EXCLUSIVE(6):ครบชุด! ข้อมูลทุจริตฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 5 อำเภอ อำนาจเจริญ-รัฐเสียหาย 215 ล.

"...ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ลงนามประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอดังกล่าว ซึ่งการประกาศให้อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ยังไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นถึงขั้นที่จังหวัดอำนาจเจริญต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) โดยคณะทำงานพิจารณาสารเคมีที่เหมาะสมในการควบคุมการระบาดและกำจัดโรคพืชได้สืบราคา/สอบถามราคากลุ่มสารเคมีฯจากผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่มีสารเคมีที่สอบถามจำหน่ายและจัดทำหนังสือออกในนามร้านค้าดังกล่าวระบุราคาประมาณของสารเคมีขึ้นเอง..."

picasdddddddddd17 12 19

ในตอนที่แล้ว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายละเอียดผลการตรวจสอบปัญหาการทุจริตโครงการจัดซื้อสารเคมีช่วยเหลือเกษตรกรในการกำจัดศัตรูพืชที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (การเกิดโรคหรือการระบาดของแมลงศัตรูพืช) ปีงบประมาณ 2554-2555 พื้นที่ อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่นำส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. สอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในปัจจุบันนี้ ต่อเนื่องจาก ในพื้นที่ อำเภอสิรินธร อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล และอำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว ว่ามีข้อมูลและพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร (อ่านประกอบ : EXCLUSIVE(5) : ถึงคิวอำนาจเจริญ! เปิดพฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 2 อำเภอ-รัฐเสียหาย 112 ล.)

ทั้งนี้ พื้นที่ในจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการทุจริตโครงการจัดซื้อสารเคมีช่วยเหลือเกษตรกรในการกำจัดศัตรูพืชที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินดังกล่าว นอกจากพื้นที่ อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอเสนางคนิคม สร้างความเสียหายให้รัฐเป็นจำนวนเงิน 112 ล้านบาท แล้ว

ยังมีพื้นที่ อำเภอหัวตะพาน อำเภอลืออำนาจ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ อำเภอพนา และอำเภอชานุมาน รวมอยู่ด้วย

ปรากฎข้อมูลรายละเอียดดังนี้

จากการตรวจสอบสืบสวนกรณีการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ปีงบประมาณ 2554 – 2555 ของ สตง. ในพื้นที่ อำเภอหัวตะพาน อำเภอลืออำนาจ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ อำเภอพนาและอำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ พบว่า มีการประกาศให้อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ไม่เข้าหลักเกณฑ์ถือว่าเป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามความหมายของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 ข้อ 5 และข้อ 15และหลักเกณฑ์ตามนัยหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0617/ว 789 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2553 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย/ระเบียบดังกล่าวข้างต้น โดยอยู่ในความรับผิดชอบของเกษตรอำเภอนายอำเภอ ซึ่งได้รายงานความเสียหายเบื้องต้นด้านพืชที่เกิดจากแมลงศัตรูพืช/โรคพืช และหรือรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย และได้ยืนยันข้อมูลการระบาดของแมลงศัตรูพืช/โรคพืช พร้อมทั้งรับรองข้อมูลดังกล่าว

รวมทั้งเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ/อนุมัติรายงานความเสียหายเบื้องต้นด้านพืชระดับจังหวัดและยืนยันการระบาดของแมลงศัตรูพืช/โรคพืชและขอให้จังหวัดอำนาจเจริญประกาศให้เป็นพื้นประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ลงนามประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอดังกล่าว ซึ่งการประกาศให้อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ยังไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นถึงขั้นที่จังหวัดอำนาจเจริญต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช)

โดยคณะทำงานพิจารณาสารเคมีที่เหมาะสมในการควบคุมการระบาดและกำจัดโรคพืชได้สืบราคา/สอบถามราคากลุ่มสารเคมีฯจากผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่มีสารเคมีที่สอบถามจำหน่ายและจัดทำหนังสือออกในนามร้านค้าดังกล่าวระบุราคาประมาณของสารเคมีขึ้นเอง

พร้อมจัดทำบันทึกรายงานผลพิจารณาสารเคมีที่เหมาะสมตามราคาดังกล่าวซึ่งเป็นราคาแพงกว่าท้องตลาดที่ประสบภัยพิบัติและสำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญจัดทำแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯจังหวัดอำนาจเจริญได้อนุมัติจัดสรรเงินตามแผนการช่วยเหลือตามที่คณะทำงานสืบราคาสารเคมีมาข้างต้น เป็นสาเหตุให้คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ(ก.ช.ภ.อ.)อำเภอดังกล่าว มีมติให้ความช่วยเหลือและอำเภอจัดซื้อสารเคมีราคาแพงตามที่จังหวัดอำนาจเจริญจัดสรรเงินทดรองราชการฯ ดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

นอกจากนี้ก.ช.ภ.อ. มีมติให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฯ จัดซื้อสารเคมีและกำหนดราคาสารเคมีโดยไม่ได้สำรวจความเสียหายจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นและความต้องการรับความช่วยเหลือของผู้ประสบภัย และไม่ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่มาของข้อมูลที่เกษตรอำเภอรายงาน/ชี้แจงต่อที่ประชุม รวมทั้งราคาสารเคมียังมีราคาสูงกว่าราคาท้องตลาดในช่วงที่เกิดภัยพิบัติทำให้อำเภอจัดซื้อสารเคมีโดยไม่มีความเหมาะสม เกินความจำเป็น และราคาแพงกว่าท้องตลาด และคณะกรรมการจัดหาเจรจาต่อรอง ไม่ได้สืบราคาสารเคมีฯ จัดทำรายงานผลการเจรจาต่อรองขึ้นโดยไม่มีการเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอราคาเคมีนอกจากนี้สารเคมีที่จัดซื้อบางชนิดเป็นสารเคมีต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รวมเป็นเงิน 215.47 ล้านบาท

เบื้องต้น สตง. ได้ชี้มูลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ซึ่งผลการดำเนินการทางอาญาไปแล้วเช่นกัน

หากนับรวมความเสียหายที่ราชการ ได้รับจากพื้นที่ อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอเสนางคนิคม จำนวนเงิน 112.04 ล้านบาท ที่นำเสนอข้อมูลไปก่อนหน้านี้

เท่ากับว่าพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ สร้างความเสียหายให้กับราชการเป็นจำนวนเงินสูงถึง 327.51 ล้านบาทเลยทีเดียว

(ตอนหน้าว่าด้วยข้อมูลปัญหาการทุจริตโครงการจัดซื้อสารเคมีช่วยเหลือเกษตรกรในการกำจัดศัตรูพืชที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จังหวัดบึงกาฬ)

อ่านประกอบ:

EXCLUSIVE : ผลสอบลับคดีจัดซื้อยาฆ่าแมลงอุบลฯ เชิดผู้ขาย 10 ราย สมรู้ร่วม 'ฮั้ว' จนท.รัฐ

EXCLUSIVE(2): เบื้องหลังซื้อยาฆ่าแมลงอ.เขมราฐ -จนท.'อุปโลกน์' ภัยพิบัติ-จัดฉากฮั้วประมูล

EXCLUSIVE(3) :เสมียนตราอ.นาตาล 'คีย์แมน' จัดฉากซื้อยาฆ่าแมลง-ปลอมชื่อ 'เกษตรกร' รับของ

EXCLUSIVE(4) :พฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลงอ.โขงเจียม-กำหนดตัว'ผู้ขาย'ลงนามล่วงหน้าที่ ปภ.

EXCLUSIVE(5) : ถึงคิวอำนาจเจริญ! เปิดพฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 2 อำเภอ-รัฐเสียหาย 112 ล.

เปิดคำสั่ง ป.ป.ช.ไต่สวนอดีตผู้ว่าฯมุกดาหาร 4 รองฯ พวก 23 ราย คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมี

ป.ป.ช.โชว์คำสั่งไต่สวน ‘สุรพล’ อดีตผู้ว่าฯอุบลฯ 22 ขรก. คดีจัดซื้อสารเคมี

ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง