‘บอร์ดแก้หนี้ฯ’ เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ข้าราชการ 3 ล้านราย ประเดิมงานแรก ‘หักเงินเดือนจ่ายหนี้’ ต้องมีเงินเหลือใช้ไม่น้อยกว่า 30% ขณะที่ ‘ก.ยุติธรรม’ แก้กฎหมายให้รับ กรณี ‘ปล่อยกู้นอกระบบ-ดอกเบี้ยเกิน 15%’ เป็น 'คดีพิเศษ'
....................................
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ว่า ที่ประชุมได้หารือภาพรวมหนี้สินข้าราชการทั้งระบบ โดยพบว่ามีข้าราชการที่อยู่ในระบบเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯต่างๆประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่หรือ 8 แสนคน อยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ
ส่วนแนวทางการแก้ไขหนี้สินของข้าราชการนั้น รัฐบาลจะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการทั้งหมด โดยเฉพาะการดูแลเรื่องการหักเงินเดือนของข้าราชการเพื่อชำระหนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาหนี้สินของข้าราชการ พบว่าการหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบบสินเชื่อสวัสดิการ ทำให้ข้าราชการเหลือเงินเดือนใช้จ่ายไม่ถึง 30% ซึ่งคณะกรรมการฯจึงร่วมกันพิจารณาว่า จะต้องทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนเหลือใช้ไม่น้อยกว่า 30%
“จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งจะช่วยให้ข้าราชการปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว และถ้าบางรายไม่สามารถทำให้เงินเหลือมากกว่า 30% ของเงินเดือนได้ จะใช้วิธีการขยายงวดชำระเงินต้นออกไปให้อายุถึง 75 ปี” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวและว่า คณะกรรมการฯ จะเดินหน้าแก้ปัญหากรณีการหักเงินเดือนข้าราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในเดือน ม.ค.2567 เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง และต้นสังกัดของข้าราชการด้วย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ กระทรวงยุติธรรมได้ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ และให้นำหนี้นอกระบบมาอยู่ในท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษด้วย ดังนั้น ต่อไปนี้หากมีการปล่อยกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 15% ต่อปี และทำเป็นเครือข่าย ซึ่งเราตีว่าเป็นการปล่อยกู้รวมกัน 30 ล้านบาท หรือปล่อยกู้ให้ลูกหนี้เกิน 50 คนขึ้นไป ให้รับไว้เป็นคดีพิเศษ
“บุคคลธรรมดา 1 คน ที่ปล่อยกู้เป็นหมื่นๆคน อันนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ และวันนี้ได้สั่งให้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็น ผอ.การแก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพื่อให้หนี้นอกระบบที่สำนักที่เข้าไปดูแล แล้วเราจะจับมือกับตำรวจ โดยจะใช้วิธีเข้าไปสืบสวนเครือข่าย ซึ่งจะช่วยบรรเทาเรื่องหนี้นอกระบบ” พ.ต.อ.ทวีกล่าว
พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขณะนี้มีสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ หนี้ที่มีคำพิพากษาทางแพ่ง เมื่อส่งเรื่องไปที่กรมบังคับคดี ทั้งที่ตั้งเรื่องและไม่ได้ตั้งเรื่อง มีจำนวน 16 ล้านล้านบาท ใกล้กับจีดีพี 17 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหนี้ของสถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ และหนี้ก้อนใหญ่จำนวนหนึ่งเป็นหนี้ กยศ. ซึ่งในส่วนหนี้ กยศ.นั้น จะมีการคำนวณหนี้ของลูกหนี้ กยศ.ใหม่ หลังจากที่กฎหมาย กยศ.ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัจจุบันกรมบังคับคดีได้จัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนและจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มต่างๆ เช่น กรณีบัตรเครดิต ซึ่งปกติมีอายุความ 2 ปี แต่ในกฎหมายแพ่งเขียนเงื่อนไขว่า การยกอายุความ ไม่ให้เจ้าหนี้ยกมา แต่ต้องให้ลูกหนี้เป็นคนยก แต่หากลูกหนี้ไม่ยกประเด็นอายุความในวันฟ้อง หรือวันที่มาต่อสู้คดี ลูกหนี้ก็ไม่สามารถเอาสถานะเรื่องอายุความเอามาใช้ได้ จึงทำให้ถูกฟ้องบัตรเครดิต และบางทีบัตรเครดิตลุกลามไปยึดบ้าน
“ในวันนี้ เราได้มีการประชุมว่า ต่อไปนี้ต้องทำให้ประชาชนทุกคนรู้ถึงสิทธิของตัวเองว่า ถ้าใครเป็นหนี้บัตรเครดิต ต้องตรวจดูว่า ถ้าเกิน 2 ปี ต้องเขียนคำร้อง เราจะทำแบบฟอร์มให้ลูกหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจะเรามีข้อมูล และขอเรียนเจ้าหนี้ด้วยว่า เมื่อคุณได้เปรียบทางช่องกฎหมาย ก็ควรจะบอกลูกหนี้ และเรื่องหนี้รถยนต์ ถ้าเอารถไปคืน ผู้ให้เช่าไม่ยอมรับคืน เรามีกรมบังคับคดีที่มีสำนักงานวางทรัพย์ฯเข้ามาช่วยดูแลลูกหนี้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ในส่วนหนี้ข้าราชการนั้น เป็นหนี้ที่น่าสงสารที่สุด เพราะข้าราชการถ้าถูกฟ้องล้มละลายก็ต้องถูกออกจากราชการ ซึ่งเจ้าหนี้ก็ฉลาด พยายามดึงเอาข้าราชการไป และหากชำระหนี้ไม่ได้ ข้าราชการต้องไปหาหนี้นอกระบบมาช่วย ไม่เช่นนั้นต้องออกจากราชการ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องดอกเบี้ยที่ถือว่ามะเร็งร้ายของหนี้ข้าราชการ และต้องมีการแก้ไข คือ จะต้องมีวิธีการคิดหรือตัดดอกเบี้ยใหม่
อ่านประกอบ :
คุมดอกเบี้ย15%! นายกฯสั่ง'มท.-ตร.'ช่วยลูกหนี้ไกล่เกลี่ยฯหนี้นอกระบบ-ดึงแบงก์รัฐปล่อยกู้
'บอร์ดแก้หนี้ฯ'ถกคำนวณยอดหนี้'กยศ.'ใหม่-นำร่อง'กลุ่มถูกบังคับคดี'ก่อนขยายครบ 3.5 ล้านราย
แจ้งข่าวดีลูกหนี้ กยศ. 4 หมื่นราย เร่งเซ็นยินยอมงดบังคับคดี
‘เศรษฐา’เซ็นคำสั่งตั้ง‘บอร์ดแก้หนี้ประชาชนฯ’-‘กิตติรัตน์’นั่งประธาน
กยศ.คาดทำสัญญา‘ระงับข้อพิพาท-ปรับโครงสร้างฯ’ลูกหนี้‘ก่อนฟ้อง-หลังฟ้อง’ตามกม.ใหม่ ปลายปี