‘นิพนธ์’ แจงปม ‘มหาดไทย’ มีคำสั่งปลดพ้น ‘นายก อบจ.สงขลา’ หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีไม่อนุมัติเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมรถ 50 ล้านบาท ทำเพื่อรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ไม่มีการทุจริต เชื่อไม่กระทบคุณสมบัติรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย แถลงชี้แจงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งปลดพ้นนายก อบจ.สงขลา กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด คดีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถเอนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้านบาทให้แก่เอกชน กระทั่งมีการยื่นคำร้องต่อองค์กรต่างๆ เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ว่า กรณีดังกล่าวนี้ ตนได้นำเรื่องไปฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคำสั่งกระทรวงมหาดไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง โดยมีเหตุผลในการให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวหลายประการ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนโต้แย้งคำสั่ง ป.ป.ช. ว่า ในคดีนี้ตนไม่ได้ทำผิดตามที่กล่าวหา ป.ป.ช.กล่าวหาว่าตนละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 แห่งรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กล่าวหาว่าตนทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคือกรณีที่ตนไม่ออกเช็คจ่ายค่ารถซ่อมบำรุงของ อบจ. ซึ่งเคยชี้แจงไปแล้วว่า มีบริษัทยื่นหนังสือต่อ อบจ. , ต่อจังหวัดสงขลา และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสงขลา ว่ามีความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุง ที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะดำรงตำแหน่ง ตนจึงได้สั่งตรวจสอบ กระทั่งมีการสั่งระงับการจ่ายเงิน และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และผลสอบกรรมการของ อบจ.ระบุว่า เรื่องนี้ทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูลฯ ซึ่งขณะนั้นบริษัทไปฟ้องศาลในคดีแพ่ง เรื่องยังอยู่ในศาลปกครองสูงสุด ส่วนคดีอาญาสู้ว่าคำสั่ง ป.ป.ช.มิชอบ เพราะยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิด เหตุผลที่ไม่จ่ายเงินเพราะมีการร้องเรียน จึงต้องสอบสวนให้ได้ความจริงเสียก่อนว่ามีการฮั้วประมูลจริงหรือไม่
“บัดนี้ผมเรียนว่า เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด เงินทุกบาททุกสตางค์ยังถูกเก็บอยู่ที่ อบจ.สงขลา เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลผมเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องส่งเรื่องไปให้อัยการ บัดนี้อัยการพิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่า มีข้อไม่สมบูรณ์ 16 หน้า ผลของคดีนี้ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดในคดีอาญาตามที่ ป.ป.ช.กล่าวอ้างว่าตนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และสิ่งที่ตนทำไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน เงินจำนวน 51 ล้านบาทยังถูกเก็บรักษาอยู่ อบจ.สงขลา ขอเรียนว่ามีความพยายามวิ่งเต้นกันมากมายเพื่อให้ตนจ่ายเงิน แต่เพื่อรักษางบประมาณแผ่นดิน ตนไม่ยอมจ่าย จึงเป็นที่มาวันนี้ จะได้ถือโอกาสกราบเรียนรายละเอียดในชั้นศาลต่อไป
รมช.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องไปฟ้องศาลปกครอง ว่า คดีนี้เมื่อ ป.ป.ช.ไม่ได้ชี้ว่าตนได้กระทำการโดยทุจริต ฉะนั้นจะนำข้อเท็จจริงในสำนวน ป.ป.ช.ที่ยังมีข้อไม่สมบูรณ์หลายประเด็น มีลงโทษตนทางวินัยไม่ได้ กระทรวงมหาดไทยจะต้องตั้งกรรมการมาสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติก่อนว่าทำผิดวินัยอย่างไรที่จะใช้ลงโทษ เมื่อไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัย และนำเหตุผลที่ยังไม่มีข้อยุติมาลงโทษ จะถือเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบ
นอกจากนั้น หากจะมีการลงโทษผู้บริหารท้องถิ่นในทางวินัย ต้องลงโทษภายใน 2 ปีนับจากวันที่ครบวาระ คดีนี้ตนได้รับการเลือกตั้งเมื่อสิงหาคม 2556 วาระครบ 4 ปีคือ กรกฎาคม 2560 หากจะสั่งลงโทษวินัย ต้องลงโทษภายในปี 2562 ตามวาระของกฎหมาย พ.ร.บ.จัดตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด แต่กระทรวงมหาดไทยมาลงโทษมิถุนายน 2564 ซึ่งล่วงเลยเวลาแล้ว ตามกฎหมายเมื่อก่อนหากครบวาระต้องมีการเลือกตั้งใหม่ แต่เมื่อมีคำสั่ง คสช.ให้ปฏิบัติต่อเนื่องมา อันนี้ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เคยมีการอภิปรายตนในสภาผู้แทนราษฎร และตนได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเจตนาไปกลั่นแกล้งใคร ที่ทำไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อบจ.สงขลา รักษางบประมาณ ที่เก็บมาจากภาษีประชาชน และบัดนี้เงิน 51 ล้านบาทนี้ยังอยู่ที่ อบจ. หน่วยงานภาครัฐไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด สิ่งที่ทำไป บัดหนี้หลักฐานจาก สภ.เมืองสงขลา และกองปราบฯ จะเห็นชัดเจนว่ามีการทำผิด พ.ร.บ.ฮั้วฯ ปัญหาก็คือเมื่อตนป้องกันคนที่ทำผิด ไม่ให้เบิกเงิน ตนผิดด้วยหรือ นี่คือการรักษาเงินแผ่นดิน ต่อไปนี้ หากถือหลักเกณฑ์นี้ ใครไม่จ่ายเงิน ไม่ว่าสัญญาจะผิดหรือถูก รัฐจะเสียหายมาก และสร้างความสับสนให้กับการบริหารบ้านเมืองอย่างยิ่ง
“ผมพร้อมพูดความจริงในทุกศาล วันนี้ผมเริ่มต้นด้วยการฟ้องคดีเพิกถอนคำสั่งที่ศาลปกครอง วันข้างหน้า ไม่ว่าใครจะไปยื่นคำร้องอย่างไร ผมพร้อมพูดความจริงทุกเรื่องในศาล” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพธ์ กล่าวต่อด้วยว่า ตนน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ น้อมรับการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบต้องอยู่บนพื้นฐานความยุติธรรม เที่ยงธรรมอย่างแท้จริง
“ถามว่าผมมีสปิริตหรือไม่ ผมเนี่ย ถ้าทำผิดจริง ไม่ต้องรอให้ถามหรอกครับ ประชาธิปัตย์เราถือว่าเรื่องนี้เป็นหลักใหญ่ของพรรค ถ้าใครทุจริตก็อยู่ไม่ได้ แต่ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีการทุจริตแม้แต่บาทเดียว กลับเป็นการกระทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อบจ.สงขลา ผลประโยชน์ของแผ่นดิน และป้องกันคนไม่ให้โกงงบประมาณของรัฐ ถ้าวันนี้การทำเพื่อป้องกันการโกง แล้วเป็นความผิด บ้านเมืองเราอยู่กันลำบากครับ” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อคุณสมบัติของความเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ประกอบ มาตรา 98 ซึ่งระบุไว้ชัดว่า ความเป็นรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง หากเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือ ถือว่ากระทำการทุจริต เมื่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทุจริตใด ๆ ทั้งสิ้น คุณสมบัติของการเป็นรัฐมนตรี จึงไม่ได้มีผลกระทบ แต่บุคคลใดจะไปยื่นคำร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ก็พร้อมน้อมรับการตรวจสอบ ให้องค์กรที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาวินิจฉัย
อ่านประกอบ :
-
ยื่น กกต.สอบ 'นิพนธ์ บุญญามณี' ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ปมถูกปลดพ้น อบจ.สงขลา
-
“นิพนธ์” ยื่นศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง มท.1 ปลดพ้น “นายก อบจ.สงขลา”
-
โชว์ชัดๆ คำสั่ง 'บิ๊กป๊อก' ให้ 'นิพนธ์' พ้น นายก อบจ.คดี 157 - เสี่ยงขาดคุณสมบัติ รมต.
-
เปิดครบ! ปมซื้อรถอเนกประสงค์ 50 ล.กล่าวหา‘นิพนธ์’ อบจ.สงขลา-เอกชนร้องกันนัว?
-
โอนสำนวน อบจ.สงขลาร้องเอกชนฮั้วประมูลซื้อรถเอนกประสงค์ 50 ล.ให้ บก.ป.สอบแทน
-
ทวงถามผู้ว่าฯสงขลา อ้างประกาศ มท.ขีดเส้น 30 วันพิจารณาโทษทางวินัย‘นิพนธ์’
-
สนง.อัยการปราบทุจริตฯภาค 9 ตั้งคณะทำงานพิจารณาคดี‘นิพนธ์’-ขีดเส้นเสร็จใน 90 วัน
-
ป.ป.ช.ส่งสำนวน‘นิพนธ์’ถึงมืออัยการฯภาค 9 แล้ว หลังถูกชี้มูลคดีจัดซื้อรถอเนกประสงค์
-
พฤติการณ์ถ่วงเวลา! ป.ป.ช.แจงชี้มูล‘นิพนธ์’-เจ้าตัวสวนแถลงแบบนี้อาจทำ ขรก.สับสน
-
ไม่ได้ละเว้น! ‘นิพนธ์’โชว์หลักฐานจาก ตปท.แจงถูก ป.ป.ช.ชี้มูลไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถเอกชน
-
ป.ป.ช.ชี้มูล‘นิพนธ์’ไม่เบิกจ่ายค่ารถอเนกประสงค์ 50 ล.ให้เอกชน-เจ้าตัวยันไม่ได้ทุจริต
-
รอคดีถึงที่สุดก่อน! ‘นิพนธ์’แจงปมเอกชนทวง อบจ.สงขลาจ่ายค่ารถเอนกประสงค์ 2 คัน 50 ล.
-
เปิดขุมทรัพย์ 3 บ.กลุ่มพลวิศว์คว้าจัดซื้อรถซ่อมถนน 6 อบจ. 219.8 ล้าน
-
บ้านหญิงสาวผู้ถือหุ้น 2 บ.ประกวดราคา'รถซ่อมถนน'อบจ.สงขลา 50.8ล. ซอยเดียวกัน
-
เจาะปมจัดซื้อรถซ่อมถนน อบจ. พิษณุโลก 22.4 ล. ก่อนโผล่ “ขอนแก่น” 28.5 ล้าน
-
ตามไปดูจัดซื้อรถซ่อมถนน อบจ.ฉะเชิงเทรา แค่ 22.4 ล้าน จากเครือพลวิศว์ฯ
-
เปิดหลักฐานมัด!อบจ. ขอนแก่นอ้างอิง“ราคากลาง”ซื้อรถซ่อมถนนจาก 2 บ.กลุ่มเดียวกัน
-
อบจ.ขอนแก่นประกวดราคาซื้อรถซ่อมถนนคันละ 28.5 ล.- พบ 2 จว.แค่ 22.4 ล้าน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage