ครม.รับทราบความคืบหน้าโครงการ ‘ดิจิทัลวอลเลต’ พร้อมมอบ ‘สรรพากร-มท.-ยธ.-แบงก์-สถาบันคุ้มครองเงินฝาก’ ร่วมกันตรวจสอบสิทธิ ‘ผู้ลงทะเบียน’
.....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet
โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า ปัจจุบันได้มีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 และในขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการตรวจสอบสิทธิของผู้ลงทะเบียนให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จึงเสนอให้ที่ประชุมรับทราบและพิจารณาความเหมาะสมในการมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1.ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร 2.ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลรายได้ของประชาชน ณ ปีภาษี 2566 3.ให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน นำส่งข้อมูลเงินฝาก ณ วันที่ 31 มี.ค.2567 ไปยังสถาบันคุ้มครองเงินฝากเฉพาะกิจ 4.ให้สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ช่วยประสานงานกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการจัดเตรียมข้อมูลเงินฝากและช่วยประมวลผลข้อมูลเงินฝากดังกล่าว
5.ให้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) โดยกรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบข้อมูลผู้อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ และ6.ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบมาตรการ ตรวจสอบข้อมูลผู้ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐ
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยมีความเห็นว่า กระทรวงการคลังควรเร่งจัดการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการตามภารกิจต่างๆ ให้ชัดเจน ถูกต้องตรงกัน
ขณะที่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า การมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการในเรื่องต่างๆ นั้น แต่ละหน่วยงานสามารถปฏิบัติได้ตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานนั้นๆ อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ควรเร่งรัดดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ครม.พิจารณาแล้วลงมติรับทราบตามที่นายเผ่าภูมิ รายงานและมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
อ่านประกอบ :
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้าน แจก‘ดิจิทัลวอลเลต’
เปิดหนังสือ‘ผู้ว่าฯธปท.’ชี้‘จุดเสี่ยง’เชื่อมระบบ‘ดิจิทัลวอลเลต’-เตือนป้องกัน‘ขายลดสิทธิ์’
‘เศรษฐา’ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กลงทะเบียนเงินหมื่น 1 ส.ค.67
เปิดหนังสือ 4 ฉบับ‘ธปท.-สศช.’เตือน‘งบเพิ่มเติม’ปี 67 ทำขาดดุลฯพุ่ง-ห่วงรัฐ‘กระสุน’จำกัด
‘บอร์ดนโยบายฯ’แจงแนวทางป้องกันทุจริต‘ดิจิทัลวอลเลตฯ’-ย้ำแจก‘เงินหมื่น’มุ่งกระตุ้น ศก.
พลิกมติ'ครม.เศรษฐา'รื้อ'แผนการคลังฯ'2 รอบ กู้โปะ'ดิจิทัลวอลเลต'-'หนี้สาธารณะ'ใกล้ชนเพดาน
ย้อนดู‘หนี้ประเทศ-ภาระผูกพัน’ ก่อน‘รบ.เศรษฐา’เร่งหาแหล่งเงิน 5.6 แสนล.โปะ‘ดิจิทัลวอลเลต’