สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มี 2 ปัญหาใหญ่ คือ
หนึ่ง เหตุรุนแรงที่เกิดต่อเนื่องมานานกว่า 18 ปี หรือเกือบ 2 ทศวรรษ และยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง
สอง ปัญหาข้าราชการในพื้นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหา พูดง่ายๆ คือ “ส่งคนไม่ดีลงพื้นที่ไปสร้างเงื่อนไข” ทั้งทุจริตคอร์รัปชั่น ละเมิดสิทธิมนุษชน ทำให้ปัญหาวนกลับไปที่ข้อ 1 คือ เกิดความรุนแรงตอบโต้ และแก้ไขไม่ได้ เป็นวงจรอยู่แบบนี้
เรื่องการส่ง “ข้าราชการไม่ดี” หรือ “มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม” ลงไปทำงานในพื้นที่แล้วเกิดปัญหา สะท้อนผ่าน 2 เหตุการณ์สำคัญ คือ
1.การที่ผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นของอำเภอหนึ่งใน จ.นราธิวาส ชุมนุมขับไล่นายอำเภอ โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เมื่อเดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา สุดท้ายต้องย้ายไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง ต่อมากรมการปกครองจะส่งกลับมาเป็นนายอำเภออีกอำเภอหนึ่งของนราธิวาส ก็เจอแรงต้านจนไม่สามารถย้ายกลับมาได้
2.กรณีผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. โดนออกหมายจับคดีเกี่ยวพันกับบ่อนพนันออนไลน์ และสมัยเป็นนายอำเภอ ก็ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนให้กับบุคคลที่ถูกตั้งข้อสงสัยเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติด กรณีหลังนี้ ศอ.บต.ส่งตัวกลับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
จากปัญหาทั้ง 2 กรณี ทำให้ ศอ.บต.เสนอรัฐบาล ให้เน้นย้ำมาตรการ “ส่งคนดีลงใต้” โดยเพิ่งเสนอรักษาการนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เพิ่งลงพื้นที่นราธิวาส เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมานี้เอง
ท่ามกลางกระแสเรียกร้อง “ส่งคนดีลงใต้” ปรากฏว่า เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์ข้อมูลว่า “ป.ป.ช.สั่งฟันวินัยร้ายแรง ผอ.กินส้วม แต่ยังลอยนวลได้เป็น รอง ผอ.สพป.ปัตตานี”
คำว่า “ผอ.กินส้วม” เป็นศัพท์ของเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน หมายถึงเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.61 โรงเรียนบ้านศาลเจ้าพ่อ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีเอกชนบริจาคเงิน 250,000 บาท สำหรับสร้างห้องน้ำห้องส้วม 10 ห้อง แต่หลังจากทำพิธีส่งมอบไปแล้ว คล้อยหลังไปไม่กี่เดือน ผอ.โรงเรียนก็ทำโครงการขอเบิกงบ 129,300 บาท สร้างห้องส้วมขึ้นมาอีกรอบ จนเป็นที่มาของการขนานนาม “ผอ.กินส้วม”
เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ยังระบุอีกว่า หลังเกิดเรื่อง ป.ป.ช.ได้เข้าตรวจสอบและชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องรวม 3 คน ประกอบด้วย ผอ.โรงเรียน และครูอีก 2 คน โดยทางวินัยให้รอคำสั่งจากต้นสังกัด ส่วนทางอาญา อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และแจ้งไปยัง ป.ป.ช.เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ให้นำตัว ผอ.กับพวกไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ในวันที่ 6 ต.ค.ที่จะถึงนี้
แต่อีกด้านหนึ่ง กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งเมื่อเดือน เม.ย.65 ให้ปลดครูที่ดูแลด้านการเงิน และยังเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินของโรงเรียนออกจากราชการ ส่วน ผอ.ให้ย้ายลงใต้ ปัจจุบันลอยนวลเป็น รอง ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 หมายถึง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปัตตานี เขต 3
หลังมีข่าวในเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน “ทีมข่าวอิศรา” ได้ตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ จ.ปัตตานี พบว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกขนานนามว่า “ผอ.กินส้วม” นั้น ดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 จริง โดยพบการเคลื่อนไหวมีชื่อเข้าร่วมประชุมวาระต่างๆ ตั้งแต่ปี 64 ที่ผ่านมา
ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 สอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับสาย ได้รับคำยืนยันว่า อดีต ผอ.โรงเรียนที่เคยตกเป็นข่าว ได้มาดำรงตำแหน่ง เป็น รอง ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 จริง ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.64 และยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่จนถึงปัจจุบัน
@@ แจงสอบเลื่อนตำแหน่งมา - คดียังไม่จบ
ทางด้านนายบุญล้อม โสภาพรม ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 กล่าวถึงข่าวอดีต ผอ.ที่ถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตงบก่อสร้างส้วม ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบว่า เจ้าตัวสอบเลื่อนตำแหน่งได้มาบรรจุในพื้นที่นี้ เมื่อเดือน ต.ค.64 กำลังจะครบ 1 ปี
ส่วนเรื่องคดีอาญาและวินัย ได้ดำเนินการมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่สิ้นสุด เมื่อยังไม่สิ้นสุด หน่วยงานของตนในฐานะปลายทาง ก็จะถือว่ายังอยู่ในกระบวนการที่จะต้องพิสูจน์กัน เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ
สำหรับการปฏิบัติงานของอดีต ผอ.ที่ตกเป็นข่าว ก็ให้อยู่ในกรอบ ในขอบข่าย ในบทบาทหน้าที่ โดยให้ทำหน้าที่เหมือนคนที่ต้องคดีทั่วไป คือก็ให้ทำงานตามหน้าที่ แต่ก็เฝ้าระวังไม่ให้เกิดความผิดซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก และเมื่อคดีสินสุดเมื่อไหร่ ผลออกมาอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ช่วงนี้เราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปดำเนินการนอกเหนือจากข้อกฎหมายที่กำหนดไว้
นายบุญล้อม ยังบอกด้วยว่า ขอเตือนสติในเรื่องของการทุจริตการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ใครก็ช่วยไม่ได้ ส่วนจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางกฎหมาย
สำหรับกรณีอดีต ผอ.โรงเรียนคนนี้ ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้ย้ายมา แต่สอบเลื่อนตำแหน่งมา จึงสามารถตอบสังคมได้ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การหนีความผิดจากที่หนึ่งมาอยู่อีกที่หนึ่ง ยอมรับว่า ส่วนตัววิตกกับข่าวที่เกิดขึ้น
ทีมข่าวได้พยายามติดต่ออดีต ผอ.โรงเรียนที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาทุจริตเงินสร้างส้วม ปรากฏว่าโทรติด แต่เจ้าตัวไม่รับสาย
@@ รู้ปัญหาร้อยปี ยังมี “ขรก.ไม่ดี” ลงใต้
ด้านความคืบหน้าการออกมาตรการ “ส่งคนดีลงใต้” นายชนธัญ แสงพุ่ม หรือ “ดร.เจ๋ง” รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ได้เห็นชอบตามแนวทางที่ ศอ.บต.เสนอแล้ว
ขณะนี้ อนุกรรมการกำลังจัดทำ “หลักเกณฑ์และแนวทางการคัดเลือกข้าราชการ” เพื่อเป็นข้อเสนอให้ทุกส่วนราชการนำไปใช้ปฏิบัติ โดยจะออกเป็นมติครม. ในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า
จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่า นโยบาย “ส่งคนดีลงใต้” เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง ความรุนแรง และการแบ่งแยกดินแดน มีมาตั้งแต่รัชสมัย “ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6” เมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว เรียกว่า “รัฐประศาสโนบาย” ขณะที่ในรัชสมัยของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 ก็ทรงมียุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”
แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า ผ่านมากว่า 100 ปี ยังคงมีการส่งข้าราชการที่มีพฤติกรรมไม่ดี หรือถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่ดี ลงไปทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง