"...จากการดำเนินการเพื่อจัดซื้อสารเคมีดังกล่าวได้มีการนำข้าราชการในจังหวัดอุบลราชธานีไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยมีนายพยม ธารีชาญ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ประสานงาน และนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายมีการโอนเงินจากเอกชนกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายให้แก่ นายวิชิต ชาตไพสิฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9,700,000 บาท และมีการโอนเงินจากเอกชนกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล ให้แก่ นางนฤมล มะลิวัลย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,251,000 บาท..."
คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่ที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนนับร้อยคน ก่อให้เกิดความเสียหายเงินงบประมาณรัฐนับพันล้านบาท
หากสาธารณชนยังจำกันได้ ในช่วงเดือน พ.ย.2565 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวไปแล้วว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3 สำนวน คือ
1. คดีกล่าวหา นายวิชิต ชาตไพสิฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ร่วมกันทุจริตในการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในท้องที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554
2. คดีกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกับพวก ทุจริตการจัดซื้อสารเคมีเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554
3. คดีกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ร่วมกันทุจริตในการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในอำเภอสิรินธร และอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554-2555
โดยคดีแรก คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 49 ราย คดีสอง มีมติชี้มูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 89 ราย คดีที่สาม มีมติชี้มูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 41 ราย
รวมจำนวนผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลทั้ง 3 คดี 179 ราย
หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป ยังไม่มีข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่าผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลเป็นอย่างไร
แต่ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีนี้เป็นทางการ พบว่า มีจำนวน 5 สำนวน ขณะที่พฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มีข้อมูลใหม่ว่า ในการดำเนินการเพื่อจัดซื้อสารเคมีดังกล่าวได้มีการนำข้าราชการในจังหวัดอุบลราชธานีไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกงและสิงคโปร์ รวมไปถึงเส้นทางการโอนเงินจากกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่รัฐด้วย
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
@ 5 สำนวนคดี
1. เรื่องกล่าวหา นายวิชิต ชาตไพสิฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ร่วมกันทุจริตในการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในท้องที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และ 2554
2. เรื่องกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ทุจริตจัดซื้อจัดหาสารเคมีเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดโรคและศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านพืชและศัตรูพืช ในท้องที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
3. เรื่องกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกับพวก ทุจริตการจัดซื้อสารเคมีเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ด้านพืช) ของอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554
4. เรื่องกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ร่วมกันทุจริตในการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในอำเภอสิรินธร และอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 – 2555
5. เรื่องกล่าวหา นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก ทุจริตการจัดซื้อจัดหาสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืชและศัตรูพืช) ในท้องที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555
@ พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2555 นายวิชิต ชาตไพสิฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (ปี พ.ศ. 2553) และนายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (ปี พ.ศ. 2554 - 2555) ได้ประกาศภัยพิบัติโรคพืช ประกอบด้วยโรคพืชในข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง ในพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสิรินธร อำเภอเขมราฐ และอำเภอเมืองอุบลราชธานี ทั้งที่โรคพืชตามประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินดังกล่าว มิได้เกิดการระบาดรุนแรง เป็นการเกิดขึ้นตามปกติของฤดูกาลเพาะปลูกเท่านั้น และบางพื้นที่มิได้มีการเพาะปลูกพืชตามที่ประกาศว่าเกิดการระบาดฉุกเฉินแต่อย่างใด ดังนี้
อำเภอเขมราฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 1 ครั้ง และปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 7 ครั้ง
อำเภอเมืองอุบลราชธานี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 2 ครั้ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 12 ครั้ง และปีงบประมาณ 2555 จำนวน 7 ครั้ง
อำเภอพิบูลมังสาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 1 ครั้ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 1 ครั้ง และปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 3 ครั้ง
อำเภอสิรินธร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 1 ครั้ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 9 ครั้ง และปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 7 ครั้ง
ในการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน มีการกำหนดพื้นที่ความเสียหาย ชนิดสารเคมี ราคาสารเคมีจำนวนสารเคมีที่จะต้องซื้อ และหลังการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว นายวิชิต ชาติไพสิฐ และนายสุรพล สายพันธ์ ได้มีคำสั่งจัดสรรเงินทดรองราชการ รวมทั้งสิ้น 1,229,335,050 บาท พร้อมกับมอบอำนาจและสั่งการไปยังอำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสิรินธร อำเภอเขมราฐ และอำเภอเมืองอุบลราชธานี เพื่อให้จัดซื้อสารเคมีดังกล่าวจากเอกชนผู้ประกอบการในกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล โดยสารเคมีที่สั่งการให้จัดซื้อนั้น มีราคาสูงกว่าท้องตลาดในขณะที่เกิดเหตุ ประมาณ 5.7 - 10 เท่า
ทั้งที่ คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) ยังมิได้ทำการสำรวจความเสียหาย และความต้องการรับความช่วยเหลือและกำหนดแนวทางการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ กรณีจึงเป็นการมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมคู่มือการปฏิบัติงานระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0406.3/29917 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,229,335,050 บาท
นอกจากนี้ ยังปรากฏพยานหลักฐานว่าจากการดำเนินการเพื่อจัดซื้อสารเคมีดังกล่าวได้มีการนำข้าราชการในจังหวัดอุบลราชธานีไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยมีนายพยม ธารีชาญ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ประสานงาน และนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายมีการโอนเงินจากเอกชนกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายให้แก่ นายวิชิต ชาตไพสิฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9,700,000 บาท และมีการโอนเงินจากเอกชนกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล ให้แก่ นางนฤมล มะลิวัลย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,251,000 บาท
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
1. การกระทำของ นายวิชิต ชาตไพสิฐ (ปีงบประมาณ 2553) มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
2. การกระทำของนายสุรพล สายพันธ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
3. การกระทำของนางนฤมล มะลิวัลย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (1) (4) ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
4. การกระทำของนายพยม ธารีชาญ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157และมาตรา 162 (1) (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 162 (1) (4) ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
5. การกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและอำเภอ มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดวินัย หรือข้อกล่าวหาตกไป ตามแต่พฤติการณ์แห่งกรณี
6. การกระทำของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว
7. การกระทำของกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
สำหรับการดำเนินการทางอาญา ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1)
การดำเนินการทางวินัย ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (2) และมาตรา 98 การดำเนินการอื่น ๆ แจ้งผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนหรือผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย และให้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริษัท โชครับทรัพย์อนันต์ จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด นำทรัพย์เจริญ , ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. ศุภฤกษ์ , ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชติชนิด , ห้างหุ้นส่วนจำกัดเมืองเลย เพิ่มทรัพย์รุ่งเรือง , ห้างหุ้นส่วนจำกัด รับทรัพย์รุ่งเรือง , บริษัท มินถาพร จำกัด ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงศ์พิชกาฬสินธุ์ และห้างหุ้นส่วนจำกัด นัติชดา ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
เหล่านี้ คือ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดี 2 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และพวก ในคดีจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี วงเงินความเสีหาย 1,229,335,050 บาท ฉบับเต็มที่ยังไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นทางการมาก่อน ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลล่าสุด
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
อ่านประกอบ:
- EXCLUSIVE : ผลสอบลับคดีจัดซื้อยาฆ่าแมลงอุบลฯ เชิดผู้ขาย 10 ราย สมรู้ร่วม 'ฮั้ว' จนท.รัฐ
- EXCLUSIVE(2): เบื้องหลังซื้อยาฆ่าแมลงอ.เขมราฐ -จนท.'อุปโลกน์' ภัยพิบัติ-จัดฉากฮั้วประมูล
- EXCLUSIVE(3) :เสมียนตราอ.นาตาล 'คีย์แมน' จัดฉากซื้อยาฆ่าแมลง-ปลอมชื่อ 'เกษตรกร' รับของ
- EXCLUSIVE(4) :พฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลงอ.โขงเจียม-กำหนดตัว'ผู้ขาย'ลงนามล่วงหน้าที่ ปภ.
- EXCLUSIVE(5) : ถึงคิวอำนาจเจริญ! เปิดพฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 2 อำเภอ-รัฐเสียหาย 112 ล.
- EXCLUSIVE(6):ครบชุด! ข้อมูลทุจริตฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 5 อำเภอ อำนาจเจริญ-รัฐเสียหาย 215 ล.
- เปิดคำสั่ง ป.ป.ช.ไต่สวนอดีตผู้ว่าฯมุกดาหาร 4 รองฯ พวก 23 ราย คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมี
- ป.ป.ช.โชว์คำสั่งไต่สวน ‘สุรพล’ อดีตผู้ว่าฯอุบลฯ 22 ขรก. คดีจัดซื้อสารเคมี
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- สาว 24 ปี เจ้าของบ้านหรู 55 ล. ที่แท้ลูกผู้รับเหมากลุ่มอดีตผู้ว่าฯคดีฟอกเงิน
- 55 ล.บ้านหรู ถ.รัตนาธิเบศร์ สาว 24 ปี คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ
- โชว์โฉนด 55 ล.‘วิมลสิริ’สาว 24 ปี คดีฟอกเงิน ถูก ปปง.อายัดลอตใหม่
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- ตามไปดู ที่ดินผืนงาม 2 สาว คดีฟอกเงิน จำนอง 15 ล. ตรงข้ามห้างดัง
- ที่แท้ ‘พัชรีย์’ เป็นผู้รับมอบอำนาจ ‘เกรียงไกร’ คดีฟอกเงินจัดซื้อสารเคมี
- เปิดโฉนด-สัญญาจำนอง 15 ล.ที่ดินปากเกร็ด สาว 22 ปี คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ
- 16 รายชื่อถูก ปปง.อายัดทรัพย์คดีฟอกเงิน งบภัยพิบัติจัดซื้อสารเคมี 3 จว.
- เปิดตัว ‘เกรียงไกร’ คดีทุจริตงบภัยพิบัติจัดซื้อสารเคมีกลุ่มอดีตผู้ว่าฯ
- ล้มละลาย! เจาะเครือข่ายนักธุรกิจขอนแก่น ถูกปปง.อายัดทรัพย์พร้อมอดีตผู้ว่าฯอุบล
- บ.โชคอนันต์ กวาด 643 ล. ก่อนถูกอายัดทรัพย์ 4 คน คดีฟอกเงิน
- นักธุรกิจกลุ่มลูกอดีต รมต.รับโอนหุ้น 50 ล. บ.คดีฟอกเงิน อยู่ทาวน์เฮ้าส์
- ‘นิชานันท์’ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ มีเงินฝาก 19 บัญชี 80 ล.
- เผยโฉมที่ดิน 4 แปลง ‘หนุ่ม 27 ปี’ คดีฟอกเงิน จำนอง 100 ล.นักธุรกิจหญิง
- คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ‘หนุ่ม 27 ปี’โอนหุ้น 50ล.ให้นักธุรกิจกลุ่มลูกอดีต รมต.
- เปิดทรัพย์สิน 28 รายการ‘หนุ่ม 27ปี’คดีฟอกเงิน ที่ดิน 4 แปลงจำนอง100 ล.
- 2 บ.หนุ่ม 27-สาว 24 ปี คดีฟอกเงิน ถูกสรรพากรสอบภาษี ก่อน ป.ป.ง.อายัด
- ตามหา'วิมลสิริ'สาววัย 24 ปี ผู้ถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์ ถือหุ้น 60 ล.บ้านหลังโต
- พบ บ.ใหม่-นอกบัญชีอายัด ป.ป.ง. คดีทุจริตงบภัยพิบัติ สาววัย 24 ปี หุ้นใหญ่
- 3 บ.ถูกอายัดทรัพย์คดีฟอกเงินทุจริตซื้อสารเคมี ‘ผู้รับมอบอำนาจ’คนเดียวกัน
- หนุ่มวัย 27 ปี หุ้นใหญ่ บ.100 ล.คดีซื้อสารเคมี อยู่บ้านชั้นเดียว-เจ้าของอดีตนายทหาร
- พบอีกคน! สาววัย 24 ปี ถูกอายัดทรัพย์กลุ่มอดีตผู้ว่าฯ โผล่ซื้อหุ้น บ.รับเหมา 60 ล.
- หนุ่มวัย 27 ปี ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีทุจริตซื้อสารเคมี ขนเงินสด 68 ล. ตั้ง บ.รับเหมา
- บ.ทรัพย์การัณย์ ผู้ถูกอายัดทรัพย์กลุ่มอดีตผู้ว่าฯ ‘หุ้นใหญ่’โยงจัดซื้อสารเคมี 102 ล.
- เช็คสถานะคดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง12จว. ใครจ่อคิวถูกอายัด ซ้ำรอยอดีต'ผู้ว่าฯอุบล'
- โชว์รายได้308ล.!เปิดตัวบ.นิลธารฯ ถูกปปง.อายัดทรัพย์พร้อมก๊วนอดีตผู้ว่าฯอุบล
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- คำสั่งปลดอดีตผู้ว่าฯออกจากราชการ พันจัดซื้อสารเคมีปราบศัตรูพืช จว.อีสาน
- เปิด 31 ‘ตัวละคร-โครงข่าย' คดีจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช 4 จว. 25 อำเภอ 1.5 พันล้าน
- เบ็ดเสร็จ 25 อำเภอ'จัดซื้อยาปราบศัตรูพืช' เฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด 3 บริษัท 19.7 ล.
- พบ บ.ที่ 8 ฟันขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’ 524 ล. -ลาม สนง.เกษตรฯด้วย 43 ล.
- เจาะปมจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’จ.มุกดาหาร ขุมข่าย‘2 บ. -4 หจก.’เหมา 408 ล้าน
- เจาะ‘อำนาจเจริญ’ ขุมข่าย‘2 บ. -4 หจก.’กวาดจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’379 ล้าน
- เปิด 173 สัญญาจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’ จ.อุบลฯ 14 อำเภอ ‘2 บ.- 6 หจก.’ 674 ล.
- ‘สรรพากร’ส่งหนังสือยิบ 65 ฉบับ ‘แช่เข็ง-สอบภาษี’8 ผู้ขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’
- หลักฐาน-ชื่อ'หญิงสาว'มัด! 8 ผู้ขายยาปราบศัตรูพืช 1.4 พันล. ที่แท้‘เครือข่ายเดียวกัน’
- 2 บ.-6 หจก.ยาปราบศัตรูพืช โชว์รายได้ 4.2 พันล.-ส่งหนุ่มวัย 22 ปีแจ้งเลิกกิจการ
- พบ‘หุ้นใหญ่’หจก.ขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’อายุแค่ 22-25 ปี รับ 446.3 ล้าน
- เปิดชื่อขรก.-เอกชนยกจ.บึงกาฬ! ป.ป.ช.ลุยสอบพันปมจัดซื้อสารป้องเชื้อราข้าว
- พบ บ.ที่ 8 ฟันขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’ 524 ล. -ลาม สนง.เกษตรฯด้วย 43 ล.
- เปิดอีก 3 บ. พันคดี'ยาปราบศัตรูพืช’ ฟันอื้อ 469.9 ล - แจ้งเลิกกิจการ ‘วันเดียวกัน’
- เปิด 4 หจก.ซื้อขาย‘ยาฆ่าแมลง’ 87 ครั้ง 490 ล. ชนวนสอบผู้ว่าฯกับพวก 41 ราย