อีกกรณีศึกษา! เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาคดี ‘สุธน ชาญสมร’ ผู้สมัคร ส.ส. จ.พิษณุโลกถือหุ้นบ.เพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น แจ้งประกอบกิจการผลิตจัดทํารายการทางวิทยุโทรทัศน์ วางแผนโฆษณา วินิจฉัยมิได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์สื่อมวลชนไม่มีเหตุถอนชื่อเป็นผู้สมัครฯสั่งยกคำร้อง กกต.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งยกคำร้อง ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก คดี นายสุธน ชาญสมร ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก ถือหุ้นในบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการผลิตรายการ จัดทํารายการทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนบริการติดตามรวบรวมข้อมูลข่าวสาร สาระ บทความทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออื่น ๆ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
ศาลวินิจฉัย จากการไต่สวน บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ประกอบธุรกิจออร์กาไนเซอร์ รับจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ จึงเป็นงานจ้างทําของ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มิได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ จึงไม่ทําให้ผู้คัดค้านเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ จึงไม่มีเหตุให้ผู้ร้องยื่นคําร้องขอถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก มีรายละเอียดดังนี้
ความคดีเลือกตั้ง
ระหว่าง ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก ผู้ร้อง
นายสุธน ชาญสมร ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ขอให้ถอนชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง)
ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า หลังประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก แล้ว ผู้ร้องตรวจสอบพบว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการผลิตรายการ จัดทํารายการทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนบริการติดตาม รวบรวมข้อมูลข่าวสาร สาระ บทความทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออื่น ๆ และยังดําเนินกิจการอยู่ ประกอบกับตามแบบนําส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช. 3) ระบุรายการงบการเงินรอบปีบัญชีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประเภทธุรกิจ “ประกอบกิจการด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อโฆษณาทุกประเภท” คิดเป็นร้อยละของรายได้รวม 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้คัดค้านจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ขอให้ถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก
ผู้คัดค้านยื่นคําคัดค้านว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ที่ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นอยู่นั้น ไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ เนื่องจากไม่มีโรงพิมพ์ แท่นพิมพ์ กระดาษพิมพ์ และไม่มีนักข่าว ผู้ประกาศข่าว หรือสมาชิกชมรมสื่อสารมวลชนใด ๆ ทั้งสิ้น หรือมีกิจการโดยตรงหรือโดยอ้อมที่จะเข้าข่ายกิจการหนังสือพิมพ์ เหตุที่รายการงบการเงินของบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ระบุว่า ประกอบกิจการด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อโฆษณาทุกประเภท คิดเป็นร้อยละของรายได้รวม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ประกอบกิจการออร์กาไนเซอร์ รับจัดงานอีเวนต์ จัดประชุม งานเลี้ยง งานปาร์ตี้สังสรรค์ ออกแบบบูทแสดงสินค้าต่าง ๆ งานนิทรรศการ รับจัดงานตลาดนัด เพื่อแสวงหาประโยชน์และกําไร ไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะ บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด จึงไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือ สื่อมวลชนใด ๆ อันจะทําให้ผู้คัดค้านเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ยกคําร้อง
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสํานวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้น รับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 ผู้ร้องประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคคลองไทย หมายเลขประจําตัวผู้สมัคร 13 ผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด จํานวน 1,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท และปัจจุบันบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ยังดําเนินกิจการอยู่
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ผู้ร้องอ้างว่าบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด มีวัตถุประสงค์ตามหนังสือรับรองนิติบุคคล ข้อ 23 ว่า ประกอบกิจการผลิตรายการ จัดทํารายการทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนบริการติดตามรวบรวมข้อมูลข่าวสาร สาระ บทความทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออื่น ๆ ข้อ 24 ประกอบธุรกิจบริการวางแผนงานโฆษณา รับจ้างเป็นผู้สร้างและจัดละคร จัดหาสื่อโฆษณา จัดหาของชําร่วยและรางวัลต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ จัดอบรมสัมมนาทั่วไป จัดแสดงนิทรรศการ ๆ ข้อ 25 ประกอบกิจการ รับจ้างให้บริการด้านประชาสัมพันธ์ ผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อสิ่งพิมพ์ชนิดต่าง ๆ เช่น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ แผ่นป้ายโฆษณา แผ่นใบปลิว และอื่น ๆ รวมทั้งให้เช่าอุปกรณ์ไฟ อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการถ่ายทําละครและภาพยนตร์ และตามแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท (แบบ สสช. 1) ระบุสินค้า/บริการที่ประกอบการว่า ประกอบกิจการผลิตรายการ จัดทํารายการทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนบริการติดตาม รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ประกอบธุรกิจบริการวางแผนงานโฆษณา รับจ้างเป็นผู้สร้างและจัดละคร จัดหาสื่อโฆษณา ส่วนผู้คัดค้านอ้างว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด เดิมใช้ชื่อว่า บริษัท เพาเวอร์พลัส 2007 ออร์แกนไนเซอร์ จํากัด ประกอบธุรกิจออร์กาไนเซอร์รับจัดงานต่าง ๆ ไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ตามหนังสือรับรองและรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ของนิติบุคคลเอกสารท้ายคําคัดค้าน หมายเลข 7 ถึง 9
นอกจากนี้ผู้คัดค้านนํานางพันธุ์ทิพา ขวัญทองอินทร์ กรรมการผู้มีอํานาจลงนามผูกพันบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด เป็นพยานไต่สวนได้ความว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ประกอบธุรกิจด้านรับจัดงานออร์กาไนเซอร์ รับจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ เช่น รับจัดงานแสดงสินค้า รับจัดการประชุม โดยสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทมี แอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊กและเว็บไซต์
เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 บัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ... (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) บัญญัติเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึง เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ มิได้ เพื่อป้องกันมิให้อาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษแก่บุคคลใดเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง และใช้อํานาจครอบงําสื่อมวลชน อันจะทําให้สื่อมวลชนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นอิสระและเป็นกลาง ซึ่งในขณะที่มีการเลือกตั้ง ย่อมหมายถึงการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในแก่ตนและพรรคการเมืองที่ตนสังกัด หรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่น
เมื่อทางไต่สวนได้ความว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ประกอบธุรกิจออร์กาไนเซอร์ รับจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ จึงเป็นงานจ้างทําของ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587 ซึ่งบัญญัติว่า “อันว่าจ้างทําของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทําการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสําเร็จให้แก่ บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสําเร็จแห่งการที่ทํานั้น” ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงต้องจัดงานอิเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นกิจการรับจ้างให้บริการด้านการจัดการ การจัดเตรียมงาน ตามวัตถุประสงค์ของผู้ว่าจ้าง และให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ว่าจ้างตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ต้องทํางาน ณ สถานที่ที่ผู้ว่าจ้างกําหนด และมีค่าจ้างเพื่อผลสําเร็จของงานจากผู้ว่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านความบันเทิง กิจกรรมด้านการตลาดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เช่น ให้บริการจัดการ จัดเตรียมงานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 14 ปี 2565 งานสัมมนา “ยุคทองแห่งงานแสดงสินค้าภูมิภาค รู้ก่อน รุกก่อน” งานอาหารการกิน จากวัฒนธรรมพื้นถิ่นสู่สากล งานถักทอวัฒนธรรมนําสมัยเพื่อผ้าไทยสู่สากล งานมหกรรมสุขภาพดี 38 ปี โรงพยาบาลพิษณุเวช พิธีเปิดบริษัทเครื่องกรองน้ํา พิธีเปิดกิจการ OoWedding Studio เป็นต้น ตามเอกสารท้ายคําคัดค้าน หมายเลข 12
แม้ตามแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท (แบบ สสช. 1) ระบุว่า บริษัท เพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด ประกอบกิจการผลิตรายการ จัดทํารายการทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนบริการติดตาม รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ประกอบธุรกิจบริการวางแผนงานโฆษณา รับจ้างเป็นผู้สร้างและจัดละคร จัดหาสื่อโฆษณา และแบบนําส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช. 3) ระบุรายการงบการเงินรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประเภทธุรกิจ “ประกอบกิจการด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อโฆษณาทุกประเภท” คิดเป็นร้อยละของรายได้รวม 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม แต่หมายเหตุประกอบงบการเงินและงบกําไรขาดทุนสําหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เอกสารท้ายคําคัดค้าน หมายเลข 10 และหมายเลข 11 ระบุว่า มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ ปี 2563 กําไร 422,646.54 บาท ปี 2564 กําไร 356,720.19 บาท และปรากฏตามคําคัดค้านว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด มีรายได้ทั้งหมดจากกิจการรับจ้างเป็นออร์กาไนเซอร์รับจัดงานอีเวนต์ ไม่ได้มีรายได้จากการประกอบกิจการโฆษณา
โดยผู้ร้องแถลงไม่ติดใจนําพยานเข้าไต่สวน ดังนั้น ลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด จึงแตกต่างจากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ที่มีลักษณะเป็นสื่อกลางในการนําสารไปสู่มวลชนโดยไม่ได้กําหนดเป้าหมายไว้ชัดเจน เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือสื่อความหมายให้ประชาชนทราบโดยทั่วไป
ส่วนที่บริษัท เพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด มีการใช้แอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ เห็นได้ว่าเป็นการใช้สื่อออนไลน์เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์กิจการของตน ซึ่งบุคคลธรรมดาทั่วไปก็มีและใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด มิได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ การที่ผู้คัดค้านถือหุ้นใน บริษัทเพาเวอร์พลัส ครีเอชั่น จํากัด จึงไม่ทําให้ผู้คัดค้านเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ กรณีจึงไม่มีเหตุให้ผู้ร้องยื่นคําร้องขอถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก
จึงมีคําสั่งให้ยกคําร้อง (คดีหมายเลขดําที่ ลต สสข 24/2566 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สสข 36/2566)
คดีความเลือกตั้งรายอื่น
- ไม่ไปเลือกตั้งซ่อม สท.! ศาลฎีกา ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.จ.อุบลฯ พรรค รทสช.
- กรณีศึกษา : ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อสมัคร ส.ส. เพราะไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.
- มีประวัติถูกปลดพ้นนายก อบต.! ศาลฎีกายกคำร้องผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคชาติไทยพัฒนา
- รายนี้ไม่ไปเลือกตั้งครั้งล่าสุด! คำพิพากษาศาลฎีกา ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี
- เปิดคำพิพากษา 2 ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ โดนตัดสิทธิ์เหตุไม่มีสาขาพรรคประจำจังหวัด
- ไม่ไปเลือกตั้งซ่อม สท.! ศาลฎีกา ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.จ.อุบลฯ พรรค รทสช.
- กรณีศึกษา : ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อสมัคร ส.ส. เพราะไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.
- โดนปลดพ้นนายกเทศฯ คดีอยู่ระหว่าง‘ทุเลา’คำสั่ง! ศาลฎีกาคืนสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส. ภูมิใจไทย
- ถือน้อยไม่มีอำนาจสั่งการ!คำพิพากษาศาลฎีกาคืนสิทธิ์สมัคร ส.ส. 'ชาญชัย'ปม AIS 200 หุ้น
- มีประวัติถูกปลดพ้นนายก อบต.! ศาลฎีกายกคำร้องผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคชาติไทยพัฒนา
- มีประวัติถูกพิพากษาลักทรัพย์! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา
- คดีแรก! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.อุดรฯ ถือหุ้นสื่อ
- เคยต้องคำพิพากษาคดีค้ายาเสพติด! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเส้นด้าย
- ไม่ไปเลือกตั้งซ่อม ส.ท.เมืองตาก! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก
- เป็นบุคคลล้มละลาย! คำพิพากษาศาลฎีกาถอนชื่อผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ลำดับ 21 พรรคชาติพัฒนากล้า
- ถือหุ้นสื่อ แต่ไม่ยื่นต่ออายุใบอนุญาต! ศาลฎีกาไม่ถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส. อุดรฯ