ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ ช่วงที่มีใบปลิวข่มขู่พี่น้องมุสลิมที่ทำงานให้รัฐกำลังระบาดหนักในพื้นที่ ปรากฏว่าเป็นช่วงที่มี “คดีตากใบ” เป็นประเด็นขึ้นมาพอดี
ความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ มีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับใบปลิวข่มขู่คนมุสลิมที่ทำงานให้รัฐ
มีข้อมูลคดีตากใบที่สมควรต้องบันทึกไว้
9 ส.ค.67 มีระเบิดในรูปแบบ “คาร์บอมบ์” เกิดขึ้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่ธรรมดา แมัจะไม่ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมากมายนักก็ตาม
ควันหลงการพบปะกันระหว่าง นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ของไทย กับ นายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ที่สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ฝั่งไทย และเมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ฝั่งมาเลย์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน มีแต่ข่าวและภาพข่าวแห่งความชื่นมื่นกับมิตรภาพปรากฏออกมา
กอ.รมน.เปิดข้อมูล 3 ศพ “กลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย” เสียชีวิตในยุทธการบ้านคลองช้าง มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 คน ส่วนอีก 1 เป็นแนวร่วม เจออาวุธสงคราม พร้อมปืนพกรวม 4 กระบอก ฉก.ทหารพรานสั่งเฝ้าระวังกิจกรรมแห่ศพ เตือนอาจมีปฏิบัติการตอบโต้
ปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ “แนวป่า” กลางทุ่งโล่ง หรือป่าละเมาะขนาดใหญ่ โดยใช้เวลาติดต่อกันหลายๆ วัน และมักมีความสูญเสียเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายนั้น ฝ่ายความมั่นคงเคยเปิดยุทธการมาแล้วหลายครั้ง
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ ต้องบอกว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะ...
“คดีตากใบ” ที่ศูนย์ทนายความมุสลิมพาชาวบ้านผู้เสียหาย ซึ่งเป็นญาติและครอบครัวของผู้สูญเสีย ยื่นฟ้องคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ก่อนหมดอายุความเพียงไม่กี่เดือนนั้น เดินทางมาถึงจุดสำคัญแห่งคดี
จากข่าวดังที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ กรณีเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณหลังศาลารอรถประจำทางใกล้ร้านของชำแยกนาเกตุ หมู่ 1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.67 ที่ผ่านมา