วิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ได้โชว์เดี่ยวบนเวทีของสื่อเครือเนชั่น ที่ พารากอนฮอลล์ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 22 ส.ค.67 ในงาน Dinner Talk: Vision for Thailand นั้น
มุมวิเคราะห์ว่าด้วย “ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย” ซึ่งหลายสื่อและหลากหลายนักวิเคราะห์เปิดประเด็นนี้ทันทีตั้งแต่ได้เห็นชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยนั้น
ความรุนแรงจากการลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงเคลื่อนไหวปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่กำลังผสมหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี ในการเปิดยุทธการบ้านคลองช้าง ในพื้นที่ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเวลารวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.67 – 1 ส.ค.67 นั้น มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย
ยุทธการบ้านคลองช้าง กลืนชีวิต “จ่าทหาร” ไปแล้ว 1 นาย ร้อยโทบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย และอาสาสมัครทหารพราน บาดเจ็บไม่มากนักอีก 1 นาย แต่ปฏิบัติการยังไม่จบ
การออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” สหชัย เจียรเสริมสิน โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ในคดีสั่งการให้ขโมยเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลาง ซึ่งมีการแถลงใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.67 นั้น
ข่าวคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชายแดนใต้ออกไปอีก 3 เดือนรอบนี้ มีข้อมูลน่าสนใจ
หลังจากที่รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีแนวทางที่จะยุติความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการตกลงพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ “อย่างเปิดเผย” ภายใต้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข
เหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง กับเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ล่าสุด เมื่อช่วงสายของวันที่ 30 มิ.ย.67 ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา ซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านพักตำรวจ สภ.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
แม้จะยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก.ว่า เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่อยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ เป็นของ ”เสี่ยโจ้ ปัตตานี“ จริงหรือไม่