คนพื้นที่เชื่อปมสังหาร “อส.มาหามะรอสดี” เหตุครอบครัวเคยช่วยงาน “ผกก.สมเพียร” เผยพ่อ อส.ก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ตามด้วยพี่เขยซึ่งเป็น อส.เช่นกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสขบวนการแบ่งแยกดินแดนเดินหน้ากำจัดชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือฝ่ายรัฐ
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบยิง อส.มาหามะรอสดี กาจะลากี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ประจำอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิต ขณะอยู่ในช่วงลาพัก เหตุเกิดในท้องที่บ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงสายของวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.68 โดยคนร้ายได้นำปืนพกสั้น 9 มม. ของผู้ตายไปด้วย จำนวน 1 กระบอกนั้น
หลังเกิดเหตุ “ทีมข่าวอิศรา” ได้ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านใน อ.บันนังสตา โดยเฉพาะ ต.บาเจาะ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อส.มาหามะรอสดี เป็น อส.ที่มีชีวิตประจำวันเหมือนชาวบ้านทั่วไป หาเช้ากินค่ำ รักครอบครัว ขยันทำงาน หาเลี้ยงดูแลครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ
ฉะนั้นเหตุจูงใจที่คาดว่าทำให้คนร้ายมาก่อเหตุยิงจนเสียชีวิต เพราะ อส.มาหามะรอสดี เป็นหนึ่งในครอบครัวที่เคยทำงานช่วยเหลือ “จ่าเพียร” หรือ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิดและซุ่มโจมตีจนเสียชีวิต เมื่อ 12 มี.ค.53 คาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ขึ้นบัญชีดำคนที่สนับสนุนการทำงานของ “จ่าเพียร” และค่อยๆ ลอบสังหารมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
@@ บิดาโดนก่อน ตามด้วยพี่เขย
สำหรับครอบครัวของ อส.มาหามะรอสดี ถือเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ช่วยงาน “จ่าเพียร” มาตั้งแต่สมัยบิดา และก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต จากนั้นก็มีอีกหลายคนที่เป็นคนในครอบครัวถูกยิงเสียชีวิตด้วยเหตุผลเดียวกัน
ข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งขึ้นก็คือ ในพื้นที่บ้านบาเจาะ หมู่ 2 แห่งเดียวกับที่เกิดเหตุยิง อส.มาหามะรอสดี ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุยิง อส.เสียชีวิต 1 ราย คือ นายหมู่ใหญ่ มะตอเพาะ มิง อายุ 49 ปี เป็น อส.ชุดคุ้มครองตำบลบาเจาะ (ชคต.บาเจาะ) ถูกคนร้ายยิงระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากฐาน ชคต.บาเจาะ เพียง 500 เมตร
จากการตรวจสอบเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ทราบว่า อส.มะตอเพาะ ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปลายปีที่แล้ว แท้ที่จริงก็เป็น “พี่เขย” ของ อส.มาหามะรอสดี
@@ อดีตทีมงาน “จ่าเพียร” ถูกไล่ล่า
สมมติฐานการตามเก็บคนที่เคยช่วยงาน “จ่าเพียร” นี้ ชาวบ้านในพื้นที่ให้น้ำหนักอย่างมาก เพราะ พล.ต.อ.สมเพียร เป็นตำรวจที่ต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ และกลุ่มที่มีความคิดแบ่งแยกดินแดนอย่างเฉียบขาด เคยจับกุมและวิสามัญฯ ผู้ก่อความไม่สงบคนสำคัญๆ ไปหลายราย จึงถูกหมายหัวแก้แค้น และทำสำเร็จด้วยการซุ่มโจมตีและลอบวางระเบิดรถยนต์เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 15 ปีที่แล้ว
นับจากนั้น กลุ่มคนที่เคยช่วยงาน พล.ต.อ.สมเพียร หรือ “จ่าเพียร” ก็ถูกตามล่าสังหารมาตลอด แม้เวลาจะผ่านมานานเป็นสิบปีแล้วก็ตาม โดยจากการรวบรวมสถิติย้อนหลัง พบว่า กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับ “จ่าเพียร” ถูกโจมตี ลอบยิง ลอบวางระเบิดมาแล้วเกือบๆ 10 ครั้ง และเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย
@@ ย้อนเหตุลูกน้อง ผกก.สมเพียร ตกเป็นเป้าก่อเหตุ
18 พ.ค.50 คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของ นายดอเลาะ เซ็งมะสู หรือ “ผู้ใหญ่เลาะ ตะโล๊ะเว” คนสนิทของ “จ่าเพียร” เหตุเกิดบริเวณบ้านอุเบง ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้นายดอเลาะ และนายมะอูเซ็ง สะแปอิง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้รับบาดเจ็บ
25 ส.ค.54 คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่บ้าน ผู้ใหญ่เลาะ ตะโล๊ะเว ในพื้นที่บ้านตะโล๊ะเว ต.ปะแต อ.ยะหา ทำให้สมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นลูกหลานของผู้ใหญ่เลาะ เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย
5 ก.ค.56 คนร้ายลอบวางระเบิด นายจักร ไกรทอง อส.ประจำอำเภอธารโต จ.ยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา โดย อส.จักร เป็นอดีตทีมงานผู้กำกับสมเพียร
3 ก.ค.59 คนร้ายลอบวางระเบิดและใช้อาวุธสงครามยิง นายมะยูดิง กูเต๊ะ จนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่บ้านบือซู ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา โดย นายมะยูดิง ก็เป็นลูกน้องอดีตผู้กำกับสมเพียร
25 เม.ย.62 คนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิง นายอัมรี กูเต๊ะ เสียชีวิต ในพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดย นายอัมรี เป็นลูกชายของนายมะยูดิง ที่ถูกยิงเสียชีวิตไปก่อนแล้ว
23 ต.ค.67 คนร้ายนับสิบคนบุกปล้นปืนในบ้านของ นายอาแว ดาโอ๊ะ ในพื้นที่บ้านกาโสด ต.บันนังสตา โดย นายอาแว เป็นอดีตคนสนิทของอดีตผู้กำกับสมเพียร
19 ธ.ค.67 คนร้ายยิง นายหมู่ใหญ่ มะตอเพาะ มิง อายุ 49 ปี เป็น อส.ชคต.บาเจาะ เสียชีวิตในพื้นที่ บ้านบาเจาะ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา โดย อส.มะตอเพาะ เป็นอดีตทีมทำงานและชุดไล่ล่าของอดีตผู้กำกับสมเพียร
11 เม.ย.68 คนร้ายลอบยิง อส.มาหามะรอสดี กาจะลากี เสียชีวิต ในท้องที่บ้านบาเจาะเช่นกัน โดย อส.มาหามะรอสดี เป็นน้องเมียของ อส.มะตอเพาะ
@@ ผวาแผนเช็คบิลคนให้ความร่วมมือกับรัฐ
นอกจากนี้ยังพบว่า ในพื้นที่มีกระแสข่าว ทางกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนมีนโยบายจัดการชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนที่ทำงานให้ความร่วมมือกับรัฐ ซึ่ง อส. ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการแจ้งเตือนด้วย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่า เหตุจูงใจของการเกิดเหตุน่าจะมาจาก 2 ประเด็นนี้แน่นอน
เสียงจากชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า แม้พวกตนจะไม่เห็นด้วยกับกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ แต่ก็เรื่องยากที่จะทำอะไรได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เองก็ยังถูกโจมตี เสียชีวิตรายวัน ชาวบ้านจึงต้องทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไป