งบจัดจ้าง 3 ล.ล้าน หน่วยใดเยอะสุด? ก่อนมี ครม.ใหม่)
นี่เป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ (เดิม) ตลอด 4 ปีหลังสุด (2559-2562) รอดูว่าหลังหมดอำนาจพิเศษ ไร้ดาบอาญาสิทธิ์ (ม.44) แล้ว งบประมาณด้านนี้จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ : โชว์งบแสนล.กระทรวงเกษตรฯ-4 พรรคนั่ง รมต.วัดฝีมือแก้ปัญหาราคาตกต่ำ?