คำพิพากษาศาลฎีกาสั่ง กกต.รับสมัคร ‘คณนาถ หมื่นหนู’ เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภฺมิใจไทย หลังผู้ว่าฯพัทลุงปลดพ้นตำแหน่ง กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย กับพวก 7 คนทุจริตจัดซื้อที่ดินสร้างตลาดน้ำ เจ้าตัวฟ้องศาลปกครองพร้อมยื่นคำขอให้ทุเลาการบังคับคำสั่งชั่วคราว วินิจฉัยถือว่ายังไม่เคยถูกให้พ้นตำแหน่ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงาน เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2566 ศาลฎีกามีคำสั่ง คดีหมายเลขแดงที่ ลต สสร 28/2566 ความคดีเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้คัดค้าน รับสมัครนายคณนาถ หมื่นหนู ผู้ร้อง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 44 ของพรรคภูมิใจไทย หลังจากนายคณนาถ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อของพรรคภูมิใจไทย แต่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรโดยอ้างว่า นายคณนาถ ผู้ร้องเคยถูกคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ลงวันที่ 4 มกราคม 2565 เรื่อง ให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อยเนื่องจากทุจริตจัดซื้อที่ดิน เพื่อก่อสร้างตลาดน้ำของเทศบาลตำบลทะเลน้อย
@ คณนาถ หมื่นหนู
ต่อมาผู้ร้องฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลาขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และขอให้ทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุง
ล่าสุดศาลปกครองสงขลามีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีถือได้ว่าผู้ร้องยังไม่เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ ผู้ร้องจึงไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (8) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (10) รายละเอียดดังนี้
ความคดีเลือกตั้ง
ระหว่าง นายคณนาถ หมื่นหนู ผู้ร้อง
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ (สิทธิสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ)
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อของพรรคภูมิใจไทย แต่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรโดยอ้างว่า ผู้ร้องเคยถูกคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ลงวันที่ 4 มกราคม 2565 เรื่อง ให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อยเนื่องจากทุจริตจัดซื้อที่ดิน เพื่อก่อสร้างตลาดน้ำของเทศบาลตำบลทะเลน้อย ต่อมาผู้ร้องฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลาขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และขอให้ทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ศาลปกครองสงขลามีคำสั่งไม่รับคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว หลังจากผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองสงขลามีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 อีกครั้งหนึ่ง ศาลปกครองสงขลามีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านเพิ่มชื่อผู้ร้องในรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 44 ของพรรคภูมิใจไทย
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ก่อนประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ผู้คัดค้านดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ปรากฎว่าผู้ร้องเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (8) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (10) เนื่องจากผู้ร้องเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย กรณีทุจริตจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างตลาดน้ำ
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ่ายที่เสนอต่อศาลในวันนัดพร้อมแล้ว เห็นว่าคดีไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐาน จึงให้งดการไต่สวน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
@ครั้งนายกเทศฯตลาดน้อย โดนป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตจัดซื้อที่ดินสร้างตลาด
ข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้อง เอกสารประกอบคำร้อง คำคัดค้าน และเอกสารประกอบคำคัดค้านว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ประธานกรรมการ ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กรณีได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียนผู้ร้องว่า ขณะที่ผู้ร้องดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย ผู้ร้องกับพวกรวม 7 คน กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการทุจริตจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างตลาดน้ำของเทศบาลตำบลทะเลน้อยซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้และมีราคาแพงกว่าความเป็นจริงในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ร้องมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 91, 151, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 73 จึงส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจแก่ผู้ร้องตามความผิดดังกล่าวตามหนังสือเรื่อง ขอให้ดำเนินการและอำนาจ เอกสารหมาย ร.5 แผ่นที่ 12 และ 13 วันที่ 5 มกราคม 2565 ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงพิจารณาแล้ว อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 73/1 มีคำสั่งให้ผู้ร้องพันจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย ตามคำสั่งจังหวัดพัทลุง ที่ 001/2565 เอกสารหมาย ร.5 แผ่นที่ 5 ถึง 7
@ยื่นฟ้องศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งผู้ว่าฯพัทลุง
วันที่ 18 เมษายน 2565 ผู้ร้องฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลาขอให้เพิกถอนคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ตามสำเนาคำฟ้อง เอกสารหมาย ร.6 แผ่นที่ 3 ถึง 22 ต่อมาวันที่ 18 เมษายน 2566 ผู้ร้องยื่นคำขอให้ทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 วันที่ 20 เมษายน 2566 ศาลปกครองสงขลาวินิจฉัยว่า คำสั่งทางปกครองที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการให้คำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น เห็นว่า คำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ให้ผู้ร้องพันจากตำแหน่งเพราะเหตุกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ย่อมมีผลตราบเท่าที่ยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผลลงโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ข้อ 69 กำหนดว่า การฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองนั้น เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และข้อ 72 วรรคสาม กำหนดให้ศาลปกครองมีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองได้ตามที่เห็นสมควร
ดังนั้น คำสั่งทุเลาการบังคับของศาลปกครองสงขลาย่อมมีผลเป็นการชะลอหรือระงับการบังคับคำสั่งจังหวัดพัทลุงที่ 001/2565 ที่ให้ผู้ร้องพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อยไว้เป็นการชั่วคราว กรณีถือได้ว่าผู้ร้องยังไม่เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ ผู้ร้องจึงไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (8) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (10)
จึงมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับสมัครนายคณนาถ หมื่นหนู ผู้ร้อง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 44 ของพรรคภูมิใจไทย.
คดีเลือกตั้งอื่น
- มีประวัติถูกปลดพ้นนายก อบต.! ศาลฎีกายกคำร้องผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคชาติไทยพัฒนา
- ถือน้อยไม่มีอำนาจสั่งการ!คำพิพากษาศาลฎีกาคืนสิทธิ์สมัคร ส.ส. 'ชาญชัย'ปม AIS 200 หุ้น