"...นายดนัย ดำรงชัยโยธิน สั่งให้ นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ (ลูกจ้างชั่วคราว) กระทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินในเช็คที่ต้องจ่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ขอคืนภาษีของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง เป็นชื่อของนางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ หรือนางชลธาร คงมั่น เพื่อนำเงินออกจากบัญชีเงินฝากภาษีอากรจ่ายคืนของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง"เข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ หรือนางชลธาร คงมั่น ก่อนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวนายดนัย ดำรงชัยโยธิน เป็นจำนวนหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปี 2565 ..."
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่สรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 4 ราย ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เป็นเงินจำนวนรวมกว่า 2,085,348,581.53 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมาเสนอไปแล้วว่า จุดเริ่มต้นคดี เกิดขึ้นจากการที่กรมสรรพากร ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวโทษ สรรพากรอำเภอบางเสาธงรายหนึ่ง ในคดีโกงภาษีที่คืนให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีพฤติการณ์แก้ไขเช็คเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง รวมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท หลังมีการตรวจสอบพบปัญหาเรื่องนี้ เมื่อเดือน ก.ค.2565 ที่ผ่านมา
พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ คือ การแก้ไขเช็คของผู้ประกอบการ ที่กรมสรรพากรจ่ายเงินภาษีคืนให้เป็นชื่อของตนเองแล้วนำเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง
จากนั้นเมื่อกรมสรรพากรตีเช็คฉบับใหม่ ๆ ออกมาให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ก็จะไปแก้ไขเช็คทยอยนำเงินมาคืนให้กับผู้ประกอบการที่ถูกยักยอกเงินไปแล้วก่อนหน้านั้น
คล้ายกับกระบวนการแชร์ลูกโซ่ นำเงินผู้ประกอบการรายใหม่ มาจ่ายคืนให้กลับผู้ประกอบการรายเดิมวนไปเรื่อย ๆ ซึ่งการทยอยคืนเงินอาจจะช้าไป 5 - 6 เดือน แล้วก็ทำในลักษณะนี้เรื่อย ๆ ไปเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการที่ถูกยักยอกเงินไปโวย แต่ให้เข้าใจว่า ได้เงินคืนล่าช้า
สำหรับผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสรรพากรอำเภอบางเสาธง ที่เป็นคนแก้ไขเช็คเอาเงินเข้าบัญชีตัวเองที่ธนาคารกรุงไทย สาขาในพื้นที่บางเสาธง ส่วนที่สอง เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว ผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า 3 ราย จะแยกกันไปทำเรื่องถอนเงินจากบัญชีที่ธนาคารสาขาใกล้เคียง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในกรมสรรพากรว่า เกี่ยวกับคดีนี้ในการสอบสวนข้อมูลเบื้องต้นของกรมสรรพากร พบพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดของข้าราชการและเจ้าหน้าที่นำเงินของทางราชการไปใช้เป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
โดยกระทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินในเช็คเพื่อนำเงินออกจากบัญชีเงินฝากของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธงเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัว และกระทำการปลอมแปลงเอกสารหลักฐานประกอบการจ่ายคืนเงิน เช่น สำเนาเช็ค ใบรับฝากของธนาคาร (Pay-in Slip) และรายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝากของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง (Statement) เพื่อให้เข้าใจว่าได้มีการจ่ายคืนภาษีให้แก่ผู้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว มีจำนวน 4 ราย เป็นข้าราชการ จำนวน 3 ราย คือ นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นางชลธาร คงมั่น และ นางสาวอุทุมพร เข็มวิชัย และลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 1 ราย คือ นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์
จากการสอบสวนพบพฤติการณ์ดังนี้
1. นายดนัย ดำรงชัยโยธิน สั่งให้ นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ (ลูกจ้างชั่วคราว) กระทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินในเช็คที่ต้องจ่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ขอคืนภาษีของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง เป็นชื่อของนางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ หรือนางชลธาร คงมั่น เพื่อนำเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางบ่อ ชื่อบัญชี "บัญชีเงินฝากภาษีอากรจ่ายคืนของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง" บัญชีเลขที่ XXX เข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนางสาวดวงกมลปลื้มสวาสดิ์ หรือนางชลธาร คงมั่น ก่อนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวนายดนัย ดำรงชัยโยธิน เป็นจำนวนหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปี 2565
อีกทั้งยังได้กระทำการปลอมแปลงเอกสารหลักฐานประกอบการจ่ายคืนเงิน เช่น สำเนาเช็ค ใบรับฝากของธนาคาร (Pay-in Slip) และรายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝากของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง (Statement) เพื่อให้เข้าใจว่าได้มีการจ่ายคืนภาษีให้แก่ผู้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วด้วย
2. นอกจากนี้ยังปรากฎว่า นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ และนางชลธาร คงมั่น ได้ถอนเงินที่ได้จากการกระทำดังกล่าวออกจากบัญชีส่วนตัว นำไปให้นางสาวอุทุมพร เข็มวิชัย บริเวณหน้าสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 15 ด้วย
เบื้องต้น กรมสรรพากรพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้มีมูลอันควรกล่าวหาข้าราชการและลูกจ้างรายดังกล่าวกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง เพื่อดำเนินการสอบสวนข้าราชการและลูกจ้างชั่วคราวดังกล่าว ระหว่างรอผลพิจารณาการสอบสวนทางวินัย กรมสรรพากรได้มีคำสั่งให้ข้าราชการทั้ง 3 รายออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2565 เป็นต้นมา
สำหรับลูกจ้างชั่วคราวกรมสรรพากร โดยสำนักงานสรรพากรภาค 5 มีคำสั่งให้เลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวรายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปเช่นกัน
ขณะที่มีรายงานข่าวว่าในช่วงเดือนพ.ย.2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ได้มีการสรุปผลการสอบสวนแล้ว โดยเห็นควรให้ไล่ออกราชการ นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นางชลธาร คงมั่น และ นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์
ส่วน นางสาวอุทุมพร เข็มวิชัย ข้อเท็จจริงยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด เห็นควรยุติการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง หลังถูกกล่าวหาได้รับเงินสด 9 ล้าน
ที่สำคัญภายหลังมีการตรวจสอบพบปัญหาเรื่องนี้ กรมสรรพากรได้สั่งการให้มีการปรับปรุงระบบการจัดทำเช็คที่ต้องจ่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่ ให้ส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นซ้ำรอยได้อีก
เหล่านี้ เป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคดีโกงคืนภาษีของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ในส่วนของกรมสรรพากร ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบก่อนที่คณะกรรมการป.ป.ช.จะมีมติชี้มูลความผิดกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายดนัย ดำรงชัยโยธิน นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่สรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 4 ราย ร่ำรวยผิดปกติ เป็นเงินจำนวนรวมกว่า 2,085,348,581.53 บาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว
ส่วนข้อมูลอื่น ๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
อ่านประกอบ :
- โกงคืนภาษี 800 ล.! สรรพากร กล่าวโทษ จนท.บางเสาธง แก้ไขเช็คเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง (1)
- ไม่ใช่แค่สรรพากรอำเภอ! พฤติการณ์โกงคืนภาษี800 ล. มีผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า3 ราย คอยช่วย (2)
- เสียหาย 159 ล.! อธิบดีสรรพากร แจงคดีโกงเงินคืนภาษีบางเสาธง ให้จนท.ออกราชการไปแล้ว (3)
- ป.ป.ช.ล่าตัวการใหญ่! คดีโกงคืนภาษี800 ล.บางเสาธง 'สรรพากร' ให้ออกราชการไปแล้ว 2 คน (4)
- ขมวดปม! คดีโกงคืนภาษีบางเสาธง 800 ล. โมเดลทุจริตใหม่จนท.แก้ไขเช็คเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง (5)