เลขาธิการ กพฐ. ทำหนังสือแจ้ง ป.ป.ช. มีคำสั่งลงโทษไล่ออกราชการ 'ลภาภัทร พลสิทธิ์' อดีต ผอ.รร.บ้านศาลเจ้าพ่อ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คดีทุจริตสร้างห้องน้ำเบิกงบซ้ำซ้อนแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางวินัยและสั่งดำเนินคดีอาญา 'นางลภาภัทร พลสิทธิ์' รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 3 กรณี เบิกงบก่อสร้างห้องน้ำซ้ำซ้อน ทั้ง ๆ ที่ได้รับบริจาคมาจากภาคเอกชนอยู่แล้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านศาลเจ้าพ่อ อ.วังน้ำเขียวจ.นครราชสีมา โดยอัยการได้มีคำสั่งฟ้องในความผิดฐาน 'เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์' ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งหลังจากถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางวินัยแล้ว นางลภาภัทร ได้ยื่นอุทธรณ์ให้ทบทวนมติอีกครั้ง ก่อนที่ ป.ป.ช. มีมติไม่ทบทวนมติเดิม และแจ้งผลไปที่ถึงเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทำหนังสือถึง ป.ป.ช. เรื่องวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ นางลภาภัทร พลสิทธิ์ เป็นทางการแล้ว
ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงาน ป ป ช. ภาค 3 ได้แจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมทางวินัย นางลภาภัทร พลสิทธิ์ ตามมติเดิม ความสะเอียดแจ้งแล้วนั้น
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอเรียนว่า ได้รายงานการดำเนินการทางวินัยนางลภาภัทร พลสิทธิ์ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ. ) เพื่อพิจารณา ตามมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยและการออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2561 ซึ่ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ (ที่ทำการแทน ก.ค.ศ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565
ได้พิจารณาและมีมติลงโทษไล่นางลภาภัทร พลสิทธิ์ ออกจากราชการ จึงได้มีคำสั่งลงโทษนางลภาภัทร พลสิทธิ์ ตามมติดังกล่าว
ในหนังสือดังกล่าว ระบุด้วยว่า อนึ่ง ถ้าผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 หรือจะฟ้องเป็นคดีต่อศาลปกครอง ภายในกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่ถูกลงโทษโดยไม่ต้องอุทธรณ์ ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรานปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
อ่านเพิ่มเติม: