ปลดล็อก'บัตรทอง'ใช้สิทธิ์รักษาได้ทุกที่ เริ่มที่ กทม.ตั้งแต่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป

25102563gov01

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อก 'บัตรทอง' ให้ใช้สิทธิ์รักษาได้ทุกที่ - ไม่ต้องขอใบส่งตัว โดยให้เริ่มทำที่ กทม.ตั้งแต่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป

---------------------------------------------------------------------

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาที่ใดก้ได้ และยกเลิกการใช้ใบส่งตัวของผู้ป่วยในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่รักษาพยาบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.ประชาชนสามารถรับการรักษาพยาบาลที่ใดก็ได้ โดยทดลองให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร สามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการที่คลินิกชุมชนอบอุ่น และหน่วยบริการเฉพาะทางชุมชนอบอุ่นได้ทุกแห่ง ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใช้สิทธิบัตรทองจะถูกจับคู่กับหน่วยบริการเพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตั้งเป้าที่จะประสานหน่วยบริการ 500 แห่งให้เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการชุมชนอบอุ่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2563 ผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองใน กทม.สามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการทุกแห่ง และสามารถนัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั้นเป๋าตังได้อีกด้วย ทั้งนี้จะเริ่มทดลองใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดัน ก่อนที่จะขยายไปถึงกลุ่มผู้ป่วยนอกทัง้หมดในระยะต่อไป

2.ผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัว โดยกรณีที่ผู้ป่วยไปรับบริการที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพและโรงพยาบาลวินิจฉัยว่าต้องนอนรักษาตัว ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทันที โดยไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวอีก เนื่องจาก สปสช. จะจัดทำระบบออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลินิกกับโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเองโดยอัตโนมัติ

3.ประชาชนแจ้งย้ายหน่วยบริการและเข้ารับรักษาที่ใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องรอ 15 วันตามระบบเดิม

4.ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งจะได้รับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพและไม่แออัด โดยเมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง หน่วยบริการผู้วินิจฉัยจะส่งข้อมูลผู้ป่วยมายัง สปสช. เพื่อให้ประสานจัดหาโรงพยาบาลที่ไม่แออัด และมีศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งประเภทนั้น ๆ ได้ทันที ประชาชนก็จะได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน พร้อมทั้งบริการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน พร้อมด้วยการติดตามอาการและแนะนำการทานยาผ่านระบบสื่อสารทางไกล (Telehealth) ภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า การคลายล็อกข้อจำกัดต่างๆของบัตรทองในครั้งนี้ คือนโยบายของรัฐบาลในความพยายามที่จะยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อการดูแลรักษาพยาบาลที่ดี มีมาตรฐาน ง่ายและสะดวกสำหรับประชาชนคนไทยทุกคน

ผู้สื่อข่วรายงานว่า มาตรการดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีที่มีการตรวจพบทุจริตการเบิกจ่ายเงินจากบัตรทองจากหน่วยบริการหลายแห่งใน กทม. โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 200 ล้านบาท ส่งผลให้ สปสช.ทำการยกเลิกสัญญาหน่วยบริการไปทั้งหมด 3 รอบ รวม 187 หน่วยบริการ และ 5 คลินิกทันตกรรม โดยมีประชาชนที่ถือบัตรทองได้รับผลกระทบกว่า 9 แสนคน

อ่านประกอบ :

จี้ สปสช.หามาตรการรองรับบัตรทอง 2 ล้านสิทธิ์ หลังพบทุจริต-ยกเลิก 188 หน่วยบริการใน กทม.

สปสช.พบหลักฐาน 'คลินิกทุจริตเงินบัตรทอง' เพิ่ม 106 แห่ง

เสียหายเพิ่ม 34 ล.!สปสช.ดำเนินคดีอีก 63 คลินิก - 3 ทันตกรรม เบิกงบบัตรทองผิดปกติ

จาก 'งบตรวจสุขภาพ' ถึง 'ค่าทำฟัน' สปสช.พบพิรุธเบิกเงินบัตรทองที่ 'คลินิกทันตกรรม'

เปิดตัว 'บ.คุณารักษ์' คลินิกถูกตรวจงบบัตรทองกลุ่มสอง 63 แห่ง - ผู้บริหาร แจงให้รอฟัง สปสช.

เจาะกลุ่มสองเจ้าของ 18 คลินิกเจออีก 4 แห่ง - 2 บริษัทถูกสอบเบิกงบบัตรทองล็อตสอง

พบอีก 5 แห่ง!เจ้าของเดิมกลุ่ม 18 คลินิกถูก สปสช.ลุยสอบเบิกงบบัตรทองล็อตสอง

คุ้ยเอกสารล้านแผ่น! สปสช.ลุยสอบกลุ่ม 63 คลินิกเบิกงบบัตรทอง-ดึงดีเอสไอตรวจทุจริต

เอ็กซ์คลูซีฟ: เปิดชื่อ 86 คลินิกเบิกงบบัตรทอง ก่อน สปสช.พบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 แห่ง 2.4ล.

'เพื่อไทย'จี้ สปสช.สั่งย้ายผู้อำนวยการ เขต 13 กทม.เปิดทางสอบคลินิกอบอุ่นเบิกเงินบัตรทอง

เปิดที่มาเงิน 2 หมื่นล้านงบสร้างเสริมสุขภาพฯบัตรทอง ก่อน 18 คลินิกถูกดำเนินคดีฉ้อโกง