"งบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ ส.ส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง-ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่กลับนำไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดข้างต้นที่กลุ่มการเมืองต้องการ โดยกลุ่มการเมืองไปติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้นำงบประมาณไปก่อสร้างตามโรงเรียนที่กำหนด โดยกำหนดให้ดำเนินการตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประกวดราคา การกำหนดราคากลาง รวมทั้งร่างบันทึกการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) เป็นต้นทั้งนี้เพื่อต้องการให้บริษัทห้างร้านของกลุ่มการเมืองดังกล่าวเป็นผู้ได้รับงาน.."
วันนี้องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาสำนวนแล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้อง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 (วิ.อม.) บัญญัติไว้ว่าหากศาลประทับฟ้องแล้วให้จำเลยยุติปฏิบัติหน้าที่เว้นแต่ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ฉะนั้นจำเลยที่มีตำแหน่งหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล โดยศาลนัดพิจารณาคดีนัดแรกวันที่ 20 ธ.ค.(สอบคำให้การ) เวลา 9.00 น.
คือ ความคืบหน้าล่าสุด คดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียน ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สมัยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันกับพวก รวม 87 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ.2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย
แต่ปรากฏว่าการสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานได้ และส่งสำนวนการไต่สวนให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องคดีตามขั้นตอนทางกฏหมาย ตั้งแต่ช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งการรับฟ้องคดีดังกล่าว ส่งผลให้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา (ภรรยา นายวิรัช) และ นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา (น้องสาวนางทัศนียา) ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ย้อนไล่เรียงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดีนี้ทั้งหมดมานำเสนอแบบชัด ๆ อีกครั้ง
@ ข้อมูลในส่วนการตรวจสอบของ สำนักข่าวอิศรา
คดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียน เป็นอีกหนึ่งกรณีที่สำนักข่าวอิศรา ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอตั้งแต่ต้น และต่อเนื่อง ปรากฏรายละเอียดดังนี้
พฤติการณ์
ความเป็นมาของโครงการก่อสร้างสนามสนามฟุตซอล เกิดจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในยุค รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 กว่า 600 ล้านบาท ให้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ รวม 17 จังหวัด
โดยงบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ ส.ส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง-ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่กลับนำไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดข้างต้นที่กลุ่มการเมืองต้องการ โดยกลุ่มการเมืองไปติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้นำงบประมาณไปก่อสร้างตามโรงเรียนที่กำหนด โดยกำหนดให้ดำเนินการตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประกวดราคา การกำหนดราคากลาง รวมทั้งร่างบันทึกการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) เป็นต้นทั้งนี้เพื่อต้องการให้บริษัทห้างร้านของกลุ่มการเมืองดังกล่าวเป็นผู้ได้รับงาน
ลักษณะของทุจริต
1.มีการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน โดยพื้นคอนกรีตไม่ถูกต้องตามคุณลักษณะเฉพาะ นำวัสดุแผ่นยางสังเคราะห์สำหรับสนามในร่มมาใช้ในสนามกลางแจ้งทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่มีความทนทาน เป็นการใช้วัสดุผิดประเภท เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้าง
2.ราคาแพงเกินจริง
3.ผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นพื้นที่ของนักการเมือง และ นักการเมืองเป็นผู้รับเหมา
จังหวัดมีการก่อสร้างสนามฟุตซอลในภาคอีสาน 9 จังหวัด ได้แก่ จ. ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร นครราชสีมา สกลนคร สุรินทร์ ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และ ภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พะเยา เพชรบูรณ์ น่าน ตาก และ เชียงใหม่
ผู้รับเหมาที่ปรากฎชื่อเข้ามารับงาน จำแนกเป็น 2 กลุ่มหลัก
หนึ่ง กลุ่มอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้แก่ บริษัท ลีกาฟุตซอล จำกัด บริษัท ออคตากอน มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท อินแทรค แอนด์ โค จำกัด ของ เป็นผู้รับเหมาอย่างน้อย 28 แห่ง
สอง กลุ่มเกี่ยวข้องกับเครือญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโยลี จำกัด บริษัท วอเตอร์ฮีล แลนด์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด จีโอโอดี จำกัด บริษัท แกรนด์สยาม 98 จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส บริษัท วายอีอี จำกัด บริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด และ บริษัท วายเอเอ็ม บิสซิเนส จำกัด
ที่เหลือเป็นกลุ่มย่อยซึ่งบางแห่งเกี่ยวพันกับเครือญาติ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 4 คน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช 23 ม.ค.55-27 ต.ค.55
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา 1 พ.ย.55-30 มิ.ย.56
นายจาตุรนต์ ฉายแสง 30 มิ.ย.56-22 พ.ค.57
รัฐมนตรีช่วยฯ 4 คน ได้แก่
นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นางบุญรื่น ศรีธเรศ 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช 1 พ.ย.55-22 พ.ค.57
นายศักดา คงเพชร 23 ม.ค.55- 27 ต.ค.55
ในส่วนของเจ้าหน้าที่มีข้าราชการครูเกี่ยวข้องกว่า 800 คน รวมถึง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางรายปรากฎชื่อเป็นคณะกรรมการตรวจสอบงานก่อสร้างหลายโรงเรียน
ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีนี้ ได้แก่ นายชินภัทร ภูมิรัตน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ส่วนการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ตรวจสอบหลักทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อมา ป.ป.ท.ได้ส่งเรื่อง ให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ตรวจสอบ โดย ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเมื่อ 25 พ.ย.57 ที่ผ่านมา
กรณีตัวอย่าง จ.นครราชสีมา
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลและหลักฐานสำคัญ ว่า การรับเหมาก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนใน จ.นครราชสีมา นั้นมีผู้รับเหมาอย่างน้อย 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างน้อย 4 แห่ง รวมวงเงิน 19,986,000 บาท
บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด มี อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จดทะเบียนก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ ได้โอนหุ้นให้คนใกล้ชิดต่อ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 เมษายน 2544 ทุนเพิ่มแรก 1 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างและค้าอุปกรณ์การเล่นกีฬา เครื่องสนามกีฬา,สนามเด็กเล่นรวมทั้งลู่วิ่งเครื่องออกกำลังกายต่างๆ ทุกชนิด
ที่ตั้งเลขที่ 5/195 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ณ วันที่ 4 ก.ค.55 - 18 ส.ค.57 มี น.ส.สุธาดา เรืองพูน ถือหุ้นใหญ่ 36,000 หุ้น น.ส.กนกพันธุ์ คัมภิรานนท์ น.ส.วัชชา จงเทียมเท่า น.ส.จุฑาทิพย์ ภิรมย์ คนละ 500 หุ้น น.ส.ชฎานันท์ สุขเอม 7,500 หุ้น และ นายสุทธิพงษ์ ศิริบุญ 5,000 หุ้น รวม 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.สุธาดา เรืองพูน เป็นกรรมการ
ขณะที่ น.ส.สุธาดา เรืองพูน ผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด แจ้งที่อยู่เลขที่ 5/195 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ และเป็นที่อยู่เดียวกับ สำนักงานของ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ตามที่จดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
โดย “ที่ตั้ง”เลขที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งเลขที่เดียวกับ “ที่อยู่”ของ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ตามที่ระบุในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ครั้ง ครั้งแรก กรณีรับตำแหน่ง ส.ส.ชัยภูมิ เมื่อ 22 ม.ค.51 ครั้งที่สอง กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 10 พ.ค.54 และครั้งที่สาม กรณีรับตำแหน่ง ส.ส. 2 ส.ค.54
จากการตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลที่ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด เป็นผู้รับเหมา ได้แก่
1.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนบ้านปางแก(สภาประชานุกุล) ตำบลเทศบาลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,999,500 บาท
2.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนเติมแสงไขปากช่อง ต.เทศบาลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,999,500 บาท
3.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนบ้านป่าไผ่ ตงจันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน4,999,500 บาท
4.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ โรงเรียนศรีเจริญศึกษา อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ วงเงิน 4,987,500 บาท
3 โครงการแรก ทำสัญญาวันที่ 22 ส.ค. 55 ส่วนโครงการที่ 4 ทำสัญญาวันที่ 9 ส.ค. 55
@โยงกลุ่มอดีต ส.ส.-กลุ่มยี
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท วายอีอี จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสนามฟุตซอลในจ.นคราชสีมาอย่างน้อย 10 แห่ง วงเงินรวม 24,995,000 บาท และ หจก. เอ็มเอไอเอ็นเตอร์ไพร์ส 5 แห่ง 22,497,500 บาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส จดทะเบียนวันที่ 8 สิงหาคม 2550 ทุน 444,444 บาท ที่ตั้งเลขที่ 52 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร มีหุ้นส่วน 2 รายคือ
1.นายยี พณิชยา อยู่บ้านเลขที่ 123/18 ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ลงหุ้นด้วยเงิน 222,222 บาท
2.นายพิทูร มหานีรานนท์ อยู่บ้านเลขที่ 242/55 หมู่ที่ 9 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ลงหุ้นด้วยเงิน 222,222 บาท
บริษัท วายอีอี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ทุน 1 ล้านบาท (ต่อมา 20 มี.ค.55 เพิ่มทุนเป็น 5 ล้านบาท) ประกอบธุรกิจ ขายส่งและขายปลีกอุปกรณ์การเล่นกีฬา เครื่องสนามกีฬา สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกาย รวมทั้งลู่วิ่ง ที่ตั้งเลขที่ 77/242 หมู่ที่ 6 หมู่บ้านฟ้าปิยรมย์ เฟส 5 ถนนพหลโยธิน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ( 10 เม.ย.57 ย้ายสำนักงานเลขที่ 44 หมู่ที่ 6 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี) มีหุ้นส่วน 3 รายคือ
1. นายยี พณิชยา อยู่บ้านเลขที่ 128/2 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนจรัญสนิมวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 8,000 หุ้น
2.นางสุเพ็ญ เอี่ยมอภิชาติ อยู่บ้านเลขที่ 123/48 หมู่ที่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 1,000 1,000 หุ้น
3.นายชลอ ต่ายชาวนา อยู่บ้านเลขที่ 77/242 หมู่ที่ 6 หมู่บ้านฟ้าปิยรมย์ เฟส 5 ถนนพหลโยธิน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี (เลขที่เดียวกับที่ตั้งสำนักงาน)
นายยี เป็นผู้เริ่มก่อการ กรรมการผู้ขอจดทะเบียน
ทั้งสองแห่ง มี น.ส.ธัญญา พลเสน เป็น “ผู้รับมอบอำนาจ”จากนายยี ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและกรรมการบริษัทฯ ในการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน และจัดตั้งบริษัท ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพฯ (ดูเอกสาร) น.ส.ธัญญา ยังมีชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท วายอีอี อีกด้วย
และยังพบว่า ในการจดทะเบียนเพิ่มทุน บริษัท วายอีอี จำกัด จาก 1 ล้านบาทเป็น 5 ล้านบาท เมื่อ 20 มี.ค.55 นายเกรียงไกร พลเสน เป็น “ผู้รับมอบอำนาจ”จากนายยี ในการยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพฯ
ขณะที่ จากการตรวจสอบพบว่า “ผู้รับมอบอำนาจ”ทั้ง 2 คน มีชื่อ เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโยลี จำกัด ของ ญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในการยื่นจดทะเบียนเพิ่มทุน ของบริษัทดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย รายนี้ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท พี.อาร์.เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.สุธาดา เรืองพูน ด้วย
และ บริษัท วายอีอี จำกัด ยังใช้โทรศัพท์หมายเลข 02-54300…ซึ่งเป็นเลขหมายเดียวกับ บริษัท พี.อาร์.เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน
@ ข้อมูลในส่วนการตรวจสอบของ สำนักงาน ป.ป.ช.
ต่อมาในช่วงปี 2562 ป.ป.ช. ได้เปิดแถลงข่าวชี้มูลความผิด นายวิรัช รัตนเศรษฐ และพวกจำนวนรวม 87 ราย เป็นทางการ
สำนวนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. ระบุว่า กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 โดยเป็นงบแปรญัตติ ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างงานปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ (สนามฟุตซอล) มีลักษณะมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ และการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามรูปแบบรายการและวิธีการก่อสร้าง สนามกีฬาไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
ยันเป็นการทุจริตเชิงนโยบายตั้งแต่ตอนแปรญัตติ 4.4 พันล. 18 จว.-วางแผนเอื้อ ปย.พรรคพวก
หลังจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมีนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งการไต่สวนข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน
ปรากฏข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนร่วมดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ โดยทุจริต ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่น รวมจำนวน 18 จังหวัด วงเงินประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก หนึ่งในนั้นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงตรงตามวัตถุประสงค์
โดยในช่วงที่มีการจัดทำงบประมาณปีงบประมาณ 2555 นายวิรัช รัตนเศรษฐ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้น และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลงขณะนั้น (ปัจจุบันเป็น ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ) ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ได้สั่งการให้พวกของตน เข้าไปประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 เพื่อจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลให้ โดยเข้าไปครอบงำ บงการการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินดังกล่าวโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168 ซึ่งบัญญัติว่า “...ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือของคณะกรรมาธิการ การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้...”
เบื้องหลัง! อดีตเลขาฯ สพฐ.ทำคำของบเพิ่มเติม 7 พันล.เปิดช่องอนุมัติงบให้ ‘วิรัช’
ในขั้นตอนการจัดทำงบประมาณ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำคำขอเพิ่มเติมงบประมาณในรายการที่ 4 จำนวน 7,000,000,000 ล้านบาท โดยที่ไม่มีรายละเอียดว่าจะใช้ก่อสร้างสนามกีฬาที่ใด อย่างไร ในวงเงินเท่าใด เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มีการพิจารณาอนุมัติเพิ่มเติมเงินงบประมาณให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ผู้ประสานงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น กับพวก เข้าไปแทรกแซงการใช้จ่ายงบประมาณตามความต้องการ โดยให้ข้าราชการประจำทำคำของบประมาณที่ไม่ได้เกิดจากความต้องการที่แท้จริงของโรงเรียนเสนอขึ้นมา
ต่อมาสำนักงบประมาณได้จัดทำบันทึกเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และคณะกรรมาธิการฯได้พิจารณาเพิ่มเติมงบประมาณในส่วนนี้ ตามคำขอแปรญัตติเป็นเงินทั้งสิ้น 4,459,420,000 บาท โดยนายประยงค์ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการส่วนการงบประมาณ สำนักนโยบายและแผนงบประมาณ สังกัดสำนักงบประมาณ ในขณะนั้น เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงบประมาณนำบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติเพิ่มปี 2555 (ใบโควตา) ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อีกทอดหนึ่งเพื่อใช้ควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณให้ตรงตามความต้องการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีส่วนได้รับการจัดสรรในครั้งนี้
‘วิรัช’สั่ง‘คนสนิท-คนประสานพรรค’ นำรายชื่อมอบให้ จนท.สพฐ.ตรวจใบโควตา
สำนวนไต่สวนคดี ป.ป.ช. ระบุว่า ในส่วนของการประสานงานกับผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่นายวิรัชฯ ได้สั่งการให้นายสัมฤทธิ์ ปลั่งกลาง ครูโรงเรียนบ้านขามเฒ่า คนสนิทของตน เข้าไปประสานงานเพื่อให้ได้รายชื่อโรงเรียนที่ต้องการก่อสร้างสนามฟุตซอล จากนั้นได้สั่งการให้นายประภัสร์ ลิมานันท์ ครูโรงเรียนวัดจระเข้ใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการและนางสาวกุลธิดา วีรตานนท์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานพรรคการเมือง นำรายชื่อโรงเรียนที่ได้จากการประสานงานไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของ สพฐ. ซึ่งได้มีการแนะนำให้รู้จักกันก่อนหน้านี้แล้ว
ภายหลังจากที่ได้รับการประสานรายชื่อโรงเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่ของ สพฐ. ก็จะนำรายชื่อโรงเรียนต่างๆ ดังกล่าว มาตรวจสอบกับใบโควตาไม่ให้เกินกรอบวงเงินที่ได้รับแล้วทำบันทึกเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อลงนามในหนังสือจัดสรรงบประมาณปี 2555 พร้อมแนบรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับประสานมานั้นไปด้วย แล้วส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต (ในลักษณะ TOP DOWN) ในขณะเดียวกันก็แจ้งไปยังสำนักการคลังและสินทรัพย์ เพื่อโอนงบประมาณในส่วนนี้ไปให้ เฉพาะจังหวัดนครราชสีมาได้รับงบประมาณเป็นจำนวน 295 ล้านบาท
หลังจากที่นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาฯ สพฐ. ได้ทำหนังสือแจ้งจัดสรรงบประมาณ พร้อมแนบรายชื่อโรงเรียนให้ตามความประสงค์ของนายวิรัชฯ แล้วนายวิรัชฯ ได้สั่งการให้นายสัมฤทธิ์ ปลั่งกลาง คนสนิท ของตน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานตั้งแต่ต้น ร่วมกับนางสาวเบญจพันธ์ บุญบงการ หรือ เอ๋ กรรมการผู้จัดการบริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทต่างๆ ที่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญา เข้ามาประสานงานในพื้นที่ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่ออธิบายรายละเอียด วิธีการ และขั้นตอน ในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด เพื่อให้โรงเรียนต่างๆ ไปดำเนินการตามที่ได้ตระเตรียมไว้ โดยมีการนัดหมายกัน หลายแห่ง และมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่เป็นผู้ช่วยเหลือประสานงานแจ้งให้โรงเรียนต่างๆ ทราบและเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและตัวอย่าง พร้อมกำหนดปฏิทินการดำเนินการไว้ล่วงหน้า
กำหนดเสนอราคาวันเดียวกันแยกรายเขต ไม่ให้ผู้ค้ารายอื่นรู้ราคาแท้จริงที่มีการประมูล
โดยกำหนดวันที่ในการเสนอราคาเป็นวันเดียวกันแยกเป็นรายเขต มิให้ผู้ค้ารายอื่นรู้ราคาที่แท้จริงที่มีการประมูลได้ เพื่อป้องกันมิให้คู่ค้ารายอื่นเข้าร่วมการประมูลอีกทางหนึ่ง เป็นต้น โดยมีการกำหนดคุณลักษณะร่างขอบเขต ของงาน (TOR) อันเป็นการกีดกันผู้ค้ารายอื่นมิให้ร่วมในการเสนอราคาเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม กล่าวคือกำหนดให้ใช้แผ่นยางสังเคราะห์ (EVA) ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ทำพื้นสนามกีฬาฟุตซอลกลางแจ้งได้มาใช้และตั้งราคาไว้สูงกว่าความเป็นจริง 8-9 เท่า (ราคาที่แท้จริงมีราคาตารางเมตรละประมาณ 330 บาท) นอกจากนี้ได้กำหนดให้ใช้หนังสือแบบเรียนที่มีขายเฉพาะตัวแทนจำหน่ายพรรคพวกของตนเท่านั้น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารประกวดราคาด้วย โดยมีนายมานัส ชาวนา กรรมการบริษัท วอเตอร์ ฮีล แลนด์ จำกัด เข้ามาเป็นคู่เทียบ ผลการประกวดราคาในเวลาต่อมาปรากฏจากหลักฐานว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส ซึ่งเป็นของนายยี พณิชยา เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยเสนอราคาต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้จำนวน 500 บาท เกือบทุกโรงเรียน
ต่อมาภายหลังได้มีการส่งมอบงานให้กับโรงเรียนต่าง ๆ แต่พื้นสนามฟุตซอลไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากแผ่นยางสังเคราะห์ (EVA) ที่กำหนดใน TOR เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการโก่งงอ และเนื่องจากมิได้มีการติดตรึงอย่างถาวร จึงทำให้เกิดการหลุดล่อนเมื่อมีลมพัดแรง ซึ่งโรงเรียนต่าง ๆ ก็ได้ถอดเก็บไว้และมิได้นำออกมาใช้งานตามวัตถุประสงค์แต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อเกิดความเสียหาย ผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ก็มิได้เรียกให้ผู้รับจ้างเข้ามาแก้ไขและมิได้ทำการยึดหลักประกันสัญญาเพื่อบรรเทาความเสียหาย
ฟัน 24 ราย นักการเมือง-ผู้ประสานงาน 6 ราย-ขรก. 9 ราย-เอกชน 9 ราย ‘กลุ่มยี’ ด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวข้างต้น ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 แล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 24 ราย ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 ราย ข้าราชการ 11 ราย เอกชน 10 ราย (บุคคลธรรมดา 7 ราย นิติบุคคล 3 ราย) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ประสานงาน จำนวน 6 ราย คือ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้กระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือกรรมาธิการ มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายจะกระทำมิได้ จึงเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168 มีมูลความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 มาตรา 13 และมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา
นายสัมฤทธิ์ ปลั่งกลาง มีมูลความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ระกอบมาตรา 86 นอกจากนี้ยังมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา
นางสาวกุลธิดา วีรตานนท์ และนายประภัสร์ ลิมานันท์ มีมูลความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 นอกจากการกระทำของนายประภัสร์ ลิมานันท์ ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 84 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสองด้วย
ส่วนนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ มีมูลความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา
2. กลุ่มข้าราชการ จำนวน 9 ราย คือ
นายชินภัทร ภูมิรัตน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและนายรังสรรค์ มณีเล็ก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สพฐ. มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ตามมาตรา 4 มาตรา 7 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 84 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง และนายชินภัทร ภูมิรัตน มีมูลความผิดทางอาญาตาม มาตรา 151 ประมวลกฎหมายอาญาอีกประการหนึ่งด้วย
นายประยงค์ ตั้งเจริญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนการงบประมาณ สำนักนโยบายและแผนงบประมาณ สำนักงบประมาณ ในฐานะกรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการพิจารณาการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1)
นายนิเวศน์ อุดมรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมาเขต 2 มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 84 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง
นายวิโรจน์ เลิศพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพระพุทธ นายอนันต์ สุวรรณะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตูมราษฎร์บูรณะ นายทองอินทร์ ไปเจอะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองพลอง นางสาวพูนพิสมัย เปี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหัวทำนบ และนางสาวอ้อย สงึมรัมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองนา มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ตามมาตรา 4 มาตรา 7 มาตารา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 84 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง
3. กลุ่มเอกชน จำนวน 9 ราย คือ
นางสาวเบญจพันธ์ บุญบงการ และบริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 268 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
นายยี พณิชยา นายมานัส ชาวนา ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส และบริษัท วอเตอร์ ฮีล แลนด์ จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 268 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2564 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
นางสาวฐิติรัตน์ ทันหาบุรุษ และนางสาวรัตนา มงคลสกุล มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 และมาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 นอกจากนี้นางสาวฐิติรัตน์ ทันหาบุรุษ ยังมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 7 และมาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 อีกด้วย
นายวิธิวัสส์ ภูชัสส์วุฒิกุล มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
มูลค่าความเสียหายทั้ง 6 โรงเรียน ประมาณ 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาท)
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น พร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 76 และมาตรา 91 (2) แล้วแต่กรณี
ในส่วนที่เหลือของจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 6 เขต 50 โรงเรียน และจังหวัดอื่นๆ อีก 17 จังหวัด อยู่ระหว่างการดำเนินการ
จากนั้นในช่วงปลายปี 2562 สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา และทางวินัยแก่นายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวกเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว อีก 6 เขตพื้นที่การศึกษาใน จ.นครราชสีมา โดยมีน้องชายของอดีต ส.ส.ชื่อดังใน จ.นครราชสีมา ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมด้วย ร่วมกับกลุ่มข้าราชการในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่เกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการโรงเรียน และกลุ่มเอกชน อย่างไรก็ดีมีกลุ่มข้าราชการครูอีกจำนวนหนึ่งถูกชี้มูลความผิดแค่ทางวินัยอย่างเดียว เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า อยู่ในภาวะจำยอม จึงส่งสำนวนให้แก่ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัย
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการฟ้องร้องคดีต่อศาลในช่วงแรก ก็มีปัญหาความเห็นไม่ตรงกัน ระหว่าง คณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด (อสส.) และฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์คดี ซึ่งมีการประชุมร่วมกันหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2564 ในที่ประชุมคณะทำงานร่วมฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. ที่พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์สำนวนคดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยฝ่ายอัยการแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า อสส. มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง เท่ากับว่าคดีนี้ได้ข้อยุติแล้ว พร้อมตามหาที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 84 ราย เพื่อแจ้งคำสั่งฟ้องของ อสส.อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็มีผู้ต้องหาหลายราย ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการเข้ารายงานตัวกับพนักงานอัยการ รวมถึงนายวิรัช ด้วย
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ได้ยืนยันความบริสุทธิ์มาโดยตลอด พร้อมมอบหมายทนายความส่วนตัว ฟ้องร้องคดี ต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ประเด็นสำคัญคือ ไม่ยอมตรวจสอบใบโควตาที่เป็นหลักฐานสำคัญในคดีว่า เป็นของจริงหรือไม่ด้วย
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2564 องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการประชุมคดีพิจารณาสำนวนที่อัยการสูงสุดฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวก รวม 87 คน แล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้องดังกล่าว ส่งผลให้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา (ภรรยา นายวิรัช) และ นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา (น้องสาวนางทัศนียา) ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีตามที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าว
@ ขั้นตอนทางกฎหมายหลังอัยการยื่นฟ้องคดี
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจาก แหล่งข่าวสำนักงานศาลยุติธรรม ว่า สำหรับขั้นตอนตามกฎหมาย หลังอัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อเดือนกันยายน 2564 ศาลฎีกาได้นัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อเลือกองค์คณะผู้รับผิดชอบเฉพาะคดีนี้ 9 คน ทั้งนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้เลือก นางนุจรินทร์ จันทร์พรายศรี เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ซึ่งตามขั้นตอนทางกฎหมายก็จะนำคำสั่งดังกล่าวไปอ่านให้คู่ความฟังในวันที่ได้มีการนัดฟังคำสั่งวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ในวันที่นัดพิจารณาคือวันที่ 20 ธันวาคม นอกจากนั้นในส่วนขั้นตอนทางธุรการนั้น เมื่อองค์คณะผู้พิพากษามีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาแล้ว ก็จะสามารถทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ที่ตกเป็นจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนัดฟังคำสั่งในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งจะมีผลทำให้จำเลย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน
@ ความเคลื่อนไหว ผู้ต้องหากลุ่มครู ผอ.โรงเรียน ไล่ออกราชการแล้ว 65 ราย
สำหรับความเคลื่อนไหวในส่วนของ ผู้ต้องหา กลุ่ม ครู ผู้อำนวยการโรงเรียน นั้น ล่าสุดในช่วงปลายเดือน ต.ค.2564 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ลงนามไล่ออกราชการ ครู ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา 65 คน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จากการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องโทษวินัยร้ายแรง ข้อหาร่วมกันทุจริตสร้างสนามฟุตซอล ตั้งแต่ปี 2555
โดยนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ยอมรับว่าเสียใจและถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่ปิดทางอุทธรณ์ โดยครูสามารถยื่นอุทธรณ์ พร้อมหลักฐานใหม่ภายใน 30 วัน ต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้อนุกรรมการวินัยพิจารณาโทษใหม่ ซึ่งมี 3 แนวทาง คือ ให้ออกจากจากราชการ ปลดออก และลดเงินเดือน
"ในจำนวนนี้มีครู 14 คนที่ยังอยู่ในราชการ จะไม่ได้กลับไปสอนหนังสือนักเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ แม้คดีนี้จะยังไม่สิ้นสุดกระบวนการยุติธรรม นักการเมืองยังไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย แต่ครูต้องรับโทษทางวินัย เพราะตามกฎหมาย หาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ต้นสังกัดจะต้องดำเนินการโทษทางวินัยทันที" นายอัมพร พินะสาระบุ (อ้างอิงข้อมูลข่าวส่วนนี้จาก https://news.thaipbs.or.th/content/309169)
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียน ที่ถูกขนานนามว่า เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ที่ชัดเจนอีกกรณีหนึ่ง และมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งในส่วนของฝ่ายการเมือง ฝ่ายโรงเรียนในฐานะผู้ปฏิบัติ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงบทสรุปในปัจจุบัน
นับเป็นการปิดฉากกระบวนการสอบสวนคดีในส่วนของหน่วยงานตรวจสอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนที่จะเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาในชั้นศาลเป็นทางการ เร็ว ๆ นี้
อ่านประกอบ :
-
ป.ป.ช.ไขปม 'หยุดปฏิบัติหน้าที่' เทียบคดี 'วิรัช' - 2 ส.ส.พปชร.จำเลยคดีฟุตซอล
-
'วิรัช' รอลุ้นคำสั่งศาลคดีฟุตซอล 20 ธ.ค.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
-
ศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่ง 20 ธ.ค.64 จะประทับรับฟ้อง 'วิรัช'กับพวก คดีฟุตซอลหรือไม่
-
‘วิรัช’ขอเลื่อนคดีฟุตซอล - ป.ป.ช.ยันส่งฟ้องศาลฎีกาฯได้ไม่ต้องมีตัวผู้ถูกกล่าวหา
-
14 ก.ย.นำตัว‘วิรัช-พวก’ 84 รายคดีสร้างสนามฟุตซอลโคราช 7 สำนวนส่งฟ้องศาลฎีกาฯ
-
คอนเฟิร์ม! อสส.ฟ้อง‘วิรัช-พวก’84 รายคดีฟุตซอล-ป.ป.ช.แจ้งหมายทางการนำตัวฟ้องศาลฎีกาฯ
-
อสส.สั่งฟ้อง 7 สำนวน‘วิรัช-พวก’ 84 รายคดีฟุตซอล-นำตัวส่งศาลฎีกาฯภายใน มิ.ย.64
-
อดีตครูโคราชร้องขอความเป็นธรรม ป.ป.ช. ทบทวนมติชี้มูลผิดฐานสนับสนุนคดีฟุตซอล
-
ถ้าสุจริต กม.คุ้มครอง! ป.ป.ช.ไม่ก้าวล่วง‘วิรัช’ฟ้องอนุฯคดีฟุตซอล-เป็นสิทธิผู้เสียหาย
-
‘เมธี’ร่อน จม.ข้ามโลก! ถึง ปธ.-กก.ป.ป.ช.ทำทุกทางช่วยอนุไต่สวนฯถูก‘วิรัช’ฟ้องคดีฟุตซอล
-
‘วิรัช’ฟ้องสวนอนุฯ ป.ป.ช.คดีฟุตซอล‘ใบโควตา’ของจริงหรือไม่-‘ปรีชา’ยันได้จาก‘บิ๊ก ศธ.’
-
ทันก่อนหมดอายุความ! ชง อสส.ขอรวม 5 สำนวนคดีฟุตซอลโคราช หลังมีคำสั่งฟ้อง‘วิรัช-พวก’
-
เป็นดุลพินิจศาลฎีกาฯวิรัช-พวก’ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หลัง อสส.ฟ้องคดีฟุตซอล
-
อสส.สั่งฟ้อง‘วิรัช-พวก’คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลโคราช เขต 2-ขีดเส้นร่างคำฟ้องใน 60 วัน
-
ชี้ชะตา'วิรัช' คดีฟุตซอล 26 พ.ย! คณะทำงานฯอัยการ-ป.ป.ช.นัดประชุมแจ้งคำสั่งฟ้องหรือไม่
-
ฉากหลังคดีฟุตซอล! คณะทำงานร่วมฯอัยการ-ป.ป.ช.เห็นควรสั่งฟ้อง‘วิรัช’-วัดใจ อสส.ชี้ขาด
-
ยังไม่ชัดฟ้องหรือไม่! เผยผลประชุมคณะทำงานร่วมฯคดีฟุตซอลโคราช‘วิรัช’-ชง อสส.พิจารณา
-
ป.ป.ช.การันตีตามอัยการ! คณะทำงานร่วมฯคดีฟุตซอล‘วิรัช’เลยเส้นตาย กม.ได้-8 มิ.ย.รู้ผล
-
อสส.ชี้คณะทำงานร่วมฯคดีฟุตซอล‘วิรัช’เลยเส้นตาย กม.ป.ป.ช.ได้-ยึดอายุความเป็นหลัก
-
เลยเส้นตาย! คณะทำงานร่วมฯอัยการถก 29 พ.ค.คดีฟุตซอล‘วิรัช’-นัด ป.ป.ช.ชี้ขาด มิ.ย.
-
เส้นตาย 27 พ.ค.! คณะทำงานร่วมฯป.ป.ช.-อสส.ต้องชี้ขาด‘วิรัช-พวก’คดีฟุตซอลโคราช
-
หลักฐานไม่สมบูรณ์! อัยการ-ป.ป.ช.ตั้งคณะทำงานร่วมฯคดีฟุตซอล‘วิรัช’-ขีดเส้นเสร็จ 90 วัน
-
ย้อนคดีฟุตซอลฉาว! ป.ป.ช.ฟัน‘วิรัช’ 7 สำนวน-บทพิสูจน์ รบ.บิ๊กตู่ชูปราบโกงยังเฉย?
-
ป.ป.ช.ฟันซ้ำ‘วิรัช’อีก 6 คดีฟุตซอล ‘น้องชาย’อดีต ส.ส.ดังโดนด้วย-เจ้าตัวยันสู้ต่อ
-
อนุฯ ป.ป.ช.สรุปสำนวนคดีฟุตซอล 7 จว. ภาคเหนือแล้ว รอชงที่ประชุม กก.ลงมติ
-
เบื้องหลังคดีฟุตซอล! ส.ส.ซื้อต่อโควตางบแปรญัตติวางแผนทุจริต-จ่อแจ้งข้อหา 2 คดีภาคเหนือ
-
ทุจริตเชิงนโยบาย!ป.ป.ช.แจงฟัน‘วิรัช-พวก’คดีฟุตซอลโคราช ‘แบ่งงานชัด-ให้พวกได้คู่สัญญา’
-
‘วิรัช’ทำหนังสือขอความเป็นธรรม ป.ป.ช. หลังชี้มูล 3 ส.ส.พปชร.คดีสนามฟุตซอล
-
'วิรัช'เผยว่าไปตามกระบวนการ! หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล 3 ส.ส.พปชร.คดีสนามฟุตซอลเขต 2 โคราช
-
ป.ป.ช.เชือด 3 ส.ส.พปชร.-มี ‘บิ๊ก’ด้วย! คดีสนามฟุตซอล เขตพื้นที่การศึกษา 2 โคราช
-
ย้อนรอยคดีทุจริตสนามฟุตซอลสพฐ.ก่อนป.ป.ช.รูดม่านปิดสำนวนเชือด'ส.ส.-บิ๊กขรก.-ครูนับร้อย'
-
รวม 15 สำนวน! คดีสร้างสนามฟุตซอลฉาวภาคเหนือ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาอีก 2 ราย
-
จำแนก5กลุ่ม ครูเอี่ยวนับร้อย'ส.ส.-บิ๊กสพฐ.'โดนด้วย! ป.ป.ช.จ่อฟันคดีทุจริตส.ฟุตซอลทั่วปท.
-
'ยี-พวก' โดนแล้ว! สพฐ.สั่งผอ.เขตโคราช ดำเนินคดีสร้างสนามฟุตซอลร.ร.16แห่งรวด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage