อดีต‘กตป.’ ร้อง ‘ป.ป.ช.’ สอบ 'ยิ่งลักษณ์-กสทช.' ปมออกไลเซ่นส์ดาวเทียม ‘ไทยคม’ ปี 55

nacc 25 08 21 pic

อดีตกรรมการ ‘กตป.’ ร้อง ‘ป.ป.ช.’ ตรวจสอบ ‘ยิ่งลักษณ์-ครม.-บอร์ด กสทช.-อดีตผู้บริหาร’ กรณีออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมให้ ‘บมจ.ไทยคม’ ปี 55 ชี้อาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย-เอื้อประโยชน์บางกลุ่ม

............................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายประเสริฐ อภิปุญญา อดีตกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของ กสทช. (กตป.) เข้ายื่นหนังสือและเอกสารหลักฐานต่างๆถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมสื่อสารของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ว่า อาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย

ทั้งนี้ หนังสือของนายประเสริฐ ระบุว่า การที่ กสทช. ได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมประเภทที่ 3 เลขที่ 3ก/51/003 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2555 และหมดอายุวันที่ 25 มิ.ย.2575 และแก้ไขเมื่อวันที่ 31 มิ.ย.2563 เลขที่ TEL3/2555/002 ให้ บมจ.ไทยคม โดยอ้างมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มาออกใบอนุญาตนั้น อาจเป็นการออกใบอนุญาตที่พกพร่องและไม่เป็นไปตามกฎหมาย ประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งอาจเข้าข่ายทุจริต ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงสมควรให้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และครม. คณะผู้บริหารสำนักงาน กสทช.ในขณะนั้น ได้แก่ นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และนายก่อกิจ ด่านวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. รวมถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กสท.) และ กสทช. ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ นายประเสริฐ ส่งเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการ กสท. และการประชุม กสทช. ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2555-เม.ย.2557 ให้ ป.ป.ช.เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

นายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า โดยปกติแล้วการออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียม จะต้องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะออกได้ทันที แต่กรณีการออกใบอนุญาตให้กับ บมจ.ไทยคม เมื่อปี 2555 ไม่พบว่ามีการกำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตแต่อย่างใด โดยคณะกรรมการ กสท. และ กสทช. ในขณะนั้น ได้อ้างหลักเกณฑ์อื่นมาเทียบเคียงแล้วออกใบอนุญาตให้กับ บมจ.ไทยคม ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง

“กรณีการประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ เช่น อินเตอร์เน็ต กสทช.ได้ออกหลักเกณฑ์ย่อยมาตลอด แต่พอมาถึงดาวเทียม กลับไม่ออกหลักเกณฑ์ โดยอ้างว่ามีหลักเกณฑ์แม่ที่เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการประเภทที่ 3 และบอกว่ากฎหมายให้ออกได้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วการออกใบอนุญาตดังกล่าว เป็นการออกใบอนุญาตที่มีเงื่อนไข เช่น ต้องมีการออกหลักเกณฑ์ก่อน โดยเฉพาะกิจการดาวเทียมสื่อสาร ซึ่งต้องมีการใช้คลื่นความถี่” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า การที่ กสทช.ออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมให้แก่ บมจ.ไทยคม เพื่อดำเนินกิจการดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 พบว่า มีการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับบทเฉพาะการของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ในมาตรา 80 ที่ระบุว่า กรณีที่เอกชนมีสัมปทานกิจการดาวเทียมอยู่แล้ว ให้ กสทช. ออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมให้ได้ แต่ต้องไม่เกินอายุสัมปทานที่มีอยู่

แต่ปรากฏว่าใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมที่ กสทช. ให้กับ บมจ.ไทยคม กลับมีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดใบอนุญาตในเดือน มิ.ย.2575 ในขณะที่สัมปทานดาวเทียมของ บมจ.ไทยคม จะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 10 ก.ย.2564 จึงทำให้เกิดปัญหาว่าดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 เป็นดาวเทียมภายใต้สัมปทานหรือดาวเทียมภายใต้ระบบใบอนุญาต ซึ่งทราบว่าขณะนี้ กสทช. และบมจ.ไทยคม กำลังฟ้องร้องเรื่องนี้กันในศาลปกครอง

นอกจากนี้ กรณีการจัดสรรใบอนุญาตคลื่นความถี่หรือสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้น พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ กำหนดให้ต้องมีการเปิดประมูล แต่ กสทช.กลับออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมให้ บมจ.ไทยคม โดยไม่เปิดประมูลได้อย่างไร

“วันนี้ กสทช. ออกหลักเกณฑ์และเปิดประมูลใบอนุญาตฯดาวเทียม แต่ก่อนหน้านั้น กสทช.บอกว่า ไม่ต้องมี ซึ่งจะเห็นได้เขาทำอะไรไม่ตรงกับสิ่งที่เคยพูดไว้เมื่อปี 2555” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า หลังจากเข้ายื่นหนังสือให้กับ ป.ป.ช. ในวันนี้แล้ว ตนพร้อมให้ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช.ทุกเมื่อ

nacc 25 08 21 1