พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่น ป.ป.ช.ไต่สวน ‘พล.อ.ประยุทธ์’ กล่าวหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ-ขัด รธน.-ผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมออกข้อกำหนดฯ ฉ.29 จำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็นสื่อ-ประชาชน ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้ว
.........................................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขอให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จากการออกข้อกำหนด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 29 ละเมิดเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2564 ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มคราวชั่วคราวแล้ว
โดยหนังสือร้องเรียนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน สรุปได้ว่า การออกข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 29 มีเจตนาพิเศษหรือมูลเหตุจูงใจเพื่อเป็นการปิดกั้นหรือจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปในการใช้เสรีภาพของตน ทั้งการออกข้อกำหนดฉบับดังกล่าวที่ให้ระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตของบุคคลเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และเข้าข่ายกระทำความผิดอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองของตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
นอกจากนี้ การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ ยังเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ซึ่งให้นำมาใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาและคณะรัฐมนตรีด้วย ตามข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 12 และข้อ 13
จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 234 มาตรา 235 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28 (1) ต่อไป
อ้างอิงเนื้อหา และภาพจาก : https://www.thaipost.net/
อ่านประกอบ :
สื่อชนะยกแรก! ศาลสั่งคุ้มครองข้อกำหนดฯ ฉ.29 ชี้ขอบเขตกว้าง-ลิดรอนเสรีภาพ ปชช.
นัดฟังคำสั่งไต่สวนฉุกเฉิน 6 ส.ค.! คดีสื่อ-ปชช.ฟ้องข้อกำหนดฯ ฉ.29 ขัด รธน.
เชิญผู้บริหารสื่อถก! รมว.ดีอีเอสลั่นคำสั่งนายกฯเน้นเอาผิด‘สื่อเทียม’ตั้งใจบิดเบือน
บัญญัติคลุมเครือ-ขัด รธน.! สื่อ-ปชช.ฟ้องศาลแพ่งเพิกถอนคำสั่งนายกฯให้ กสทช.ตัดเน็ต
‘นพ.ประวิทย์’ชี้คำสั่งนายกฯเลี่ยงบาลีให้ สนง.กสทช.ดูเฟกนิวส์ทั้งที่ กม.ไม่ให้อำนาจ
อาจารย์วารสาร มธ.ร่วมออกแถลงการณ์ จี้ รบ.ยกเลิก พรก.จำกัดความเห็นสื่อ-ปชช.
ปิดกั้นเสรีภาพสื่อ-ปชช.! แถลงการณ์‘เพื่อไทย & ก้าวไกล’จี้เลิกคำสั่งนายกฯ ฉ.29
70 คณาจารย์นิติฯทั่ว ปท. แถลงยัน‘บิ๊กตู่’ไร้อำนาจออกกฎห้ามสื่อ-ปชช.แพร่ข่าว-ขัด รธน.
‘บิ๊กตู่’ยกระดับคุม!ห้ามเสนอข่าวให้คนหวาดกลัว สั่ง กสทช.ตรวจสอบ-ระงับไอพีทันที
6 องค์กรสื่อฯ จี้รัฐทบทวนข้อกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินกระทบต่อเสรีภาพ
แถลงการณ์ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จี้รัฐยกเลิกจำกัดเสรีภาพสื่อ-ประชาชน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage