งดรับรู้ดบ.-ตีมูลค่าหุ้นกู้ ‘การบินไทย’ ใหม่! เบื้องต้นสหกรณ์สูญ 1.8 พันล.-จับตาแฮร์คัทหนี้

‘กรมตรวจบัญชีสหกรณ์’ เรียก 88 สหกรณ์ที่ลงทุนใน ‘หุ้นสามัญ-หุ้นกู้’ ของ 'การบินไทย' ซักซ้อมวิธีปฏิบัติทางบัญชีฯ เผยกรณีลงทุนใน ‘หุ้นกู้’ ให้สหกรณ์ฯระงับการรับรู้ดอกเบี้ย และตีมูลค่าหุ้นกู้ใหม่เป็น ‘ราคาทุนตัดจำหน่าย’ คาดเบื้องต้น 84 สหกรณ์ สูญเสียความมั่งคั่ง 1.8 พันล้านบาท จับตาแผน ‘แฮร์คัทหนี้’ หลังแผนฟื้นฟูกิจการฯออกมาชัดเจน

tg co 02 08 20 pic

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานประชุมซักซ้อม เรื่อง วิธีปฏิบัติทางบัญชีกรณีสหกรณ์นำเงินไปลงทุนในหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์ 88 แห่ง ที่มีการลงทุนในหุ้นสามัญและหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดผ่าน Web Conference ไปยังสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1-10 ด้วย

แหล่งข่าวจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า สำหรับวิธีปฏิบัติทางบัญชีในกรณีสหกรณ์นำเงินไปลงทุนในบริษัท การบินไทย นั้น กรณีที่เป็นการลงทุนในหุ้นสามัญ ให้สหกรณ์ตีราคาด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์นั้นๆ และให้สหกรณ์บันทึกส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าการลงทุนระหว่างราคาทุนและราคามูลค่ายุติธรรมในบัญชีกำไร (ขาดทุน) จากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น โดยให้แสดงไว้ในส่วนทุนสหกรณ์

ทั้งนี้ ณ วันที่ 21 พ.ค.63 มีสหกรณ์ออมทรัพย์ 4 แห่ง ถือหุ้นสามัญบริษัท การบินไทย ราคาทุน 273.93 ล้านบาท ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด (นนทบุรี) ราคาทุน 257.54 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ (กทม.) ราคาทุน 12.31 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ (กทม.) ราคาทุน 2.80 ล้านบาท และสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานไฟฟ้าเขต 2 พิษณุโลก (2521) จำกัด (พิษณุโลก) ราคาทุน 1.25 ล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สหกรณ์มีการลงทุนในหุ้นกู้ของ บริษัท การบินไทย ให้สหกรณ์ระงับการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย เนื่องจากปัจจุบันบริษัท การบินไทย ได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและอยู่ในสภาวะพักชำระหนี้ ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับดอกเบี้ยที่จะได้รับจากหุ้นกู้ จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะรับรู้รายได้ตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยบัญชีของสหกรณ์ พ.ศ.2560

นอกจากนี้ เนื่องจากเงินลงทุนในหุ้นกู้บริษัท การบินไทย นั้น เป็นหุ้นกู้ที่สหกรณ์มีความตั้งใจจะถือจนครบกำหนด จึงให้สหกรณ์ตีมูลค่าหุ้นกู้ ณ วันสิ้นปีทางบัญชี ด้วยราคาทุนตัดจำหน่าย และในกรณีที่สหกรณ์ซื้อหุ้นกู้ด้วยราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ในหุ้นกู้ แต่เนื่องจากสหกรณ์ระงับการรับรู้ดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้ จึงให้สหกรณ์ทยอยตัดส่วนเกินที่สูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ในหุ้นกู้คงเหลือในอัตราเส้นตรง ตามระยะเวลาคงเหลือของหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดชำระ

ยกตัวอย่างเช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ AA ซื้อหุ้นกู้ TG และมีส่วนเกินมูลค่าคงเหลือ (เงินลงทุนซื้อหุ้นกู้ลบด้วยมูลค่าที่ตราไว้ในหุ้นกู้) ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 อยู่ที่ 400,000 บาท ระยะเวลาคงเหลือถึงกำหนดชำระ 4 ปี ส่วนเกินมูลค่าหุ้นกู้ฯตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ 100,000 บาทต่อปี และให้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน

tg 02 08 20 1

“การซักซ้อมและชี้แจงแนวทางปฏิบัติทางบัญชีกับสหกรณ์ครั้งนี้ มีคำถามน้อยมาก และได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเป็นเพียงวิธีปฏิบัติเท่านั้น ยังไม่มีผลได้ผลเสียอย่างไร จนกว่าจะได้รับรู้ความจริงว่า แผนฟื้นฟูกิจการจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงตอนนั้นอาจจะยุ่ง เช่น กรณีหุ้นกู้ มูลค่าที่เคยอยู่ 100 บาท แต่ถ้าถูกแฮร์คัทเหลือ 50 บาท อีก 50 บาท จะต้องตัดเป็นค่าใช้จ่ายไป คือ หายไปเลย” แหล่งข่าวกล่าว

ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค.63 มีสหกรณ์ออมทรัพย์ 84 แห่ง ถือหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย โดยมีมูลค่ายุติธรรมอยู่ที่ 42,992 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปรับมูลค่าเงินลงทุนเป็นราคาทุนตัดจำหน่ายแล้ว มูลค่าเงินลงทุนจะอยู่ที่ 41,190 ล้านบาท หรือลดลง 1,802 ล้านบาท

bond 24 5 20