"...กรณีการซื้อที่ดินทำร้านกาแฟ เคยพูดคุยกับลูกน้องของเจ้าของขายไข่ไก่ ซึ่งเป็นผู้ที่ขายที่ดินให้กับนางศิริพร ทราบว่า นางศิริพรได้ซื้อที่ดินเพื่อทำบ้านหลังดังกล่าวเป็นร้านกาแฟด้วยเงินสด 3 ล้านบาท และยังซื้ออาคารพาณิชย์อีกแห่งซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายไข่ไก่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 85 ที่มีตำแหน่งอยู่ตรงกับบ้านหลังนี้คิดเป็นมูลค่า 10 ล้านบาท รวม 13 ล้านบาท ซึ่งการซื้อขายดังกล่าวเป็นการจ่ายด้วยเงินสดเพียงอย่างเดียว..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดตามนำเสนอข้อมูลการลงทุนทำธุรกิจของคนในครอบครัว "นางศิริพร รัตนปราการ" อดีตหัวฝ่ายการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีทุจริตยักยอกเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ขณะนี้มีรายงานยอดความเสียหายเพุ่งสูงถึงตัวเลข 600 กว่าล้านบาท มาอย่างต่อเนื่อง
@ นางศิริพร รัตนปราการ
ข้อมูลสำคัญที่ตรวจสอบพบไปแล้ว มีดังนี้
1. นางศิริพร รัตนปราการ เป็นเจ้าของร้านอาหารในกรุงเทพ 2 แห่ง คือ ภัตตาคารบ้านทุ่ง เมืองเอก-รังสิต ,ร้านอาหารบ้านทุ่ง กุ้งเผาไก่ย่าง ส่วนลูก ๆ ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของ ณ บ้านทุ่ง อัมพวา รีสอร์ท ติดริมน้ำ ตกแต่งสไตล์อังกฤษหรูหรา ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงเดือนธันวาคม 2564
ที่น่าสนใจ คือ ในช่วงหลังปี 2562 นางศิริพร รัตนปราการ แจ้งเปลี่ยนคำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ใหม่ เป็น นางสาว พชร จันทนะรัตน์ ขณะที่ชื่อ นางสาว พชร จันทนะรัตน์ ก็ปรากฏเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัท ณ บ้านทุ่ง กรุ๊ป จำกัด ของลูก ที่ดำเนินกิจการ ณ บ้านทุ่ง อัมพวา รีสอร์ท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า คนในครอบครัวนางศิริพร รัตนปราการ นำเงินทุนจำนวนมากจากไหนมาใช้ในการก่อสร้างรีสอร์ท รวมไปถึงการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ณ บ้านทุ่ง กรุ๊ป จำกัด และแหล่งเงินดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯด้วยหรือไม่
@ ณ บ้านทุ่ง อัมพวา รีสอร์ท
2. ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ลูก ๆ ของ นางศิริพร รัตนปราการ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเอกชนขึ้นมาดำเนินธุรกิจร้านอาหารอีก 1 แห่ง มีชื่อว่า บริษัท บีที ซินดิเคท จำกัด ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท บีที ซินดิเคท จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 มีทุน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 64 หมู่ 1 ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี แจ้งประกอบธุรกิจกิจการร้านอาหาร จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทาน เครื่องดื่มกาแฟ เบเกอรี่ อาหารทานเล่นประกอบกิจการรีสอร์ท ห้องพัก รายวัน รายเดือน
ปรากฏชื่อ นางสาว ธนัสนี รัตนปราการ (นามสกุลเดียวกับ นางศิริพร รัตนปราการ ถูกระบุว่าเป็นลูกสาว)
ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565 มีผู้ถือหุ้นจำนวน 3 ราย คือ นางสาว ธนัสนี รัตนปราการ จำนวน14,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ 1,400,000 บาท นาย กฤตนุ รัตนปราการ จำนวน 5,000หุ้นมูลค่า 500,000 บาท นาย ปัญจมะ จันทนะรัตน์ จำนวน 1,000หุ้น มูลค่า 100,000 บาท
ขณะที่ นาย ปัญจมะ จันทนะรัตน์ ซึ่งใช้นามสกุลเดียวกับ นางศิริพร รัตนปราการ หลังเปลี่ยนชื่อคำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ใหม่ เป็น นางสาว พชร จันทนะรัตน์ ถูกระบุว่า เป็นพ่อของ นางศิริพร
- สรุป 4 พฤติการณ์ 'จนท.-ผจก.'คดีทุจริตเงินส.เกษตรฯ - 'ลูกสาว' ไม่ตอบแหล่งเงินรีสอร์ทหรู
- เปิดเอกสารตั้ง บ.รีสอร์ทหรูอัมพวา ตามไขปริศนา จนท.สหกรณ์เกษตรฯ เอาเงินจากไหนมาสร้าง? ก่อนหนี
- ข้อมูลใหม่! ก่อนแม่หนี 'ลูก' จนท.สหกรณ์เกษตรฯ ตั้ง บ.อีกแห่ง ทุน 2 ล.ทำธุรกิจร้านอาหาร
- เผยสัมพันธ์ลึก'บิ๊กสีกากี-จนท.ส.เกษตรฯ'สนิทสนมกันมาก-เปลี่ยนไปใช้สกุล 'พ่อ' ก่อนหนี
3. นางศิริพร มีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูง ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัดทางภาคอีสาน มีเส้นสายดีในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และก็เป็นนายตำรวจระดับสูงผู้นี้เอง ที่ให้ความช่วยเหลือพาตัวนางศิริพร หลบหนีออกไปนอกประเทศไทย และก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นไปด้วยความล่าช้า เบื้องต้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลออนไลน์ พบว่า นางสาวธนัสนี รัตนปราการ (นามสกุลเดียวกับ นางศิริพร รัตนปราการ ถูกระบุว่าเป็นลูกสาว) ปรากฏข้อมูลใน นิตยสาร my home บ้านและสวน ว่าเป็นเจ้าของร้านกาแฟชื่อว่า 24:7 Coffee Club
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา นำชื่อร้านกาแฟ 24:7 Coffee Club ไปสืบค้นในโปรแกรม Google Maps พบว่า ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 85 เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นบ้านที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย และไม่มีเลขที่บ้านแต่อย่างใด (ดูภาพประกอบ)
จากการสอบถามข้อมูลผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง ได้รับการยืนยันว่า บ้านหลังดังกล่าวเคยเปิดเป็นร้านกาแฟจริง เปิดเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน แต่น่าจะเปิดได้ไม่ถึงเดือนแล้วก็ปิดกิจการไปเลย เข้าใจว่าขายได้ไม่ดี
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ น.ส.ธนัสนี พร้อมกับเอารูป น.ส.ธนัสนีให้ดู ปรากฏว่า เพื่อนบ้านไม่รู้จักกับ น.ส.ธนัสนี แต่อย่างใด
แต่เมื่อเอารูปของนางศิริพรให้ดู เพื่อนบ้านยืนยันว่า "รู้จัก เคยคุยกันบ้าง" พร้อมระบุว่า นางศิริพร เคยเล่าให้ฟังว่า ตัวเองทำงานที่เกษตร แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนักว่าทำงานเกษตรหมายถึงอะไร อย่างไร
เพื่อนบ้านรายนี้ ยังเล่าต่อว่า นางศิริพรเคยมาทำสัญญาเช่าหอพักอยู่ในบริเวณข้าง ๆ แต่เช่าให้ลูกน้องที่ทำงานในพื้นที่ ทำงานในร้านกาแฟ และร้านอาหารในเมืองเอก ซึ่งการเช่านั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่นางศิริพรได้มาซื้อพื้นที่ทำร้านกาแฟ
"กรณีการซื้อที่ดินทำร้านกาแฟ เคยพูดคุยกับลูกน้องของเจ้าของขายไข่ไก่ ซึ่งเป็นผู้ที่ขายที่ดินให้กับนางศิริพร ทราบว่า นางศิริพรได้ซื้อที่ดินเพื่อทำบ้านหลังดังกล่าวเป็นร้านกาแฟด้วยเงินสด 3 ล้านบาท และยังซื้ออาคารพาณิชย์อีกแห่งซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายไข่ไก่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 85 ที่มีตำแหน่งอยู่ตรงกับบ้านหลังนี้คิดเป็นมูลค่า 10 ล้านบาท รวม 13 ล้านบาท ซึ่งการซื้อขายดังกล่าวเป็นการจ่ายด้วยเงินสดเพียงอย่างเดียว"
"อาคารพาณิชย์ดังกล่าว ก็เชื่อมต่อกับร้านกาแฟแห่งนี้เช่นกัน และทางร้านกาแฟก็ไม่มีเลขที่เป็นของตัวเอง แต่ใช้น้ำไฟของอาคารพาณิชย์ที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 85 ซึ่งทางลูกน้องของนางศิริพรนั้นก็เคยเอาอาคารพาณิชย์ที่ว่านี้เปิดเป็นร้านขายข้าวแกง ก่อนที่จะปิดกิจการไปเช่นเดียวกับร้านขายกาแฟ"
อาคารพาณิชย์ที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 87 ซึ่งตำแหน่งอยู่ตรงกับบ้านที่เคยเป็นร้านกาแฟในซอย 85 โดยพื้นที่ที่อยู่ในสี่เหลี่ยมนั้นคือจุดที่คาดว่านางศิริพรได้ทำการซื้อที่มาก่อน
เพื่อนบ้านยังกล่าวทิ้งท้ายว่า "ทุกวันนี้ลูกน้องของนางศิริพรยังได้เข้ามาในบ้านหลังดังกล่าวอยู่ โดยจะเข้ามารดน้ำต้นไม้อยู่เป็นระยะ ๆ แต่บ้านก็จะมีลักษณะปิดเช่นนี้"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังร้านที่เคยปูกระเบื้องและจัดสวนให้กับร้านกาแฟ 24:7 Coffee Club เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โดยร้านที่เคยทำสวนให้ข้อมูลอีกด้านว่า เคยไปจัดสวนให้กับร้าน 24:7 จริง แต่ว่าไปจัดสวนในช่วงกลางปี 2559 และไปปูกระเบื้องอีกครั้งก็คือเดือน ม.ค. 2560 ก็ยังเห็นว่าเปิดกิจการอยู่ในช่วงนั้น โดยเวลาจะเข้าไปปูกระเบื้องก็มักจะเข้าไปผ่านทางอาคารพาณิชย์ในซอย 85
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลอาคารพาณิชย์อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟ พบว่าเป็นอาคารเลขที่ 300/101 ถูกปิดตายเช่นกัน (ดูภาพประกอบ)
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ใช้โปรแกรม Google Maps ดูประวัติสถานที่ย้อนหลังพบว่าในช่วงเดือน มิ.ย. 2555 ที่ตั้งอาคารพาณิชย์แห่งนี้เคยเป็นร้านขายไข่ไก่จริง
ก่อนที่ในช่วง พ.ย. 2559 อาคารดังกล่าวก็กลายเป็นร้านขายข้าวแกงตามที่ได้มีการแจ้งไว้ แต่ปรากฎว่าในเดือน ธ.ค. 2560 ร้านขายข้าวแกงดังกล่าวก็ได้ปิดกิจการไป (ดูภาพประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า ได้เดินทางไปยังร้านอาหาร บ้านทุ่งเมืองเอก รังสิต ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสอบถามกับพนักงานเกี่ยวกับ น.ส.ธนัสนี
แต่พนักงานร้านยืนยันว่า น.ส.ธนัสนีไม่ได้เข้ามาที่ร้านนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา จึงได้ฝากนามบัตรเอาไว้ก่อนจะเดินทางกลับ
อนึ่ง ในระหว่างการลงพื้นที่ ผู้สื่อข่าวพบข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท บีที ซินดิเคท กล่าวคือ ในเฟซบุ๊กของภัตตาคารบ้านทุ่งนั้น เมืองเอก รังสิต เคยโพสต์ประกาศขึ้นราคาอาหารเมื่อวันที่ 28 มี.ค.โดยลงท้ายคำประกาศว่า บริษัท บีที ซินดิเคท (ดูภาพประกอบ)
ส่วนแผนที่บริษัท บีที ซินดิเคทที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ระบุตำแหน่งมาที่ภัตตาคารบ้านทุ่งเช่นกัน (ดูภาพประกอบ)
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลการลงทุนทำธุรกิจของคนในครอบครัว "นางศิริพร รัตนปราการ" อดีตหัวฝ่ายการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีทุจริตยักยอกเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
อ่านเรื่องประกอบ :
- งานเข้า ก.เกษตรฯ! จนท.สหกรณ์ออมทรัพย์ ทุจริตเงินบัญชีสมาชิกมากกว่า 30 ล. (1)
- ยอดเสียหายพุ่ง 200ล.! สหกรณ์ก.เกษตรฯ ลุยแจ้งความ 'จนท.-ผจก.' คดียักยอกเงินแล้ว (2)
- ทุน 2.4 พันล.! เปิดตัวสหกรณ์ก.เกษตรฯ ก่อนเกิดกรณีทุจริตจนท.ยักยอกเงินหลายสิบล้าน (3)
- 2ผู้ต้องสงสัยหนีนานแล้ว! เกษตรฯเร่งแก้ทุจริตสหกรณ์ กันทุนสำรอง4ล./วัน รับมือสมาชิกแห่ถอน (4)
- โชว์คำสั่งสหกรณ์ก.เกษตรฯ สอบยักยอก 200 ล.-เปิดชื่อ 2 ผู้ต้องสงสัยหายตัวตั้งแต่ 28 มี.ค. (5)
- แกะรอย 'จนท.-ผจก.' คดียักยอกส.เกษตรฯ 200 ล. มีร้านอาหารหรู-เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ ปี62 (6)
- เสียหายแล้ว 491 ล.'มนัญญา'สอบทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ ก.เกษตร ชง'ดีเอสไอ-ปปง.'ตั้งคดีพิเศษ (7)
- ข้อมูลลับ จนท.สหกรณ์เกษตรฯ คดียักยอก 491 ล. เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ ถือหุ้นรีสอร์ทหรูอัมพวา (8)
- โพรไฟล์ลึก! ผจก.คดียักยอกส.เกษตรฯ 491ล. เจ้าของรีสอร์ทเขาค้อ-ประกาศขาย 23.5 ล้าน (9)
- ทะลุ 600 ล.! เปิดยอดเสียหายคดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯล่าสุด -มีอดีตอธิบดีโดนด้วยหลายล้าน (10)
- เปิดแผนการ? จนท.คดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯ600ล.เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่-ถือหุ้นรีสอร์ทหรู ก่อนหนี (11)
- เปิดเอกสารตั้ง บ.รีสอร์ทหรูอัมพวา ตามไขปริศนา จนท.สหกรณ์เกษตรฯ เอาเงินจากไหนมาสร้าง? ก่อนหนี (12)
- สรุป 4 พฤติการณ์ 'จนท.-ผจก.'คดีทุจริตเงินส.เกษตรฯ - 'ลูกสาว' ไม่ตอบแหล่งเงินรีสอร์ทหรู (13)
- ข้อมูลใหม่! ก่อนแม่หนี 'ลูก' จนท.สหกรณ์เกษตรฯ ตั้ง บ.อีกแห่ง ทุน 2 ล.ทำธุรกิจร้านอาหาร (14)
- เสียหายทะลุ 620 ล.'มนัญญา'ดึง ปปง.-ดีเอสไอ สอบคดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯ (15)
- 'มนัญญา'ข้องใจ ปธ.สหกรณ์เกษตรฯ ไม่ให้ความร่วมมือสางคดียักยอกทรัพย์ เสียหายล่าสุด 644 ล. (16)
- ขมวดปมร้อน! คดีทุจริตส.เกษตรฯ'มนัญญา'งัดข้อฝ่ายบริหาร-สะพัด'บิ๊กสีกากี'พา จนท. หนี? (17)
- ดูแล้วองค์ประกอบครบ! อธิบดี DSI ไฟเขียวรับเรื่องทุจริตสหกรณ์เกษตรฯ 644 ล. เป็นคดีพิเศษ (18)
- เกษียณแล้วก็ไม่เว้น! ผบ.ตร.สั่งสอบตำรวจช่วยผู้ต้องหาคดีส.เกษตรหนี ทำจริงโดนอาญา-วินัย (19)
- เผยสัมพันธ์ลึก'บิ๊กสีกากี-จนท.ส.เกษตรฯ'สนิทสนมกันมาก-เปลี่ยนไปใช้สกุล 'พ่อ' ก่อนหนี (20)