กรมบังคับคดี แจ้งลูกหนี้ กยศ.ทั่วประเทศ 4 หมื่นราย รีบติดต่อทำบันทึกยินยอมงดการบังคับคดีตามกฎหมายใหม่ ได้สิทธิประโยชน์ทั้งลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับอื้อ แถมให้ตัดเงินต้นก่อน คาดผู้กู้จำนวนมากหลุดหนี้แล้ว เหตุจ่ายดอกท่วมต้น เผยกลุ่มที่ถูกอายัดบัญชีเงินเดือนก็จะไม่ต้องถูกยึดเงินอีกต่อไป ผู้ค้ำประกันได้เฮด้วย
นายเสกสรร สุขแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมบังคับคดี ให้สัมภาษณ์ “ทีมข่าวอิศรา” ถึงกรณีการผ่อนปรนหรืองดบังคับคดีกับลูกหนี้ กยศ. หลังกฎหมายใหม่ คือ พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน มี.ค.66 ว่า ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เร่งรัดให้ กยศ. หรือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ออกระเบียบปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ เพื่อไม่ให้ลูกหนี้เสียประโยชน์ เพราะกฎหมายบังคับใช้มาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะการคิดอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่ลดลงเหลือเพียงไม่ถึงร้อยละ 1 และเงินที่ลูกหนี้ชำระหนี้ ให้ไปตัดเงินต้นก่อน ไม่ใช่นำไปตัดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับก่อนเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการดำเนินการพบว่ามีลูกหนี้ กยศ.ประมาณ 4 หมื่นกว่ารายที่อยู่ในชั้นบังคับคดี และอยู่ระหว่างการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดมา รวมถึงอยู่ระหว่างการอายัดทรัพย์ แต่เมื่อวิธีการชำระหนี้เปลี่ยนแปลงไป กยศ.ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังดำเนินการไม่เรียบร้อย อาจทำให้ลูกหนี้เสียประโยชน์ เพราะเมื่อวิธีการชำระหนี้เปลี่ยนไป ลูกหนี้บางรายถ้ามีการผ่อนชำระมาเรื่อยๆ อาจจะชำระเงินต้นหมดไปแล้วก็ได้ แต่ที่ผ่านมาเงินที่ชำระหนี้ ถูกนำไปตัดดอกเบี้ยกับเบี้ยปรับก่อน เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะทรัพย์ที่รอขายทอดตลาดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมบังคับคดี เพราะกฎหมายใหม่มีบทเฉพาะกาลครอบคลุมไปถึงลูกหนี้ทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มที่อยู่ในชั้นบังคับคดีด้วย
เหตุนี้เอง ทางกรมบังคับคดีจึงพยายามหารือกับทางกยศ. และให้ กยศ.ทำหนังสือประสานมาให้กรมบังคับคดีงดการบังคับคดีไว้ สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ชั้นบังคับคดี ซึ่งขณะนี้ทาง กยศ.ได้ทำหนังสือมาเรียบร้อยแล้ว
แต่ปัญหาการงดการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 298 จะงดได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยินยอมจากลูกหนี้ด้วย การดำเนินการจึงต้องมีสามฝ่าย คือมีโจทก์ มีลูกหนี้ และมีเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีลายเซ็นลูกหนี้ ก็จะไม่ครบองค์ประกอบ
“ขณะนี้เราจึงพยายามมีหนังสือแจ้งลูกหนี้ทั้ง 4 หมื่นกว่ารายให้มาทำบันทึกการยินยอมที่จะงดการบังคับคดี เรามีหนังสือไปแล้ว แจ้งให้ลงข้อมูลในระบบออนไลน์ไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกหนี้มาทำบันทึกการยินยอมน้อยมาก ก็พยายามทำประชาสัมพันธ์ออกข่าว ออกสื่อ ตามเว็บไซต์ต่างๆ และแจ้งให้ลูกหนี้ทราบ ปัญหาคือเวลามีหนังสือจากกรมบังคับคดี ลูกหนี้จะไม่ค่อยอยากรับ ตอนนี้จึงอยู่ในกระบวนการแจ้ง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อให้แจ้งข่าวไปยังลูกหนี้ทั่วประเทศด้วย” รักษาราชการแทน อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าว
@@ จี้ กยศ.เร่งแจ้งยอดหนี้ใหม่ หวั่นกระทบลูกหนี้ถูกยึดเงินเดือน
นายเสกสรร กล่าวอีกว่า ยังมีอีกหลายประเด็นตามกฎหมายใหม่ที่กรมบังคับคดีต้องเร่งหารือกับทาง กยศ. เพื่อสิทธิประโยชน์ของลูกหนี้ เช่น ขอให้ กยศ.เร่งแจ้งยอดหนี้ล่าสุด หลังพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้แต่ละคนตามกฎหมายใหม่ ซึ่งต้องคำนวณใหม่ เพราะจะมีคดีที่กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือนลูกหนี้อยู่ ถ้ามียอดหนี้ใหม่ กรมบังคับคดีก็ต้องการให้ กยศ.แจ้งยอดหนี้ที่เปลี่ยนไปตามกฎหมายใหม่ให้ทราบโดยเร็ว เพื่อทางกรมฯจะนำไปคำนวณหนี้
สมมุติว่าลูกหนี้รายไหนที่ชำระหนี้ครบแล้ว ตามที่คำนวณใหม่ (หากนำเงินที่ชำระทั้งหมดไปหักเงินต้นก่อน ต้นหนี้อาจจะหมดไปแล้ว) ทางกรมบังคับคดีจะได้ถอนการยึด หรือไม่ต้องหักเงินเดือนลูกหนี้ต่อไปเรื่อยๆ เรื่องนี้ถ้ายังช้าอยู่ ก็จะกลายเป็นผลกระทบต่อลูกหนี้จำนวนไม่น้อย
“การดำเนินการนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพราะเมื่อคำนวณยอดหนี้ใหม่ โดยไปตัดเงินต้นก่อน จะทำให้ต้นหนี้หมดเร็ว ถ้าคำนวณแล้วมีการชำระหนี้ครบ เจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะถอนการยึด ถอนการบังคับคดี ผลดีก็จะส่งถึงผู้ค้ำประกัน บางคนถูกยึดทรัพย์ ก็จะหลุดจากความรับผิดไปด้วย”
“อยากฝากถึงลูกหนี้ กยศ. สำหรับผู้ที่ถูกฟ้อง ถูกบังคับคดี ถูกอายัดบัญชีเงินเดือน ไม่ต้องกังวล ขอให้เข้าไปที่สำนักงานบังคับคดีในภูมิลำเนาของท่าน หรือเข้าไปในเว็บไซต์ ลงทะเบียนให้ความยินยอมให้การงดการบังคับคดีไว้ มันก็จะทำตัวลูกหนี้ได้ชะลอกระบวนการที่จะเกิดขึ้นต่อไปทั้งหมดตามกฎหมายใหม่ จากนั้นก็รอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แล้วมาดูว่าตัวยอดหนี้ของเราจะลดลงเหลือแค่ไหน บางคนอาจจะหลุดนี้แล้ว และที่สำคัญผู้ค้ำก็จะหลุดด้วย” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวย้ำ