"...บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างงานโครงการต่าง ๆ ของ แขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส ในช่วงปีงบประมาณ 2558 ถึงปีงบประมาณ 2560 จำนวน 130 โครงการ รวมเป็นเงินค่าจ้าง 448,847,673 บาท โดยนายสถาพัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้อนุมัติให้ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษตามหนังสือแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส ที่ คค 0703.24/1967 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ..."
ในคำพิพากษาคดีนี้ ยังมีการระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด ว่า เป็นผู้รับเหมาที่ได้งานจากแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส จำนวนนับร้อยโครงการ และถูกฟ้องคดีร่วมกับนายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์ ด้วย จึงน่าเชื่อว่า เงินที่นำไปซื้อตั๋วแลกเงิน เพื่อซื้อห้องชุด 2 ห้อง น่าจะเป็นของ นายวีระยุทธ นันทมงคลกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทฯเอง
คือ ข้อมูลสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ทิ้งท้ายเอาไว้
ในการเปิดเผยรายละเอียดคำพิพากษาของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ที่พิพากษายึดทรัพย์ห้องชุด 2 ห้อง ในอาคารโครงการ ชิลค์ เพลส พหลโยธิน หลักสี่ เขตบางเขน กทม. ในชื่อ "นางสุดจิตร์ เครือฟั่น" ราคาห้องละ 2,469,380 บาท รวม 4,938,760 บาท พร้อมด้วยดอกผลที่เกิดขึ้นจากทรัพย์สินดังกล่าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน
จากคดี นายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์ อดีตผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ กรณีซื้อห้องชุด 2 ห้อง ดังกล่าว ตามสำนวนผลการไต่สวนคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
โดย บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด ถูกระบุว่า เป็นเจ้าของตั๋วแลกเงิน 2 ฉบับ ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขานราธิวาส ที่ นายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์ ชำระเงินจอง 120,000 บาท และชำระเงินค่าห้องชุด 2 ห้อง จำนวน 4,818,760 บาท
ขณะที่ นายวีระยุทธ เบิกความต่อศาลฯ ว่า ตั๋วแลกเงินทั้ง 2 ฉบับไม่ใช่ตั๋วแลกเงินที่เป็นธุรกรรมของบริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด แต่เป็นของนายสถาพัฒน์ ที่ขอให้ช่วยซื้อให้
นายวีระยุทธ รู้จักกับนายสถาพัฒน์ เมื่อปี 2556 ขณะที่ย้ายมารับตําแหน่งที่นราธิวาส จึงทราบว่านายสถาพัฒน์ จบการศึกษาจากสถาบันเดียวกัน
ในช่วงเดือนกันยายน 2558 ถึงเดือนตุลาคม 2558 นายสถาพัฒน์ นําเงิน มาฝากไว้ 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 7,000,000 บาท เนื่องจากนายสถาพัฒน์ ไม่มีตู้นิรภัย ต่อมาช่วงวันที่ 6 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2558 นายสถาพัฒน์ ขอให้ช่วยซื้อตั๋วแลกเงิน 2 ฉบับ และให้นําไปให้ที่กรุงเทพมหานคร
แต่ศาลฯ ไม่เชื่อ
- วิบากกรรมคดีทุจริต:ยึดทรัพย์ห้องชุด4.9 ล.อดีตผอ.ทางหลวงชนบทนราฯ ไล่ออกราชการไปแล้ว
- กรมทางหลวงชนบทไล่ออกแล้ว ผอ.แขวงนราธิวาส ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล-โดนสอบรวยผิดปกติซ้ำ
- ป.ป.ช.สอบรวยผิดปกติ ผอ.ทางหลวงชนบทนราธิวาส ซื้อสดคอนโด 5 ล.-เจ้าตัวยันใช้เงินครอบครัว
- ใช้ตั๋วแลกเงินผู้รับเหมาซื้อ! เบื้องลึกคอนโด อดีตผอ.ทางหลวงชนบทนราฯ ก่อนโดนยึดทรัพย์ (1)
- ไร้ตู้นิรภัย-แม่ขายที่ดิน 40 ล.ฟังไม่ขึ้น! ไขคำพิพากษายึดคอนโด อดีตผอ.ทางหลวงชนบทนราฯ (2)
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียด เกี่ยวกับ บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด ฉบับเต็มที่ปรากฏอยู่ในคำพิพากษาคดีนี้
คำพิพากษาศาลฯ ระบุว่า บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างงานโครงการต่าง ๆ ของ แขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส
ในช่วงปีงบประมาณ 2558 ถึงปีงบประมาณ 2560 จำนวน 130 โครงการ รวมเป็นเงินค่าจ้าง 448,847,673 บาท
โดยนายสถาพัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้อนุมัติให้ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษตามหนังสือแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส ที่ คค 0703.24/1967 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2562
อีกทั้งบริษัทดังกล่าวและนายยุทธการ นันทมงคลกุล กรรมการบริษัทถูกพนักงานอัยการฟ้องร่วมกับ นายสถาพัฒน์ เป็นจําเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีหมายเลขดําที่ อท 58/2562 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้ถูกกล่าวหาในการกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ
ซึ่งจําเลยที่ 2 และที่ 3 ในคดีดังกล่าว ให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น
เมื่อฟังประกอบกับหลักฐานใบขอซื้อตราสารการเงินที่ระบุผู้ซื้อ คือบริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด
กรณีจึงเชื่อได้ว่าเงินที่นําไปซื้อตั๋วแลกเงินทั้ง 2 ฉบับเป็นของนายวีระยุทธซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการบริษัทดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับ บริษัท เอส.โอ.เอ็น.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เอส.โอ.เอ็น.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 2 กันยายน 2557 ทุน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 62 ถนนสุริยะประดิษฐ์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนน,สะพานการขายและบริการ นาย วีระยุทธ นันทมงคลกุล นาย ยุทธการ นันทมงคลกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 29 พฤศจิกายน 2565 นาย สรวิศ นันทมงคลกุล ถือหุ้นใหญ่สุด
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด มิได้ถูกกล่าวโทษเป็นจำเลยหรือมีความผิดในคดียึดทรัพย์นายสถาพัฒน์ ด้วยแต่อย่างใด
ส่วนคดีที่พนักงานอัยการฟ้องร่วมกับ นายสถาพัฒน์ ในคดีหมายเลขดําที่ อท 58/2562 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินโทษไปแล้วหรือไม่
บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด และผู้เกี่ยวข้อง จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่