เหตุการณ์ สจ. ลูก สส.คนดัง ส่งซิกให้ลูกน้องรุมตื้บ ตชด.ที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในหน่วยเลือกตั้ง กำลังกลายเป็น “ความกร่าง” ที่ถูกขุดหาเบื้องหลัง
นายกฯแพทองธาร ประชุมแก้ปัญหาไฟใต้ 2 วันต่อเนื่องกัน โดยได้พบกับผู้นำสูงสุดของหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมถึงฝ่ายการเมือง นำโดย รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย
แน่นอนว่า การจัดการปัญหาระยะเฉพาะหน้าของสถานการณ์ชายแดนใต้ ณ วันนี้ คือหยุดเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้าทำร้ายประชาชนกลุ่มอ่อนไหว-เปราะบาง โดยเฉพาะพี่น้องไทยพุทธ ให้ได้เสียก่อน
ความรุนแรงของเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงตั้งแต่ปักษ์หลังของเดือน เม.ย.68 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมุ่งเป้ากระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะสามเณร ชาวบ้านไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็น “กลุ่มอ่อนไหว – เปราะบาง” จนหลายฝ่ายออกมาประณาม
แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับเองจากการให้สัมภาษณ์ว่า เหตุร้ายชุดใหญ่ที่พุ่งเป้าทำร้าย “เป้าหมายอ่อนแอ” คือเหตุยิงอดีตอุสตาซ ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 เม.ย.68
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุกราดยิงชาวบ้านในชุมชนไทยพุทธ พื้นที่บ้านปลักปลา หมู่ 5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 2 พ.ค.68 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย หนึ่งในนั้นคือเด็กหญิงวัยเพียง 8-9 ขวบ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย หนึ่งในสองคือบิดาของเด็กหญิงนั้น
ศึกตำรวจชายแดนใต้ยังไม่จบ หลังมีคำสั่งย้ายอดีตผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส ออกจากตำแหน่งแบบขาดจากตำแหน่งเดิม โดยอ้างเหตุระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” บริเวณกำแพงรั้วแฟลตตำรวจของโรงพัก และเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นอีกหลายครั้งในพื้นที่ เข้าข่ายปล่อยปละละเลย
“เหตุการณ์นี้มันรุนแรงมาก มันร้ายแรงกับครอบครัวกับพระพุทธศาสนามากเลย”
เหตุรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นถี่ยิบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ ยังมองไม่เห็นว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะแก้ไขกันอย่างไร นอกจากสั่งยกระดับมาตรการ รปภ.เหมือนที่เคยๆ ทำ แล้วอีกสักพักก็ลืมๆ กันไป
การพูดแนว “จุดพลุ” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เล่าว่าตนเองเคยแอบคิดว่า ปลายทางของการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ “เขตปกครองพิเศษ” ในโมเดล “มณฑลซินเจียง” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือไม่นั้น